A For Art ศิลปะคือชีวิต ชีวิตคือศิลปะ
การจะทำอะไรซักอย่างต้องมีจุดเริ่มต้นใช่ไหมคะ? และบันทึกแรกของจินจะขอเริ่มต้นด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกคือ A (เอ) ซึ่งเป็นสิ่งที่จินได้สัมผัสและได้ข้อคิดมากในช่วงสัปดาห์นี้ ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะของชีวิตที่ได้เรียนรู้จากการสูญเสีย, ศิลปะที่ลงสีบนผืนแคนวาสเพื่อการฮีลใจ หรือการคุยงานเตรียมการโชว์ภาพศิลปะ Empowered by Her Story ของ Matara ที่จะจัดขึ้นกับโรงแรม Peninsula Bangkok ทั้งหมดล้วนวนเวียนเกี่ยวกับคำว่า ART แล้วคำว่า ART คืออะไรกันแน่? Art is expression (Herbert Read, 1893), หากตามพจนานุกรมไทย ‘ศิลปะคืองานฝีมือทางการช่าง การแสดงออกมาให้ปรากฏขึ้นได้อย่างดงามน่าฟัง น่าชม และเกิดอารมณ์สะเทือนใจ’
How it’s all begins?
เป็นเวลา 1 เดือนนิดๆ หลังจากที่จินและครอบครัวได้สูญเสียป๋า (คุณพ่อ) การจัดงาน 7 วันผ่านไปอย่างรวดเร็วซึ่งอาจดูไม่เหมือนงานศพทั่วไป แต่ให้เป็นงานอำลาป๋าด้วยความสวยงามที่พยายามลบภาพความเศร้าออก หลังจากงานจบไปเรียบร้อย เขาว่ากันว่าจะเป็นช่วงที่การสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ จะกลับเข้ามาหาที่กลางใจอย่างแรงอีกรอบ จินได้มีเวลารักษาใจด้วยการได้นั่งดูภาพป๋าช่วงเวลาดีๆ ทำให้จินยอมรับว่า การตายนั้นไม่มีใครหนีพ้นได้ จากคำสอนของพี่สู่ขวัญ ที่บอกว่าป๋าได้จากไปเป็นแค่ทางร่างกาย แต่ทางจิตใจนั้นเรายังสามารถสื่อสารกับท่านได้เสมอ (พี่สู่ขวัญ จากรุ่นพี่ที่น่ารัก กลายมาเป็น Mentor คนสำคัญในชีวิตของจินตั้งแต่เวลานั้น)
หลังจากที่ค่อยๆ กลั่นกรองเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นว่า การจัดงานอำลาผู้วายชนม์ นั้นคือศิลปะที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะมันคือการแสดงออกทางอารมณ์กับเรื่องที่เกิดขึ้น ออกมาเป็นงานในแบบที่เราอยากให้เป็น แต่ไม่ว่างานศพจะออกมารูปแบบไหน สิ่งที่จินได้เรียนรู้ คือการจัดงานนั้น ไม่เป็นเพียงแต่เป็นผลงานศิลปะที่สร้างให้กับผู้วายชนม์เท่านั้น แต่ทำให้เห็นว่า การใช้ชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่สูญเสียนั้นเปรียบเสมือน การเติมแต่งสีเข้มลงไปใน ‘ผ้าใบชีวิต’ ของตัวเอง จะเทสีเข้มลงไปจนกลบสีอื่นๆ หมด หรือจะค่อยๆ เลือกตำแหน่งลงสีเข้ม (เพื่อตัดขอบบ้าง เพื่อเน้นบางจุดบ้าง)
การลงสีเข้มนี้สอนให้อยู่กับความเศร้าให้เป็น เลือกมองให้เห็นมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีของผู้คนที่มาร่วมแสดงความเคารพกับครอบครัวผู้ที่สูญเสีย ทั้งหมดนี้คือศิลปะของชีวิตที่สร้างได้จากสีดำ
