จุดเริ่มต้นจากความรัก คุณรุจจิ์ จุลชาต (Brand Creative Director) และ คุณฝน รติรส จุลชาต (CEO) สองผู้ก่อตั้งแบรนด์ rati ด้วยสภาพผิวที่ค่อนข้างแพ้ผิวระคายเคืองง่ายและมาจากแนวคิดการทำของชำร่วยในงานแต่งงานที่อยากจะถ่ายทอดเรื่องราวและส่งมอบความรัก และด้วยความเชี่ยวชาญด้านเคมีและแร่ธาตุจึงตั้งใจทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ Natural Deodorant Spray สเปรย์ระงับกลิ่นกายสูตรธรรมชาติ ปราศจากการแพ้และการระคายเคือง ผลิตจากสารส้มเกรดดีที่สุด
การนำสารส้มซึ่งเป็นส่วนผสมที่คนไทยคุ้นชินกันอยู่แล้วมาสร้างสรรค์ใหม่ผสมผสานไอเดียและเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงทำให้สเปรย์ระงับกลิ่นกายทางเลือกที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีตอบโจทย์ผู้ใช้จนทำให้เกิดการพัฒนาแบรนด์ Rati ที่มีความหมายว่า ‘ความรัก’ แบรนด์ความงามของคนไทยด้วยการต่อยอดผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตามมา
เพื่อให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีให้กับร่างกายตัวเอง
หลังการพัฒนาธุรกิจแบรนด์ rati ให้เข้าสู่ตลาดความงามจนเป็นที่รู้จักแล้ว และเพื่อตอบโจทย์การดูแลผิวพรรณและร่างกายให้ครอบคลุมขึ้นโดยยังคงปรัชญาเดิมกับแนวคิดหัวใจหลักในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองและอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเสริมความมั่นใจให้กับคนไทยทุกคนด้วยการดูแลตัวเองให้รู้สึกดีขึ้นในทุกๆ วันกับผลิตภัณฑ์ใหม่ Multi – Purpose Dry Oil ออยล์เนื้อละมุนที่ออกแบบให้สอดรับกับสภาพอากาศเมืองไทย ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ มอบความชุ่มชื้นผิวยาวนาน
ร่างกายของเราสำคัญที่สุด rati จึงเลือกทำ Personal Care
“พวกเราทั้งคู่เคยผ่านการป่วยที่ต้องอยู่โรงพยาบาลและพักฟื้นนานๆกันมาทั้งคู่และรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่เศร้า หงุดหงิด ที่ไม่สามารถใช้ร่างกายได้เหมือนเดิม โดยสาเหตุหลักมาจากการทำงานหนัก พักผ่อนน้อยและไม่ดูแลร่างกายตัวเองให้ดี ทำให้เราได้เห็นคุณค่ของร่างกายและเริ่มดูแลใส่ใจมากขึ้น รู้สึกว่าเป็นไลฟ์สไตล์ที่สนุก มีพลังดีๆ เมื่อเราดูแลร่างกายให้ดีแล้วก็จะทำให้เรามีพลังในการทำเรื่องอื่นได้อีกมากมาย” – รุจจิ์ จุลชาต (Brand Creative Director) และ รติรส จุลชาต (CEO)
หันมาฟังเสียงร่างกายและจิตใจตัวเอง
