Friday, February 7, 2025

พูดคุยกับสองหนุ่มฮอต มีน นิชคุณ และ ปิง กฤตนัน ตั้งแต่ก้าวแรกบนเส้นทางนักแสดง

หากให้นึกถึงสองหนุ่มจากต่างที่มา ผู้ต้องพบเจอกันเพื่อสร้างความสุขให้กับผู้คนในวงกว้าง ท็อปลิสต์ในหลากหลายคู่นั้นต้องมี มีน-นิชคุณ ขจรบริรักษ์ และ ปิง-กฤตนัน อัญชนานันท์ ที่พร้อมมอบรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ได้เสมอ

AT FIRST STEP TO THE INDUSTRY

MEEN: “ผมเป็นคนน่านครับ แล้วก็เป็นนักกีฬาบาสเกตบอล จนมีโค้ชแนะนำให้มาคัดทุนช้างเผือกของนักกีฬา แล้วผมก็ได้มาอยู่ ร.ร.อัสสัมชัญ ธนบุรี ตอนมากรุงเทพฯ ทะเลาะกับที่บ้านเหมือนกัน เขาไม่อยากให้มา ตอนนั้นเราอายุแค่ 16 ปี เลยไม่อยากปล่อย ต้องมาอยู่หอ กินนอนที่กรุงเทพฯ อีกอย่างตอนอยู่น่านผมอยู่กับย่า เขาก็กลัวว่าถ้าลงมาแล้วย่าจะอยู่กับใคร สุดท้ายผมนึกถึงอนาคตก็เลยตัดสินใจมา ตอนแรกที่เข้ามาวงการคือคิดว่าน่าจะเพราะตัวเองได้เรื่องความสูง แต่ตอนเด็กไม่คิดถึงเรื่องเข้าวงการเลย เล่นบาสฯ อย่างเดียว พอได้ย้ายเข้ามาเล่นบาสฯ ที่กรุงเทพฯ จริงๆ ก็ได้รู้ว่า กีฬาประเภทนี้ในไทยมันไม่ได้รุ่งขนาดนั้น มันคงทำเป็นอาชีพไม่ได้ เลยมีจุดหนึ่งที่ผมคิดว่าลองมาทำงานในวงการบันเทิงดูดีไหม ได้มีโอกาสเล่นซีรี่ส์เรื่อง บังเอิญรัก ซีซั่น 2 มีละครนู่นนี่ จนมาได้เล่นเรื่อง อัยย์หลงไน๋ นี่แหละครับ” 

PING: “ตอนเด็กๆ ไม่รู้เลยว่าตัวเองจะได้เข้าวงการแสดง รู้แค่ว่าอยากแต่ไม่เคยเชื่อเลยว่าตัวเองจะทำได้ มีคนมาทาบทามให้ไปแคสต์งานบ้าง แต่ไม่ได้สักอันเลย ผมว่าเมื่อก่อนกับตอนนี้ผมเปลี่ยนไปเยอะ อาจจะเปลี่ยนไปตามวัย พอดีพี่ก้อง (กฤษฏิ์ จิระเกียรติวัฒนา) เห็นแววเขาก็เลยชวนมาอยู่ในความดูแล ดึงมาเดินแบบ ทำนู่นทำนี่ครับ”

WHEN WE FIRST MET

MEEN: “ในเรื่อง อัยย์หลงไน๋ จะมีผมเป็นพระเอกอยู่แล้วตั้งแต่ต้น ก็รอแคสต์ตัวนายเอกซึ่งมาแคสต์กันหลายคน ตอนปิงเขามาแคสต์นั้นก็ยังไม่ได้ด้วยปัญหาบางประการ จากนั้นผมก็ต้องไปแคสต์เพื่อเข้าคู่กับอีกหลายคน แต่ด้วยคาแร็กเตอร์ก็ยังไม่ได้ ตอนเข้าคู่กับปิงผมรู้สึกเลยว่าคาแร็กเตอร์มันชัดมาก น้องเขายังใหม่ เรียนรู้ง่าย ผมว่าความเก่งกับความสดมันไม่เหมือนกัน ความสดของเขามันเข้ากับบทของเฉิน ไน๋ ที่ดูซุ่มซ่าม ดูเอ๋อๆ ได้ดี แต่สุดท้ายก็ได้มาเล่นคู่กันจนได้ และใช้เวลาสนิทกันไม่นาน ผมรู้สึกว่าตอนเวิร์กช็อปกัน ผมน่ะเต็มที่ ทำการบ้านมาว่าต้องเล่นประมาณนั้นประมาณนี้ แล้วความที่น้องยังใหม่ จะชอบถาม ถึงผมจะไม่ได้มีประสบการณ์เยอะแต่ก็พอแนะนำได้ ผมเคยถ่ายทั้งละครและซีรี่ส์ ก็แนะนำไปว่ามันใช้ทักษะคนละแบบกัน ละครจะเล่นใหญ่ได้หน่อย แต่ซีรี่ส์จะเน้นความเรียล ความสดใสของวัยรุ่น ซึ่งมันเล่นง่ายกว่า 

