ในทุกๆ ทศวรรษของโลกดนตรีมักจะมีศิลปินในตำนานหลายต่อหลายคนที่กล้าจะแหวกขนบทั้งในแง่ดนตรี แนวคิด สไตล์แฟชั่น การแต่งตัว รวมไปถึงเรื่องเพศ ไม่ว่าจะเป็น David Bowie, Queen, Madonna หรือ Lady Gaga ศิลปินเหล่านี้ไม่ได้สร้างแค่ผลงานเพลงยอดเยี่ยมหรือสร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ที่อิมแพ็กต่อสังคม ทว่าพวกเขายังสร้างแรงกระเพื่อมให้กับโลกแฟชั่นอย่างมหาศาลเช่นกัน ซึ่งเร็วๆ นี้ก็เพิ่งมีวงดนตรีน้องใหม่ที่เพิ่งแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการในปี 2021 แต่พวกเขากลับมีผลงานดนตรีและแฟชั่นที่เปรี้ยวเข็ดฟันไม่แพ้เหล่ารุ่นพี่เลยแม้แต่น้อย และพวกเขาก็คือวง Måneskin นั่นเอง!
Måneskin คือวงแกลมร็อกสัญชาติอิตาเลียนที่มีชื่อวงเป็นภาษาเดนิช ซึ่งอ่านออกเสียงได้ว่า โมเนสเก้น หรือ โมเนสกิน อันมีความหมายว่า แสงจันทร์ โดยทั้งวงมีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ได้แก่ นักร้องนำ Damiano David, มือกีตาร์ Thomas Raggi, มือเบสสาวสุดฮอต Victoria De Angelis และคนสุดท้ายคือมือกลองอย่าง Ethan Torchio พวกเขารู้จักกันในช่วงมัธยมและทำวงด้วยกันมาหลายต่อหลายปี แข่งรายการร้องเพลงหลายรายการ จนในที่สุดพวกเขาก็ชนะรายการประกวดร้องเพลงสุดยิ่งใหญ่ในยุโรปอย่างรายการ Eurovision และโด่งดังในระดับสากลนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ขึ้นชื่อว่าเป็นวงแกลมร็อก ทั้งสไตล์ดนตรีและแฟชั่นของพวกเขาย่อมแหวกขนบทุกกรอบที่สังคมตั้งไว้ เพราะเดิมทีแล้วดนตรีร็อกก็มีความดุดันและชวนโยกหัวอยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันศิลปินวงแกลมร็อกในยุค 1970s จะมีสไตล์การแต่งตัวจัดจ้านด้วยการหยิบยกแฟชั่น Androgynous, แฟชั่นยุควิกตอเรียน รวมทั้งแฟชั่นของเหล่านักเต้นคาบาเร่ต์มาเป็นส่วนหนึ่งของโชว์และการแต่งตัวของพวกเขา ฉะนั้นสไตล์เสื้อผ้าของวงนี้จึงมีความแวววาว มีลวดลายโดดเด่น มีความเป็นอิสระ ในบางครั้งพวกเขาก็เลือกที่จะเปลือยเพื่อปลดปล่อยความเป็นตัวตนของพวกเขาบนเวทีคอนเสิร์ต ซึ่งถ้าหากถามว่าความเปลือยของพวกเขาสร้างเรื่องขนาดไหน ก็ต้องบอกว่าเมื่อตอนพวกเขาไปโชว์ในงาน VMAs 2022 ช่วงที่พวกเขากำลังแสดงไลฟ์สดก็ถูกตัดภาพออกเพราะพวกเขาเปลือยมากเกินไป จนกระทั่งเวอร์ชั่นลงยูทูบนั่นเองที่จะเห็นโชว์ของพวกเขาแบบเต็มโชว์ แต่ก็ยังมิวายโดนเซนเซอร์จนได้!
อย่างไรก็ตาม การเลือกแต่งตัวโป๊เปลือยของพวกเขาก็สร้างทั้งความพอใจและไม่พอใจให้กับโลกอินเตอร์เน็ต รวมทั้งเหล่าผู้อนุรักษ์นิยมในประเทศอิตาลีด้วย บางคนก็ชื่นชอบความแหวกขนบของพวกเขา แต่บางคนก็มองว่าพวกเขาแปลกและมองว่ามันไม่จำเป็นจะต้องถอดเสื้อผ้ามากขนาดนั้น แต่แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่แคร์! โดยพวกเขาเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “การเติบโตมาในโรมซึ่งเป็นพื้นที่ของความอนุรักษ์นิยมก็ต้องใช้ความหัวขบถในตัวค่อนข้างมาก ตอนเรียนมัธยมปลายหลายๆ คนก็มองว่าพวกเราบ้า เพราะเราทั้งเล่นดนตรี ทั้งแต่งตัวแปลกๆ ซึ่งการแต่งแบบนี้ที่ลอนดอนหรือเบอร์ลินก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ถ้าเป็นภาพเด็กผู้ชายแต่งหน้าเดินในกรุงโรมล่ะก็โดนมองอย่างกับเป็นปีศาจแน่นอน” ดังนั้นการแต่งตัวแบบนี้จึงเป็นหนทางที่จะทำให้พวกเขากล้าผลักดันความมั่นใจและปลุกพลังในตัวเองอีกต่อหนึ่งด้วย