“ผมคิดว่าในยุคก่อนคนไทยอาจจะยังไม่ค่อยกล้าสนุก ไม่ค่อยมีความมั่นใจในการรักตัวเองหรือรักในสิ่งที่ตัวเองทำ พอมาในยุคนี้ที่หลายๆ คนเริ่มมั่นใจและรักตัวเอง ผมมองว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ยังเห็นคนรอบตัวบางคนที่ยังรู้สึกไม่มั่นใจไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือเรื่องงาน จนไม่ทำให้ไม่กล้าคิดหรือทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ผมจึงอยากให้แบรนด์ Rati เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบอกและช่วยให้ทุกคนรู้สึกมั่นใจ มีพลังในการทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมในทุกวัน เลยเลือกทำผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่ช่วยลดความไม่มั่นใจของร่างกาย ช่วยส่งเสริมให้สุขภาพร่างกาย ผิวพรรณและจิตใจให้มีคุณภาพที่ดีที่สุด พร้อมจะเปล่งประกายตัวตนของตัวเองออกเหมือนที่ Rati อยากบอกทุกคนให้ Shine Yourself ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าเราพร้อมจะรักและสะท้อนความเป็นตัวของตัวเองออกมาแล้ว จะเริ่มมีความกล้าในการลองทำสิ่งต่างๆ หรือกล้าใช้ชีวิตในแบบตัวเองมากขึ้น”
Multi – Purpose Body Oil ตอบโจทย์เนื้อสัมผัสและประสิทธิภาพในการดูแลผิวพรรณ
“หลายๆ ครั้งที่ไปต่างประเทศจะต้องมีคนฝากซื้อ Body Oil ทำให้เรารู้ว่าบอดี้ ออยล์ สามารถใช้ในชีวิตประจำวันทั้งไปทะเล อาบแดด ใช้เป็น aftersun หรือทาผิวในทุกวัน เพื่อให้ผิวดูโกลว์ ดูสุขภาพดี ก็เลยทำให้มีคำถามขึ้นมาว่า ถ้าใครที่จะไปเที่ยวทะเลก็ต้องนึกถึงประเทศไทยสิ แต่ในตลาดเมืองไทยกลับยังไม่มีบอดี้ ออยล์ที่เป็นแบรนด์โดดเด่นพอจะให้คนต่างชาติซื้อกลับไปใช้ได้ ก็เลยคุยกันว่าเรามาทำบอดี้ ออยล์ที่ดีที่มีความเป็นไทยให้ต่างชาติซื้อกลับกัน นี่เป็นจุดเริ่มต้นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ Multi – Purpose Body Oil”
เริ่มต้นพัฒนาสูตรให้กับอากาศเมืองไทย
“เมื่อเราตั้งโจทย์การเป็นบอดี้ ออยล์ สำหรับเมืองไทยแล้ว ก็เริ่มพัฒนาสูตรที่เหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองไทยให้มากที่สุด บ้านเราร้อนและร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี แน่นอนว่าถ้าจะใช้ออยล์ที่มีความเหนียว เท็กซ์เจอร์หนักๆ เหมือนแบรนด์ต่างประเทศก็ทำให้เราไม่สามารถหยิบขึ้นมาใช้ได้ในทุกวัน แบรนด์ Rati เลยพัฒนาคิดค้นสูตรเนื้อสัมผัสให้มีความเบา สบายผิวและซึมไวที่สุด เพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศ”
Science / International Research x Thai Wisdom
“ด้วยโจทย์ที่เราอยากสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้คนไทยภูมิใจและอยากทำบอดี้ ออยล์ที่เหมาะกับประเทศไทยมากที่สุด เราเลยศึกษาภูมิปัญญาไทยเดิมและรู้สึกอินมาก ทำให้เราใส่ใจในการศึกษา R&D ค้นคว้าพัฒนาพร้อมเลือกส่วนประกอบจากงานวิจัยที่มีผลวิจัยระดับโลกรองรับ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดและคนที่มีสภาพผิวแพ้ระคายเคืองง่ายก็สามารถใช้ได้โดยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ อย่างในผลิตภัณฑ์ rati Natural Deodorant Spray มีสารสกัดจากใบฝรั่งและเปลือกมังคุดที่คนไทยสมัยก่อนใช้ต้มอาบแก้โรคผิวหนังหรือเคี้ยวเพื่อลดกลิ่นปากกันอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อศึกษาก็พบงานวิจัยระดับโลกรองรับว่า สารกสัดทั้งสอง มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบและลดการสะสมของแบคทีเรียได้จริง”
