Friday, December 6, 2024

เจาะลึก 5 เรื่องราวสำคัญของ ‘Tiffany Lock’ ว่าทำไมคอลเล็กชั่นนี้ถึงเป็นจิวเวลรี่ที่ทุกคนต้องมี!

ในยุคนี้ที่หากพูดถึงการแต่งกาย คนเราคงไม่ได้โฟกัสอยู่แค่เสื้อผ้า แต่ยังหมายรวมถึงเครื่องประดับที่จะถ่ายทอดความเป็นตัวตนของเราได้ไม่ว่าจะอยู่ในลุคใดก็ตาม และหนึ่งในคอลเล็กชั่นที่ครองใจเหล่าสายแฟทุกเพศทุกวัยนั่นคือ Tiffany Lock จิวเวลรี่จาก Tiffany and Co. ที่โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์และฟังก์ชั่น ซึ่งคนไทยเราอาจคุ้นเคยกับภาพของวิน เมธวิน เฮ้าส์แอมบาสซาเดอร์ของแบรนด์ที่สวมใส่เครื่องประดับจากคอลเล็กชั่นนี้ อีกทั้งยังมีโอกาสได้ไปร่วมงานเฉลิมฉลองที่สิงคโปร์อีกด้วย

ซึ่งในปี 2024 นี้ Tiffany and Co. ได้มีการเปิดตัว Tiffany Lock ดีไซน์ใหม่ที่ตอบโจทย์เหล่าผู้สวมใส่มากขึ้น แอลจึงอยากถือโอกาสพาทุกคนไปย้อนประวัติศาสตร์ เจาะทุกความสำคัญของคอลเล็กชั่นนี้ว่ามันกลายมาเป็นเครื่องประดับที่ทุกคน ‘ต้องมี’ ได้อย่างไร

From Padlock to Jewelry

โดยจุดเริ่มต้นของชิ้นงานเครื่องประดับสุดไอคอนิกนั้น ต้องขอย้อนไปตั้งแต่ช่วงราวๆ ปี 1865 ที่ Linus Yale นักประดิษฐ์ชาวอเมริกันใช้กุญแจล็อกที่ชาวอียิปต์โบราณคิดค้นเพื่อรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินมีค่าเมื่อ 4,000 ปีก่อน มาเป็นแรงบันดาลใจในการคิดค้นกุญแจล็อกชนิดพินทัมเบลอร์ ซึ่งมีกลไกที่ใช้หมุดที่ความยาวต่างกันเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวล็อคเปิดออก

และ Charles Lewis Tiffany ผู้ก่อตั้งคนสำคัญของ Tiffany & Co. ก็ได้นำกุญแจล็อกชนิดพินทัมเบลอร์นั้นมาปรับเปลี่ยนให้เป็นสิ่งของที่มีคุณค่าด้านความสวยงาม มีฟังก์ชั่นให้การใช้ประดับเครื่องแต่งกายได้ ซึ่งการเดินทางของกุญแจล็อก ที่เปลี่ยนจากเครื่องมือเพื่อความปลอดภัยสู่เครื่องประดับหรูหรานี้เอง ก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Tiffany & Co. ในการผสมผสานความงามและฟังก์ชั่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

A symbol of love’s enduring protection

ถ้าพูดถึงการล็อก ใครหลายคนอาจนึกถึงการพยายามเก็บรักษาของสำคัญ แต่สำหรับ Tiffany and Co. การล็อกยังหมายถึงความรักนิรันดร์ที่ตีความขึ้นใหม่ในแบบฉบับของแบรนด์ โดยได้อินสไปเรชั่นจาก ‘Love Lock’ อันเป็นตัวแทนของความรักที่ไม่มีที่สิ้นสุดจากประเทศจีนโบราณ ที่คู่รักจะล็อกแม่กุญแจไว้บนสะพานและทิ้งกุญแจลงไปในน้ำด้วยความเชื่อว่าความรักของพวกเขาจะคงอยู่ตลอดไป รวมถึงยังเป็นหนึ่งในธรรมเนียมที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ อาทิ Pont des Arts ในปารีส หรือ สะพานแห่งความรัก ที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าผู้คนจะนำ Love Lock มาแขวนไว้กับราวสะพาน

