Wednesday, September 18, 2024

เก็บตก 7 แฟชั่นโชว์ไฮไลต์ประจำนิวยอร์กแฟชั่นวีกที่สายแฟต้องไม่พลาด!

จบลงไปแล้วเรียบร้อยสำหรับ New York Fashion Week ที่หลากหลายแบรนด์ต่างนำผลงานสุดโดดเด่นของพวกเขามาให้เหล่าสาวกได้ชมและเตรียมตัวเป็นเจ้าของในซีซั่นหน้านี้ ซึ่งแอลก็ไม่พลาดที่จะรีแคปโชว์ไฮไลต์เด่นๆ มาให้คุณได้ชมกันอีกครั้ง มาดูเลยว่าจะมีแบรนด์ไหนบ้างที่ถูกใจคุณ พร้อมแล้วมาดูไปพร้อมกันเลย!

Coach

หนึ่งในแบรนด์ไฮไลต์ขาประจำที่นิวยอร์กอย่าง Coach ได้กลับมาพร้อมคอลเล็กชั่น Fall 2024 ที่ผสมผสานความคลาสสิกของนิวยอร์กแบบดั้งเดิมในฉบับของ Coach ให้เข้ากับความขบถของกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการนำไอเท็มหนังเดนิม และผ้าฝ้ายแบบดั้งเดิม มาสร้างสรรค์ด้วยเทคนิคที่ทำให้ผ้าขาดวิ่น, การนำเสื้อคาร์ดิแกนมาตีความใหม่ด้วยการใช้วัสดุเวิร์กแวร์ที่มีความคงทนนำมาสร้างสรรค์เป็นสไตล์ใหม่ ตลอดจนดีไซน์โบว์ที่ปรากฏในหลากหลายรูปแบบ โดยคอลเล็กชั่นนี้ยังคงออกแบบผ่านแนวคิดรักษ์โลกอย่าง Coach (Re)Loved ที่สามารถใช้วัสดุได้อย่างคุ้มค่าและยั่งยืนตลอดทั้งกระบวนการผลิต เป็นการต่อชีวิตให้กับสินค้าที่ใช้แล้วนำมาสร้างสรรค์เป็นดีไซน์ใหม่ที่สวยงาม

Tory Burch

Tory Burch คอลเล็กชั่น Fall/Winter 2024 ได้เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ที่ดูชิกขึ้น โดยนำเอารูปทรงซิลลูเอตที่คุ้นเคยมาดัดแปลงและนำเสนอในมุมมองใหม่ผ่านลายเส้นที่คมชัด เท็กซ์เจอร์ที่แปลกใหม่ รวมไปถึงการผสมผสานระหว่างความประณีตและความไม่สมบูรณ์แบบ เช่น หนังปั๊มลายจระเข้ขัดเงา ผ้าขนสัตว์ที่หลุดรุ่ย และรอยผ้าจับจีบที่ไม่เท่ากัน ในขณะที่ซิลลูเอตที่โดดเด่นในคอลเล็กชั่นนี้เน้นไปที่ทรงที่ได้แรงบันดาลใจมารูปทรงของโคมไฟที่ดูคม ชัด เสริมสรีระให้กับสาวๆ แต่ก็ยังสอดแทรกความพลิ้วไหว อ่อนหวานและเซ็กซี่ให้ครบรสชาติมากขึ้น เรียกว่าเป็นสไตล์ของผู้หญิง Tory Burch ในรูปแบบใหม่ที่ดูชิกและสนุกมากยิ่งขึ้นในซีซั่นนี้

Tommy Hilfiger

หนึ่งในโชว์ที่เป็นไฮไลต์ของซีซั่นนี้ นอกเหนือจากการปรากฏตัวของ 3 หนุ่มไทย วิน เมธวิน, ปอนด์ ณราวิขญ์ และ ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน รวมถึงเซเลบชาวเอเชียอย่าง Lee Junho หรือ Nayeon วง Twice ที่แฟชั่นโชว์ของ Tommy Hilfiger ที่ได้หวนคืนสู่บ้านเกิดอีกครั้งที่นิวยอร์กแฟชั่นวีกฤดูกาลล่าสุดพร้อมกับคอลเล็กชั่น Fall/Winter 2024 ซึ่งหยิบยกจิตวิญญาณแห่งหนุ่ม-สาวชาวอเมริกันมาถ่ายทอดสู่เสื้อผ้าสไตล์ Preppy ร่วมสมัยที่เรียบแต่เท่ ผ่านวัสดุอันหลากหลาย รวมไปถึงดีไซน์ซิกเนเจอร์ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์อย่าง Varsity Jacket, ลายแถบสี 3 สีสัญลักษณ์ของแบรนด์, ลายตาราง ตลอดจนแอ็กเซสเซอรี่ส์ที่มีกลิ่นอายของความสตรีตเข้ามาผสมผสานให้คอลเล็กชั่นนี้ดูสนุกและกลมกล่อม จุดประกายไอเดียในการมิกซ์แอนด์แมตช์ให้กับทุกคนได้แบบเข้าใจง่าย