ใส่ความเป็นไทย ในรสชาติสากล
“เมื่อศึกษางานวิจัยมากขึ้น เราก็เจอความเท่แบบไทยอย่างเช่น คนไทยโบราณที่ผิวสวยตามบันทึกต่างๆ ที่บอกว่ามีผิวสีเหลืองอมขิ้มจากการอบร่ำขมิ้น เมื่อซึ่งเมื่อเทียบกับงานวิจัยปัจจุบัน ก็พบว่าขมิ้นมีคุณสมบัติเป็น Aftersun โดยธรรมชาติอยู่แล้ว ซึ่งเหมาะกับประเทศเขตร้อนที่อยู่กับแดดแบบเราอยู่แล้ว เราอยากใส่เรื่องความเท่ของไทยเข้าไปให้ทุกคนได้รับรู้ เราจึงต้องจริงจังกับการออกแบบรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ โดยตั้งใจออกแบบให้ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นสามารถไปวางข้างแบรนด์ระดับโลกได้อย่างสวยงามกลมกลืน และสิ่งที่เราให้ความสำคัญคือโจทย์รักษ์โลก ทำให้ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นจะใช้พลาสติกในสัดส่วนที่น้อยที่สุด หรืออย่างภาชนะของเทียนหอมที่เราเลือกให้ศิลปินเซรามิกชาวพะเยามาสร้างสรรค์เพราะผลงานของศิลปินไทยนั้นดีและเท่จริงๆ เพียงแต่ยังไม่ค่อยมีคนเห็น”
เราทุกคนดูดีอยู่แล้ว แค่ ‘Shine’ มันออกมาในแบบตัวเอง
“สำหรับการออกแบบกลิ่นต่างๆ ของบอดี้ ออยล์ อย่างกลิ่น No Traffic Jam โครงสร้างกลิ่นจากกลิ่นหอมแนวซิตรัส ให้ความรู้สึกสดชื่น ที่สกัดจากเปลือกส้มโอจากนครชัยศรี ที่นักปรุงน้ำหอมร่วมกันพัฒนากับเกษตรกรในพื้นที่และกิ่งก้านใบของส้มเขียวหวาน เจือความหวานด้วยกลิ่นดอกพุด ทำให้คนไทยไม่รู้สึกเหมือนเรากำลังใช้สินค้าสปาไทยเพราะถูกขึ้นโครงสร้างกลิ่นด้วยน้ำหอมที่เป็นสากล กลิ่น Meet me on the rooftop อีกกลิ่นที่เราออกแบบในทำภาพความเป็นไทยให้โมเดิร์นขึ้น ด้วยการสื่อสารกลิ่นแทนภาพของการไปเจอผู้หญิงไทยที่สวย มั่นใจในอากาศร้อนของเมืองไทยบนดาดฟ้า เราเลยออกแบบกลิ่นให้มีความหวานเอกลักษณ์จากใบกระวาน ที่มีแนวกลิ่นควันไม้ รองด้วยกลิ่นหอมจากดอกส้มมาผสมผสานกันด้วยแอมเบอร์และน้ำผึ้ง สร้างสรรค์กลิ่นเพื่อสื่อถืงบุคลิกเฉพาะตัวของคนไทยที่มีความหอมแบบโมเดิร์นและสากล”
ชาร์จพลังกาย พลังใจให้พร้อมออกไปมั่นใจ เพราะเราเชื่อว่าร่างกายทุกคนสวยงามผ่านมุมมองของแบรนด์ rati
ช่องทางการติดต่อและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ติดต่อได้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต TOPS, Gourmet market, Big C Ratchadamri, FOODLAND, ICONCRAFT และ Tsuruha บิวตี้สโตร์ Eveandboy, Beautrium, Konvy, Organic Pavilion, Gla Nature, Ecotopia, Another story, Fins Phuket และ The Place KhaoLak พร้อมช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada, TikTok shop