“ปิงอยู่ด้วยแล้วสนุกครับ ไม่เงียบ มีความร่าเริง ผมเป็นคนนิ่งกว่า เมื่อก่อนก็เป็นคน introvert จนเข้าวงการต้องทำงานกับคนหมู่มากเลยพยายามเอาตัวเองออกมาจากตรงนั้น ถ้าคนไม่รู้จักเลยแล้วมาร่วมงานกันจะมองว่ามีนหยิ่ง นิ่ง สำหรับแฟนคลับที่เห็นคู่เรา 2 คนก็จะบอกว่าเคมีเราเข้ากัน เราไม่ได้ฝืนธรรมชาติอะไร จะจับมือ กอดกันคือมันออกเป็นธรรมชาติ”

PING: “ตอนแรกผมเกร็งมาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร คิดว่ายังไม่รู้ใจกันเท่าไร ผมเป็นคนพูดเก่งนะ แต่ถ้าไม่สนิทก็ไม่รู้จะเอาเรื่องอะไรไปคุยด้วย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนอย่างไร ถ้ายิ่งอีกฝ่ายนั่งเงียบๆ นิ่งๆ ก็จะไม่กล้าคุย ได้เวิร์กช็อปกับพี่มีนประมาณเดือนสองเดือน ไม่นานก็รู้สึกสนิท เพราะเราทั้งคู่ต่างเปิดรับกัน เลยทำให้การทำงานง่ายขึ้น ตอนนี้มีแต่สิ่งที่ต้องปรับคือปิงเป็นคนขี้ลืม คือพูดๆ อยู่แล้วบางทีก็ลืมว่าพูดถึงเรื่องอะไร บางทีก็ลืมของ ส่วนพี่มีนเองจะประมาณว่าเราเคยไปซ้อมอะไรกันสักอย่างซึ่งดึกมาก แล้วเขาอยากไปกินข้าวต่อ แต่ปิงเหนื่อยเลยไม่อยากกินอะไรแล้ว อยากกลับไปแล้วอาบน้ำนอน ส่วนพี่เขาจะต้องกินข้าวก่อน ไม่กินแล้วนอนไม่หลับ (อมยิ้ม)

OUR FIRST FANMEETING

MEEN: “คือก่อนที่ผมจะเล่นบาสฯ ผมเคยเต้นคัฟเวอร์มาก่อน ตั้งแต่เพลงเกาหลียุค SS501, Big Bang, Beast อะไรแบบนั้น เวลาเห็นเต้นโชว์ในงานคนเลยอาจเห็นว่าตัวพลิ้ว แต่ตอนกลับมาซ้อมแรกๆ รู้สึกว่าตัวเองตัวแข็งมาก คือพอเล่นบาสฯ เล่นเวตจนมีกล้ามเนื้อมันทำให้เต้นเก้ๆ กังๆ มาก ต้องซ้อมเยอะมาก พอวันโชว์จริงผมรู้สึกตื่นเต้นนะ ซึ่งพอโชว์จบไปก็คิดว่าเออ เราทำได้นะ ผมรู้สึกว่าตั้งแต่เล่นซีรี่ส์มา ทำงานมา ตอนฉากเปิดตัวเลื่อนออกผมคิดเลยว่า โห เรามาขนาดนี้แล้วนะ ทุกคนก็ให้การตอบรับดี ตอนแสดงนั้นเราไม่รู้ว่าฟีดแบ็กจะเป็นอย่างไร อยากขอบคุณที่ติดตามและซัพพอร์ตตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ขอบคุณที่ให้กำลังใจ คอยปั่นทวีต กดโหวตให้เราในแต่ละงาน ทั้งแฟนคลับจาก #area86, #formoon และ #ตะลิงปิง

PING: “ผมรู้สึกว่าก่อนจะโชว์ยังว่ามันเหมือนฝันอยู่เลย ไม่คิดว่าตัวเองจะมีงานแฟนมีตติ้งเป็นของตัวเอง มันเร็วกว่าที่เราคิดไว้มากๆ ตอนซ้อมก็เหนื่อยมาก กว่าจะเสร็จเที่ยงคืน เที่ยงคืนครึ่ง ต้องตื่นไปเรียนตอนเช้าอีก จนขึ้นไปบนเวทีแล้วได้เห็นภาพทุกคนที่มาดูก็ยังรู้สึกเหมือนฝันอยู่ ผมเตรียมคำพูดที่จะบอกทุกคนไว้เยอะมาก แต่ลืมหมด แต่ตอนนี้ถ้ามีโอกาสบอกอยากจะบอกว่าผมดีใจมาก ถ้าไม่แฟนคลับก็ไม่มีเราเหมือนกัน พวกเขามีความสำคัญมากๆ เป็นพลังบวกและกำลังสำคัญให้กับเราตลอด ขอบคุณที่ทำให้จากเด็กธรรมดาคนหนึ่งมาได้จนถึงทุกวันนี้ จากที่ออนแอร์ไปตอนแรกๆ ผมว่ามันก็ยังเงียบนะ จนกังวลว่าจะไปได้ไหม จนค่อยๆ กระแสดีขึ้นเรื่อยๆ จนอีพีสุดท้ายที่ได้มาดูพร้อมกันในโรงหนัง เปิดให้จอง 1,000 ที่นั่ง ไม่ถึง 10 วินาทีก็หมด ผมเลยรู้สึกตกใจมาก เลยยิ่งกระตุ้นให้ผมคิดว่าตัวเองต้องทำให้มันดีนะเพราะมีคอยซัพพอร์ตเราอยู่ตลอด”