My Art Journey
หลังจากนั้นจินก็เปิดใจเข้าใกล้วิชาศิลปะมากขึ้น จากความหวังดีของเพื่อนๆ ที่อยากให้มีกิจกรรมที่สนุกได้ทำร่วมกับคุณแม่ที่บ้าน ลูกแก้ว (เพื่อนที่เป็น Interior Designer) กับจันทรา (เจ้าของแบรนด์ไลลา) ได้ขนอุปกรณ์ศิลปะสำหรับ Painting มาที่บ้านจิน เพื่อนๆ เน้นย้ำว่าศิลปะไม่มีอะไรผิดไม่มีอะไรถูก แค่วาดภาพที่อยากวาดออกมา ให้การปาดสีลงบนผืนแคนวาสของจินง่ายขึ้นมากๆ เพราะก้าวข้ามความกลัวที่คิดว่าผลงานจะออกมาสวยหรือไม่ ซึ่งจินได้เลือก mood & style งานศิลปะ Monet เพราะชอบความเฟมินีน ความละมุน จากที่มีโอกาสได้ไปชมงานของ Claude Monet ที่ Musée Marmottan Monet, Paris และภาพที่ใช้เป็นต้นแบบของจินคือ Mona Lisa (ตรงนี้สำคัญมากเพื่อเราจะได้ใช้ยึดเริ่มต้นในการวาด) ส่วนของลูกแก้วเลือกวาดภาพบ้านเมือง ทำให้พวกเราได้เห็นว่า ภาพที่เลือกวาดนั้นก็มีการบ่งบอกถึงตัวตนผู้วาดเป็นอย่างดี เช่นจินก็เลือกวาดผู้หญิงที่มีการใส่เครื่องประดับไข่มุกสวยๆ และลูกแก้วก็เลือกวาดภาพบ้านอาคารสี Earth tone ที่เข้ากับสไตล์งานตกแต่งบ้านของตัวเอง ส่วนคุณแม่จินนั้นเปิดบ้านต้อนรับด้วยการทำชาผลไม้เย็นสูตรพิเศษของแม่เอง โดยใช้ชา TWG – Red Christmas ผสมผลไม้แท้, น้ำผึ้งป่า, เหล้าบ๊วย ดื่มแล้วสดชื่น ลูกแก้วได้ผสม Sparkling Wine ที่เราได้เปิดไว้ก่อนหน้านี้เข้าไปในแก้วตัวเองด้วย จินเห็นก็ทำตาม ทำให้ชาผลไม้นี้อร่อยซ่าขึ้นกว่าเดิม ทำให้จิตใจของเราสงบลง ทุกวินาทีทุกการเคลื่อนไหวนั้นทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง
“เราก็ได้เห็นศิลปะของการใช้ชีวิตที่ช้าลง ได้หยุดมองความสวยงามที่อยู่ข้างหน้า และเห็นคุณค่าของการได้ใช้เวลาร่วมกันของเพื่อนและครอบครัวในเชิงสร้างสรรค์ ชีวิตก็เหมือนศิลปะเราเลือกที่จะ Design ออกแบบสิ่งที่อยากจะเห็น มองหาต้นแบบที่ชอบ และAction ลองลงมือทำ ถ้าไม่ชอบ ก็นำไปปรับแล้วสร้างผลงานใหม่ แก้มือในวันข้างหน้า”
‘Empowered by Her Story’ Art Series
สัปดาห์นี้ จินก็กลับมาเตรียมงานที่เคยคุยไว้เมื่อ 3 เดือนที่แล้วกับทางโรงแรม Peninsula Bangkok อีกครั้ง โรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยานี้เป็นหนึ่งในสถานที่ตั้งของร้าน Matara ที่เป็น Pearl Boutique ซึ่งสร้างด้วยความภาคภูมิใจของแบรนด์ ที่เกิดในช่วงโควิด และโปรเจ็กต์พิเศษ Empowered by Her Story ที่ทำร่วมกับโรงแรมในครั้งนี้ คือการนำภาพ Paintings ของศิลปินชาวฝรั่งเศสชื่อ Djiango จำนวน 4 ภาพที่ทำร่วมกันผ่านแบรนด์ Matara ออกมาจัดแสดงพิเศษเป็นเวลา 3 เดือนที่ The Bar บาร์เล็กๆ สุดคลาสสิก ซึ่งโปรเจ็กต์เป็นศูนย์กลางงานศิลปะภาพวาดผู้หญิงที่มีชื่อเสียงในอดีต เช่น Audrey Hepburn, Mona Lisa, Girl with a Pearl Earring (อีกหนึ่งคน แวะมาหาคำตอบและมาชมภาพจริงกันเองที่ The Bar นะคะ ภาพนี้ขอบอกว่ามีความพิเศษมาก)
