ปิดฉากลงไปอย่างสวยงามสำหรับปารีสกูตูร์วีกที่แบรนด์ต่างๆ ได้รวมตัวกันมาปล่อยของในคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าชั้นสูง และแน่นอนว่าสำหรับโชว์จาก Maison Margiela คอลเล็กชั่น Artisanal 2024 ในวันสุดท้ายก็เป็นอะไรที่ตราตรึงใจสำหรับผู้ที่ได้ชมไม่แพ้กัน ซึ่งก่อนที่เราพาทุกคนจะไปดูรายละเอียดต่างๆ ทั้งหมดในแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ เราอยากให้คุณลบภาพจำของรันเวย์ที่คุ้นเคย แทนที่ด้วยภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนในเมืองฝรั่งเศสที่เต็มไปด้วยหมอกหนา แล้วค่อยร่วมซึมซับทุกอารมณ์ไปพร้อมๆ กัน
Paris at Night
ณ ใต้สะพาน Pont Alexandre III เลียบแม่น้ำ Seine โชว์นี้เริ่มต้นด้วยเสียงเพลง Now I don’t Need Your Love โดย Luc Bruyère ในลุคคอร์เซ็ตเปลือยท่อนบนพร้อมวงประสานเสียง ตามมาด้วยความดรามาติกขั้นสุดจากเหล่าโมเดลที่ทยอยกันเดินออกมาท่ามกลางแสงจันทร์ภายใต้เสื้อผ้าเฉดสีหม่น โดย John Galliano ได้นำแรงบันดาลใจจาก Brassaï ช่างภาพชาวฮังกาเรียน-ฝรั่งเศส เจ้าของผลงานภาพถ่ายชุด Paris de Nuit หรือ Paris at Night ในยุค 1930s มาตีความใหม่และสะท้อนเป็นคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าที่ให้ทั้งความรู้สึกเปราะบางและมีพลังได้อย่างน่าทึ่ง
Underbelly of Paris
จุดเด่นในคอลเล็กชั่นนี้คือเสื้อผ้าที่เน้นความเฟมินีนตามมาตรฐานความงามของผู้หญิงยุคก่อนที่ต้องมีน้ำมีนวล เน้นทรงเอวคอดสะโพกผายด้วยคอร์เซ็ต ทั้งยังมีเดรสผ้าโปร่งบางที่เล่นเลเยอร์ส่วนชายกระโปรง ตลอดจนโค้ตตัวยาวที่เป็นไอเท็มหลัก ซึ่งเสื้อผ้าทุกๆ ชิ้นมีการสร้างเท็กเจอร์และสีให้ดูเหมือนผ่านการใช้งานมาแล้ว และร่องรอยของความไม่สมบูรณ์เหล่านี้ได้ชวนให้ผู้ชมใคร่ครวญถึงแง่มุมที่มองไม่เห็นจากชีวิตของผู้คนในกรุงปารีสซึ่งสอดคล้องกับแรงบันดาลใจของเขานั่นเอง
Epic Revival
สำหรับเหล่าคอแฟชั่นแล้ว ไม่มีอะไรน่ายินดีไปกว่าการที่ John Galliano ได้ปลุกเอาตัวตนของเขาที่ทุกคนรักกลับมาเฉิดฉายบนรันเวย์อีกครั้ง สิ่งที่คอลเล็กชั่นนี้ทำได้ดีคือการทำให้ผู้ชมนึกถึงงานของเขาที่เต็มไปด้วยอารมณ์และเรื่องราวที่แฝงอยู่บนแต่ละลุคเมื่อราวๆ 10-20 ปีก่อน อาทิ ลุคแจ็กเกตเอวคอดและกระโปรงยาวเข้ารูปสีเทาจากคอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ประจำฤดูกาล Fall/Winter 1997 ที่นำมาปรับช่วงไหล่และบริเวณด้านหน้าลำตัวให้มีความเฟมินีนมากขึ้น หรือแม้แต่งานเมคอัพแวววาวก็เป็นสิ่งที่เคยปรากฏในโชว์ John Galliano คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว เมื่อปี 2007 และ 2009
Theatrical Show
อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นจากโชว์ครั้งนี้คือท่าทางการเดินของเหล่าโมเดลที่กำกับโดย Pat Boguslawski ไม่ว่าจะเป็น การพยายามปกปิดร่างกายของตนจากอากาศที่หนาวเหน็บและสายตาผู้คน การขยับร่มเสมือนอยู่ท่ามกลางสายฝน การเดินที่ดูเหมือนหุ่นเชิด หรือแม้แต่การโค้งตัวลงและขยับแจ็กเก็ตให้กระชับขึ้นราวกับหลีกหนีจากอะไรบางอย่าง ก็เป็นสิ่งที่เสริมให้เสื้อผ้าชั้นสูงบนตัวพวกเขาสามารถถ่ายทอดทุกอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น และทำให้โชว์ครั้งนี้สมบูรณ์แบบจนหลายคนถึงกับกล่าวว่ามันเหมือนการแสดงละครเวทีเลยทีเดียว
Maison Margiela SS2024 Couture was the definition of how a fashion runway should be like. Not only we should see the clothes, but articulating them through the models and the scenery will always give birth to an iconic moment. Displaying emotion and artistry is the game. pic.twitter.com/ayWJVlrY1z
— garçon (@boymolish) January 25, 2024
Porcelain Doll
และในช่วงท้ายของโชว์ การปรากฏตัวของลุคที่ทำให้เรานึกถึงตุ๊กตาเครื่องพอร์ซเลนก็เป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างดี ตลอดจนลุคฟินาเล่ยังมี Gwendoline Christie มาร่วมเดินปิดท้ายเป็นเซอร์ไพรซ์อีกด้วย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะดีเทลการจับเดรปผ้าหรือเทคนิคการตัดเย็บที่เล่นวอลลุ่มเหมือนชุดตุ๊กตาจริงๆ เท่านั้น แต่ดีเทลส่วนคอที่ทำจากหนังก็ถูกตกแต่งให้เป็นเหมือนกระเบื้องเคลือบ รวมไปถึงเอฟเฟ็กต์การแต่งหน้าที่เงาสะท้อนของเหล่าโมเดล ซึ่งรังสรรค์โดยเมคอัพอาร์ทิสต์อย่าง Pat McGrath ที่เมื่อรวมกันแล้วก็กลายเป็นผลงานที่มอบความรู้สึกที่หลากหลาย จะว่าสง่างามก็ใช่ หรือจะว่าเหมือนตุ๊กตาจนหลอนก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน
จากทุกดีเทลที่ได้กล่าวมานี้ได้หลอมรวมกลายเป็นโชว์คอลเล็กชั่นที่นำเสนอเสื้อผ้ากว่า 44 ลุคที่น่าจดจำ ส่วนสำหรับใครที่อยากชมโชว์แบบเต็มๆ ก็สามารถตามไปชมได้ที่ช่อง YouTube ของ Maison Margiela และเชื่อว่าผลงานมาสเตอร์พีซชิ้นนี้จะถูกกล่าวถึงในวงการแฟชั่นไปอีกนานแน่นอน