ยิ่งโดยเฉพาะมือเบสคนเก่งของวงอย่าง Victoria เธอเป็นผู้หญิงที่อยากจะเปลี่ยนมุมมองต่อสังคมที่มีต่อนักดนตรีว่าผู้หญิงก็สามารถใส่ถอดเสื้อขึ้นคอนเสิร์ตได้ หลายต่อหลายครั้งเธอจะถอดเสื้อขึ้นคอนเสิร์ตแล้วปิดแค่บริเวณหน้าอก เพื่อให้เห็นว่านักดนตรีชายทำแบบไหน เธอก็สามารถทำได้เช่นกัน และเธอก็ยังเคยเปิดเผยกับสื่ออีกด้วยว่าในวัยเด็กเธอทรมานกับการแบ่งแยกเพศชายหญิงในทุกๆ เรื่อง เธอจึงเลือกสวมใส่เสื้อผ้าของเด็กผู้ชายและหัดเล่นสเก็ตบอร์ดมาโดยตลอด จนกระทั่งเธอโตขึ้นความรู้สึกเหล่านี้ถึงค่อยๆ หายไป เพราะสังคมที่เธออยู่เปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ
“เรารู้สึกเป็นอิสระในการใส่อะไรก็ตามที่พวกเรารู้สึกว่ามันใช่ ในขณะเดียวกันพวกเราก็อยากจะส่งสารเกี่ยวกับการลบเลือนการแต่งกายแบบเหมารวมทางเพศ บรรทัดฐานทางเพศ หรืออะไรต่างๆ ออกไป พวกเราคิดว่ามันโอเคกับการจะใส่อะไรก็ได้ที่เราใส่แล้วจะรู้สึกดี”
– Victoria de Angelis
สไตล์แฟชั่นแบบแอนโดรจีเนียสที่ผสมผสานความมัสคิวลีนและเฟมินีนของพวกเขาก็ยังเข้าตาแฟชั่นเฮ้าส์อิตาเลียนชื่อดังที่เราคุ้นเคยกันอย่าง Gucci อีกด้วย นั่นจึงทำให้พวกเขามีโอกาสถ่ายแคมเปญต่างๆ รวมทั้งไปร่วมชมแฟชั่นโชว์ Fall/Winter 2023 นอกจากนี้พวกเขาก็จะใส่เสื้อผ้า Gucci สั่งตัดพิเศษเฉพาะโชว์ ซึ่งพวกเขาก็จะมีส่วนร่วมในการออกแบบขึ้นคอนเสิร์ตด้วยเช่นกัน
“มันคือความอิสระเสรี สิ่งที่ Gucci ทำคือการแหกกฏเกณฑ์ทุกอย่างสำหรับแฟชั่นหรือคอลเล็กชั่นใดๆ ของผู้หญิง…เรารู้สึกว่านี่มันคล้ายคลึงกับสิ่งที่เราพยายามทำกับเพลงของเรา”
Damiano David กล่าวถึงการร่วมงานกับ Gucci
ความน่าสนใจของพวกเขาไม่ได้หยุดอยู่ที่เรื่องเพลงและแฟชั่น แต่เรื่องการสนับสนุนคอมมูนิตี้กลุ่ม LGBTQIA+ ก็ยังเข้มแข็งไม่แพ้กัน หลายต่อหลายครั้งพวกเขามักจะจูบเพื่อนร่วมวงที่เป็นเพศเดียวกัน ซึ่งพวกเขาไม่ได้คบหากันแบบหลายคนแต่อย่างใด แต่พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขามักจะเลือกจูบในมิวสิกวิดีโอหรือการแสดงบนคอนเสิร์ตเพื่อต่อต้านกลุ่มคนที่รังเกียจคนเพศเดียวกันในบางประเทศ และตัวพวกเขาเองก็เปิดเผยถึงเพศวิถีของตัวเอง (Sexual Orientation) อย่างตรงไปตรงมา โดยมือเบสอย่าง Victoria เป็นไบเซ็กชวล ส่วนมือกลอง Ethan นิยามว่าตนเองเป็น ‘Sexually Free’ ในขณะที่มือกีตาร์ Thomas เป็นผู้ชายตรงเพศกำเนิด (Straight) ส่วนนักร้องนำอย่าง Damiano ก็เปิดเผยว่าตัวเองเป็นสเตรต แต่เขาก็ยังนิยามตัวเองว่าเป็น ‘Hetero-Curious’ เช่นเดียวกัน
เราจะเห็นได้ว่าความเป็นอิสระทางจิตวิญญาณในตัวของสมาชิกทั้งสี่คน รวมถึงเนื้อเพลงและดนตรีที่เหล่าคอเพลงชื่นชอบ ตลอดจนเซนส์ทางแฟชั่นอันโดดเด่นของพวกเขา ย่อมทำให้วงนี้กลายเป็นน้องใหม่น่าจับตามองในวงการเพลง ยิ่งพวกเขากล้าที่จะแหวกขนบ ทำลายบรรทัดฐานทางเพศแบบเดิมๆ ที่เคยมีมาก็ยิ่งทำให้สปอตไลต์ส่องพวกเขามากขึ้นเท่านั้น ไม่แน่ว่าหลังจากนี้ไม่กี่ปีข้างหน้าหรืออีกหลายสิบปีข้างหน้า ชื่อของวง Måneskin อาจถูกจารึกในฐานะตำนานสุดไอคอนิกของโลกแฟชั่นและดนตรีตามรอยศิลปินรุ่นเดอะในยุคก่อนก็เป็นได้
Source: 1 2
Cover Photo Courtesy: maneskinofficial