นับเป็นอีกหนึ่งโชว์ที่ผู้คนตั้งตารอคอยมากที่สุดในมิลานแฟชั่นวีกกับแบรนด์แฟชั่นสุดเท่อย่าง Bottega Veneta ซึ่งหลังจากที่แฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่น Winter 2024 จบลงในค่ำคืนที่ผ่านมานั้นก็สร้างเสียงฮือฮาและทำให้เหล่าสายแฟประทับใจในผลงานของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ Matthieu Blazy กันไม่น้อย เพราะเขายังคงสร้างชิ้นงานแปลกใหม่ที่ทำให้ผู้คนต้องทึ่งได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อโค้ตหลากหลายดีไซน์ สเวตเตอร์ลายพริ้นต์สุดฮิป ตลอดจนแอ็กเซสเซอร์รี่ส์ IT item ซึ่งเราเชื่อว่าซีซั่นหน้าต้องฮิตแน่นอน แอลจึงไม่พลาดที่จะรีแคปรายละเอียดจากโชว์นี้มาให้คุณชมอีกครั้ง มาชมไปพร้อมกันได้เลย!
เริ่มต้นด้วยฉากหลังของรันเวย์ครั้งนี้ที่ถูกตกแต่งด้วยกระบองเพชร ซึ่งครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ได้รับแรงบันดาลใจจากการไปเยี่ยมชมแคว้น Calabria ในทางตอนใต้ของอิตาลี และด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า ต้นแคคตัสนั้นเติบโตได้ในพื้นที่ที่พืชอื่นๆ ไม่สามารถอยู่รอดได้ โชว์ครั้งนี้จึงตั้งใจบอกเล่าถึง ความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต (resilience) การฟื้นตัว การเริ่มต้นใหม่ และความหวัง ที่จะสะท้อนผ่านเครื่องแต่งกายซึ่งสามารถสวมใส่ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน รวมไปถึงมีคุณภาพในด้านของฟังก์ชั่นเช่นกัน
There are Murano glass cacti all over the #BottegaVeneta show venue #MFW pic.twitter.com/ufLCGRtuzy
— Vanessa Friedman (@VVFriedman) February 24, 2024
“นี่คือเหล่าดอกไม้ที่บานสะพรั่งหลังจากโลกมอดไหม้ – มันให้ความรู้สึกของความหวัง พวกมันกลับมาอย่างแข็งแกร่งกว่าที่เคย ซึ่งความสง่างามคือความยืดหยุ่นนั้นเอง”
Matthieu Blazy, BOTTEGA VENETA WINTER 24 – SHOW NOTES
คอลเล็กชั่นประจำฤดูหนาว 2024 จาก Bottega Veneta ได้นำเสนอผลงานที่โดดเด่นด้วยซิลลูเอ็ตเรียบง่าย สบายตา ตามสไตล์ของ Matthieu Blazy ผู้เป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ แต่หากเรามองดูดีๆ แล้วจะเห็นรายละเอียดอันน่าสนใจที่อัดแน่นอยู่ในแต่ละลุค อาทิ เป็นเทคนิคการตัดต่อผ้าและการพิมพ์ลายบนเทรนช์โค้ต ซึ่งเป็นไอเท็มเด่นของคอลเล็กชั่นนี้ , เสื้อแขนยาวและกระโปรงที่ตัดเย็บเป็นริ้วไปตลอดทั้งตัว , สเวตเตอร์ที่ดีไซน์ส่วนคอให้สูงขึ้น , งานเครื่องหนังและนิตแวร์ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ที่เป็นการผสมผสานโครงสร้างของแฟชั่นของแต่ละยุคเข้าไว้ด้วยกันในผลงานปัจจุบันได้อย่างชาญฉลาด
โดยแต่ละลุคนั้นยังได้แมตช์คู่สีได้อย่างน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น โทนสีหม่น (สีเบอร์กันดี, สีแทนเข้ม, สีมะกอกอมเหลือง, สีเทาแอช) ที่เปรียบเสมือนช่วงเวลายามค่ำคืน ตัดกับสีฟ้าครามหรือสีของดวงอาทิตย์ที่เป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดนั้น รวมไปถึงมีการพิมพ์ลวดลายอย่าง งู เปลวไฟ และดอกไม้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นตัวที่ทุกคนรู้จักกันดี
นอกจากนี้ ไฮไลต์เด่นยังปรากฏอยู่ในแอ็กเซสเซอร์รี่ส์ ที่ยกมรดกทางแฟชั่นอย่างรองเท้าจระเข้ของคุณยาย กระเป๋าคลัตช์ของแม่ รองเท้าอ็อกซ์ฟอร์ดของพ่อ ซึ่งสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ตั้งต้นอย่างการเกิดขึ้นใหม่มาใช้ในคอลเล็กชั่นนี้เช่นกัน นับเป็นคอลเล็กชั่นที่ตอบโจทย์เหล่าสายแฟได้ทั้งความสวยงาม ความแปลกใหม่ และฟังก์ชั่น พร้อมกับสะท้อนความยูนิเซ็กซ์ของเครื่องแต่งกายได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่นนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ทำให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และความครีเอทีฟในตัว Matthieu Blazy ได้อย่างยอดเยี่ยมจนอาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นดีไซเนอร์มือทองอีกคนของยุคนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งหลังจากนี้เราก็ต้องมารอติดตามชมกันต่อไปว่าผลงานในซีซั่นหน้าของเขาจะทำให้เหล่าสายแฟประทับใจเช่นนี้กันอีกหรือเปล่า ส่วนโชว์คอลเล็กชั่นนี้จะมีลุคไหนบ้างนั้น แอลรวมมาให้คุณได้ชมกันแล้วที่นี่