Laquan Smith

ความทรงพลังของเหล่าโบรกเกอร์หญิงแห่ง Wall Street ในสหรัฐอเมริกาคือแรงบันดาลใจให้กับการดีไซน์คอลเล็กชั่นนี้ เสื้อผ้าต่างๆ จึงเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเย้ายวนและเซ็กซี่ ทั้งด้วยบอดี้สูท เสื้อชั้นในที่ซ่อนอยู่ภายในเบลเซอร์ เสื้อคลุมผ้าซาติน เดรสจากเนื้อผ้ากำมะหยี่ เดรสคัตเอาต์โชว์เนื้อหนัง ผ้าซีทรูโปร่งบาง ในทางเดียวกันก็จะมีชุดสูทแบบ Traditional แทรกอยู่ในคอลเล็กชั่น นอกจากนี้แล้วการใช้สีกรมท่าในงานบางชิ้นก็จะให้ความรู้สึกเซ็กซี่ เรียบหรู รวมทั้งเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงทางการเงิน ส่วนชุดบอดี้สูทก็จะเป็นได้ทั้งชุดตอนกลางวันและพร้อมปาร์ตี้ตอนกลางคืน พร้อมด้วยโอเวอร์โค้ตที่เหมาะสำหรับอากาศในฤดูกาลหน้านี้ด้วยเช่นกัน

Thom Browne

Thom Browne หยิบยกแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นมาจาก ‘The Raven’ บทกวีอเมริกันคลาสสิกที่โด่งดังที่สุดของ Edgar Allen Poe โดยนำเรื่องราวของอีกาลึกลับมาผสมผสานกับลายเซ็นของตัวเองไว้อย่างโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นงานเทเลอริ่งสุดเนี้ยบ มีการตัดเย็บผ้าทวีดมาเป็นส่วนหนึ่งของงานอย่างลงตัว พร้อมด้วยซิลลูเอ็ตฟรีฟอร์ม และการพิมพ์ลายบนผืนผ้า โดยเฉพาะกับลายอีกาเรเวนอันเป็นเอกลักษณ์ของคอลเล็กชั่น รวมทั้งผสมผสานกลิ่นอายความเป็นโกธิกแฟชั่นจากบทกวีเข้าไปในผลงานเพื่อถ่ายทอดความงดงามของเรื่องราวนี้ด้วย

Proenza Schouler

สำหรับคอลเล็กชั่นประจำฤดูกาลนี้ Proenza Schouler เน้นสร้างสรรค์ผลงานสไตล์เรียบหรู มีงานเทเลอริ่งประณีต ตัวซิลลูเอ็ตก็โดดเด่น ซึ่งนับว่าเป็นรากฐานของการแต่งตัวของหนุ่มสาวยุคใหม่ที่มีความโมเดิร์นและดูสมาร์ท สวมใส่ได้ตลอดเพราะมีความสง่าที่เหนือกาลเวลา โดยถ่ายทอดผ่านลุคเสื้อที่มีชิ้นส่วนคลุมไหล่ด้านบน เสื้อโค้ตขนสัตว์เชียร์ลิ่ง เดรสเข้ารูปไร้ลวดลายแต่จับเดรปมาอย่างประณีต ตลอดจนแอ็กเซสเซอร์รี่ส์ที่แมตช์กับทุกลุคอย่างสมบูรณ์แบบ

Area

ปิดท้ายกับคอลเล็กชั่นของ Area Spring/Summer 2024 ที่ทำให้สายแฟต้องร้องกรี๊ด! เพราะนี่คือผลงานที่เต็มไปด้วยดีเทลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากดวงตา บนชุดจึงมีรูปดวงตาอยู่ในทุกๆ ชุด ไม่ว่าจะเป็นมินิเดส เครื่องหนัง หรือลุคจากเดนิมก็จะมีการตัดเย็บที่ทำให้เรานึกถึงลูกตาทั้งสิ้น ซึ่งมันให้ความรู้สึกทั้งสวย แปลกตา แต่ก็หลอนไปในเวลาเดียวกัน โดยดีไซเนอร์กล่าวว่า “ตาเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสิ่งที่สื่อสารกับเราตลอดเวลา เพราะมันเชื่อมโยงรูปแบบศิลปะที่เราชื่นชอบมากมาย ไม่ว่าจะตั้งแต่ศิลปะป๊อปอาร์ตในยุค 60 ของวอร์ฮอล ตลอดจนแนวเซอร์เรียลลิสม์ในช่วงทศวรรษ 1920 ของแมนเรย์” ดังนั้นจากคอลเล็กชั่นนี้ก็จะเห็นว่าเขานำศิลปะในแต่ละยุคมาถ่ายทอดบนเสื้อผ้าได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว

Photos: imaxtree

Latest Posts

Don't Miss

Stay in touch

To be updated with all the latest news, offers and special announcements.