OUR OWN LIFE

MEEN: “ถ้าว่างผมยังไปแข่งบาสฯ อยู่ครับ ยังเล่นลีกในนามสโมสร คือทีมที่ผมไปเล่นนั้นทำเพื่อการกุศล เอาดาราและเซเลบริตี้มาเล่นในทีมนี้ เอาลูกบาสฯ เอาอุปกรณ์จำเป็นไปให้ตามโรงเรียน เอาเงินไปบริจาคบ้าง ทำบุญบ้าง บางแมตช์ผมไม่มีเวลาซ้อมแต่ไปแข่งเลยก็มี ส่วนช่วงไหนไม่ว่างก็ไม่ได้ไปแข่งครับ บาสเกตบอลนี่ผมทิ้งไม่ได้ นอกจากนี้ก็ชอบไปเล่นยิม หรือไม่ก็ไปนั่งเล่นเกมบ้านพี่กระทิง (ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์) ใช้ชีวิตแบบชายหนุ่มปกติ เมื่อก่อนยิ่งกว่านี้อีกครับวนอยู่อย่างนั้น โรงเรียน สนามบาสฯ ยิม”

PING: “จริงๆ ชีวิตส่วนตัวผมไม่ค่อยมีอะไรนะครับ ตอนนี้ผมเรียนทำอาหารที่วิทยาลัยดุสิตธานี ซึ่งจุดเริ่มมาจากการที่ผมไม่ค่อยชอบเรียนเท่าไร ชอบดูรายการ Master Chef เวลาอยู่บ้านก็ทำเมนูอะไรง่ายๆ กินบ้าง เลยคิดว่าจากตรงนี้มันน่าจะเป็นไปได้สุด บวกกับเป็นคนชอบกินด้วย แต่พอทำงานในวงการทำให้ผมต้องขาดเรียนเยอะบ้างเหมือนกันครับ เคยมีต้องแล่ปลา แล้วผมต้องซื้อปลามาฝึกแล่เอง ดูคลิปจากเพื่อนซึ่งยากมาก ต้องหาคนมาสอน ทั้งตัวเหม็นมาก มีดบาดเต็มไปหมด”

TO THE FUTURE

MEEN: “จะมีซีรี่ส์ที่คู่กับปิง ซึ่งตอนนี้มีพล็อตเรื่องแล้ว และมีละครถ่ายจบไปแล้วเรื่องหนึ่งในละครชุดสุภาพบุรุษจุฑาเทพ 2 กับเพิ่งเปิดกล้องละครอีกเรื่องหนึ่งกับช่อง 3 ชื่อ รักท่วมทุ่ง อารมณ์ย้อนยุคไปในปี พ.ศ. 2520 คู่กับพี่แพรวา-ณิชาภัทรครับ”

PING: “ซีรี่ส์ที่คู่พี่ปิงไม่รู้จะได้ออนทันปีนี้หรือเปล่า หลักๆ ตอนนี้ก็มีงานคู่กับพี่มีน แล้วก็มีแอบกระซิบกันอยู่กับพี่ก้องและทีม อันนี้ยังไม่ชัวร์นะครับ ก็อาจจะมีทำเพลงอะไรแบบนั้น อย่างไรก็ฝากติดตามด้วยแล้วกันครับ”

FROM ME TO YOU

MEEN: “อยากให้สู้ๆ ในเส้นทางนี้ อยากแสดง อยากทำอะไรก็ทำให้เต็มที่ อยากเป็นเชฟก็ทำให้เต็มที่ ชีวิตนี้เป็นของเรา ต้องได้เจออะไรอีกเยอะแน่นอน”

PING: “ย้อนกลับไปวันแรกปิงไม่รู้ว่าพี่มีนเป็นคนอย่างไรเหมือนกัน แต่ก็ค้นพบว่าพี่เขาเป็นคนดีมาก คอยช่วยเหลือตลอดเวลาปิงเล่นไม่ค่อยได้ รักพี่เขามาก อยากให้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนานๆ ครับ”

Videographer : Teerapat Rattanakulchainan
Photographer : Thanut Treamchanchuchai
Fashion Editor : Jantima Jansawadmwthakul
Digital Editor : Rachata Ratanavirotkul
Make-Up : Krit Sudsalee
Hair : Chanyanuch Woraphakpridakun
Assistant Photographer : Chanon Praphaiwaranon , Sanpasiri Chaosaowpa
Assistant Stylist : Pornthip Supunno

Latest Posts

Don't Miss