การร่วมมือที่ว่านี้มีตั้งแต่ศิลปิน Painter สุดหล่อชาวฝรั่งเศส, Matara แบรนด์เครื่องประดับไข่มุกแท้ของจินและเพื่อนๆ ที่เป็นแบรนด์สัญชาติไทย 100% แต่มีใจอินเตอร์ที่ต้องการเป็นแบรนด์เครื่องประดับหรูระดับสากล และสุดท้ายคือโรงแรมที่ร่วมสนับสนุนไม่เพียงแต่ด้านสถานที่เพราะโรงแรมแจ้งว่าตั้งแต่เปิดโรงแรมมาประมาณ 25 ปีไม่เคยเปลี่ยนภาพใน The Bar เลย ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรก อีกทั้งโรงแรมมีวิสัยทัศน์ของการส่งเสริม Community ของ Artists, Collectors, แขกคนไทย หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้ร่วมครีเอตเมนูเครื่องดื่มคอกเทลพิเศษที่มีแรงบันดาลใจมาจากหญิงสาวในภาพวาด
โดยพวกเราทั้ง 3 ส่วนนี้จึงร่วมกันสร้างสรรค์พื้นที่ The Bar ให้กลับมามีเรื่องราวให้น่าค้นหาต่อในแบบ 2023 โดยใช้ภาพผู้หญิงทรงพลังในอดีตสวมใส่เครื่องประดับแบรนด์ที่ภาพลักษณ์ Classy but Fun, หรือลักชัวรีแต่สตรีต ผ่านการแต้มสีด้วยเทคนิคแบบ Pixelation ที่เป็นแนว Contemporary มีเรื่องราวปลายเปิดไว้ให้ผู้มาชมภาพที่ The Bar ได้คิดต่อว่าผู้หญิงในภาพนี้มีการ Empower ในแบบตัวเองได้อย่างไร งานเปิดตัววันที่ 23 สิงหาคมนี้ และการแสดงภาพชุดนี้จะมีถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน และเปิดให้ประมูลผ่านทางเว็บไซต์ www.matarastudio.com/auction แล้ว (ปิดประมูลการกุศลในเว็บวันที่ 6 กันยายนนี้) นี่คือศิลปะของการร่วมมือกันที่ได้พบเจอในสัปดาห์ที่ผ่านมา และหวังว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากแขกที่ก้าวเท้าเข้ามาเยี่ยม The Bar, Peninsula Bangkok
“เรื่องที่จะบันทึกและ publish ลงใน ELLE นี้จินขอเน้นความเป็นตัวเอง @realjongjin ที่เป็นมากกว่าไข่มุกแท้ เป็นมากกว่าความบ้างาน และเป็นมากกว่างานสังคมที่ไป แต่เป็น Highlight of the Week ที่อยากเก็บไว้ส่วนตัวเพื่อสะท้อนตัวเอง และอยากแชร์ เพราะอาจมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่ได้มาอ่าน และหวังว่าคนส่วนใหญ่ที่ตามคอลัมน์นี้ของจิน จะได้เห็นมุมมองที่เกิดขึ้นสดใหม่ทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งหล่อหลอมให้เป็น Jin Matara ที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนามเจ้าของแบรนด์เครื่องประดับไข่มุกแท้”
Pearly yours,
Jin