นับตั้งแต่ Cartier ได้จัดนิทรรศการใหญ่ครั้งแรกขึ้นในปี 1989 เพื่อแบ่งปันประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าถึงการเดินทางของแบรนด์ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน นั้นได้รับความสนใจจากพิพิธภัณฑ์และสถาบันที่มีชื่อเสียงทั่วโลกให้นำผลงานอันทรงคุณค่าไปร่วมจัดแสดงเสมอมา ซึ่งครั้งนี้เป็นคราวของ Dongdaemun Design Plaza ที่ได้เป็นเจ้าบ้านจัดแสดงผลงานคอลเล็กชั่นไฮจิวเวลรี่ นาฬิกา และเอกสารสำคัญของคาร์เทียร์ ภายใต้แนวคิดการวิวัฒนาการผ่านห้วงเวลาของเหล่าอัญมณีและขั้นตอนการออกแบบต่างต้องใช้เวลาเพื่อตกผลึกชิ้นงานส่องประกายโดดเด่น ที่จะถูกนำมาเรียบเรียงเรื่องราวใหม่ผ่านนิทรรศการ Crystallization of Time ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
นิทรรศการครั้งนี้นำเสนอเครื่องประดับและเอกสารเก่าที่สำคัญของคาร์เทียร์ รวมถึงผลงานร่วมสมัยจากคอลเล็กชั่นส่วนตัวของนักสะสมทั่วโลกมากกว่า 300 ชิ้น มาจัดแสดงผ่านสามมุมมอง ได้แก่ ‘Material Transformation and Colors’ นำเสนอจิวเวลรี่ที่โดดเด่นด้วยการดีไซน์จากอัญมณีและหินหลากสี และจุดเริ่มต้นของการเลือกใช้แพลทินัมสำหรับขึ้นตัวเรือน, ‘Forms and Designs’ เส้นสายและรูปทรงที่เผยให้เห็นหัวใจงานสร้างสรรค์เครื่องประดับและนาฬิกาอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ และ ‘Universal Curiosity’ เชิดชูความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ สรรพสัตว์จากทั่วโลก และพหุวัฒนธรรมที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญในการออกแบบให้แก่เมซงเสมอมา
ภายในนิทรรศการยังมีโซน Space of Time ที่รวบรวมนาฬิกาตั้งโต๊ะอย่าง Mystery Clock และ Prism Clock หลายดีไซน์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ และเทคนิคของคาร์เทียร์ที่ทำให้เข็มนาฬิกาล่องลอยอยู่กลางอากาศบนหน้าปัดแบบไร้กลไก, โซนโชว์ผลงานคอลเล็กชั่น Panthére de Cartier ระดับตำนานมากมาย ซึ่งเสือแพนเตอร์ถือเป็นแม่ลายสำคัญที่สื่อถึงเสรีภาพของผู้หญิงยุคใหม่และสัญลักษณ์เหนือกาลเวลาของแบรนด์เสมอมา และโซนคลังเอกสารสำคัญของผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง Louis Cartier ที่รวบรวมหนังสือเกี่ยวกับศิลปะและสถาปัตยกรรมเอเชีย อียิปต์ และอิสลาม ควบคู่กับภาพสเก็ตช์ต่างๆ ที่เน้นย้ำให้เห็นถึงแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ของเหล่าดีไซเนอร์ของเมซง ทั้งนี้จุดสิ้นสุดของงานยังมีการนำโบราณวัตถุจากเกาหลีและญี่ปุ่นมาจัดแสดงคู่กับผลงานอันทรงคุณค่าของคาร์เทียร์ ที่ผสมผสานสุนทรียศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเอเชียและยุโรปได้อย่างลงตัว
ตัวอย่างผลงานที่น่าสนใจ ซึ่งถูกนำมาจัดแสดงภายในนิทรรศการนี้ ได้แก่ กำไลข้อมือ Panthére ปี 2014 ทำจากแพลทินัม ประดับมรกตแซมเบีย นิล และเพชร, สร้อยคอไวต์โกลด์ Sinopé ปี 2020 ประดับแซฟไฟร์ซีลอน ลาพิส ลาซูลี และเพชร, สร้อยคอ Yoshino ปี 2018 ขึ้นตัวเรือนไวต์โกลด์ ประดับมอร์แกนไนต์ โอปอล รูเบลไลต์ แซฟไฟร์สีชมพู และเพชร รวมถึงเครื่องประดับผม ปี 1902 ทำจากแพลทินัม และประดับด้วยเพชร โดยที่ผลงานทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความประณีตในด้านดีไซน์และความงดงามอันเป็นอมตะ จากการผลิตระดับฝีมือช่างศิลป์ไร้ที่ติด้วยคุณภาพอัญมณีและวัตถุดิบอันยอดเยี่ยม
มากไปกว่านั้น การออกแบบนิทรรศการที่เต็มไปด้วยความรู้สึกน่าอัศจรรย์และมีมิตินั้นเป็นฝีมือของสองศิลปินชาวญี่ปุ่น Hiroshi Sugimoto และ Tomoyuki Sakakida ที่เน้นใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้และหินโอยะมาสร้างเป็นตู้โชว์ผสมผสานเข้ากับผลงานสุดสร้างสรรค์ของคาร์เทียร์ได้อย่างลงตัว และคาร์เทียร์ยังได้สถาบันวิจัยวัฒนธรรมเกาหลีดั้งเดิม ออนเจียมและมูลนิธิผู้พิทักษ์วัฒนธรรม อารุมจิกิ มาตกแต่งพื้นที่การจัดแสดงโดยเน้นใช้วัสดุดั้งเดิมที่เป็นสัญลักษณ์แทนมรดกตกทอดของเกาหลี ที่จะสร้างความตราตรึงใจให้แก่ผู้เข้าชมได้อย่างแน่นอน
นิทรรศการ ‘Crystallization of Time’ เปิดให้เข้าชม ณ ทงแดมุน ดีไซน์ พลาซ่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2024 และจำหน่ายบัตรสำหรับผู้ที่สนใจ ซึ่งหากใครวางแผนท่องเที่ยวเกาหลีใต้ในช่วงวันเวลาดังกล่าว และเป็นคนที่หลงใหลสุนทรียศาสตร์ผ่านศิลปะการออกแบบเครื่องประดับอันเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวที่ซ้อนอยู่ ดังนั้น นิทรรศการนี้จึงเป็นจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชม เพื่อร่วมเดินทางไปกับคาร์เทียร์ในการสำรวจจิตวิญญาณนักบุกเบิก ตลอดจนวิสัยทัศน์สร้างสรรค์อันเป็นลักษณะเฉพาะ ตั้งแต่ยุคแรกของการก่อตั้งเมซงจนถึงปัจจุบัน
Text: NATITON CHINNABHAD