โดยเรื่องราวความรักนิรันดร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Love Lock ละกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของแบรนด์ได้แก่ ภาพโฆษณาบนนิตยสารในปี 1965 ที่นำเสนอภาพของบรรดาแหวนที่คล้องอยู่กับตัวแม่กุญแจ และภาพการล็อกนี้ยังปรากฏขึ้นอีกครั้งใน 4 ปีต่อมากับโฆษณาช่วงวาเลนไทน์อย่าง ‘Return to Tiffany’ ในรูปแบบของพวงกุญแจที่มีเลขประจำตัวที่ไม่ซ้ำกันของชิ้นนั้นๆ พร้อมกับที่อยู่ของร้านที่เขียนไว้ว่าถ้าเกิดของชิ้นนี้หาย โปรดนำมาคืนที่ Tiffany and Company เพื่อที่พวกเขาจะส่งคืนให้กับเจ้าของที่พลัดพรากจากมันด้วยหมายเลขประจำตัวที่มีอยู่

นับตั้งแต่นั้นมา เครื่องประดับรวมไปถึงสัญลักษณ์ในธีม ‘Return to Tiffany’ ที่เรียบง่ายแต่ความหมายที่ลึกซึ้งก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในหลายยุคและยังมีอยู่จนถึงปัจจุบัน จนเรียกได้ว่าแบรนด์เป็นผู้เปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมความหมายให้กับล็อกนี้ได้อย่างลึกซึ้งเลยทีเดียว

The First Genderless Jewelry Collection

เวลาล่วงเลยมาจนกระทั่งในเดือนสิงหาคมปี 2022 Tiffany & Co. ได้นำเสนอคอลเล็กชั่น Tiffany Lock ภายใต้แนวคิด ‘No rules. All welcome.’ ที่จะมาครองใจเหล่าคนรักจิวเวลรี่กันอีกครั้ง ด้วยการตอบรับโลกแห่งความหลากหลายและการเปิดกว้างเรื่องเพศที่มากขึ้นในคนรุ่นใหม่ โดยมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้เหมาะสำหรับสวมได้ทุกเพศ มีลักษณะที่ดูโมเดิร์น สะอาดตา แต่คงความโค้งมนจากแม่กุญแตามแบบฉบับอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งผลงานครั้งนี้เองที่ถือเป็นเครื่องประดับที่ถูกออกแบบในสไตล์ Unisex เป็นคอลเล็กชั่นแรกของแบรนด์

โดยคอลเล็กชั่นนี้จะแบ่งกำไลข้อมือเป็น 2 รูปแบบคือ เรือนแบบเรียบที่ใช้เยลโลว์โกลด์ 18 กะรัตหรือโรสโกลด์ และการผสมโทนสีระหว่างโรสโกลด์และไวท์โกลด์ หรือเยลโลว์โกลด์และไวท์โกลด์พร้อมประดับเพชรครึ่งตัวเรือน ที่กลายเป็นภาพจำมาจนถึงปัจจุบัน

ยิ่งไปกว่านั้น Tiffany Lock ก็ได้กลายเป็นที่ต้องการของเหล่าสายแฟอย่างต่อเนื่องขึ้นไปอีก ด้วยแคมเปญคอลเล็กชั่นจากสองโกลบอลแอมบาสซาเดอร์อย่าง โรเซ่ แห่งวง BLACKPINK และ จีมิน จากวง BTS ที่มาถ่ายทอดความสวยงามของจิวเวลรีอันเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักนิรันดร์นี้

Expert Craftsmanship

หนึ่งในดีเทลสำคัญที่ทำให้จิวเวลรี่คอลเล็กชั่น Tiffany Lock มีเอกลักษณ์และดูโดดเด่นขึ้นนั่นคือ ฟังก์ชั่นการล็อกที่ถูกคิดค้นมาร่วมหนึ่งปีเต็ม จากฝีมือของทีมออกแบบและวิศวกรชั้นนำของแบรนด์ ซึ่งเป็นความท้าทายในการคิดค้นกลไลตัวล็อกแบบหมุนที่ต้องลงล็อกเหมือนกับแม่กุญแจให้ใช้งานได้จริง ซึ่งนวัตกรรมที่ทั้งปลอดภัยแต่ยังใช้งานได้ง่ายนั้นก็เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้เครื่องประดับคอลเล็กชั่นนี้มีความเรียบง่ายพร้อมคงความสง่างามตามจิตวิญญาณของ Tiffany & Co. ไว้ได้เป็นอย่างดี

The New Design

และในปี 2024 นี้ ทางแบรนด์ได้ยกระดับคอลเล็กชั่น Tiffany Lock ขึ้นอีกครั้งด้วยการเผยดีไซน์ใหม่ โดยมีทั้งกำไลข้อมือ ต่างหู และสร้อยคอในหลากหลายเวอร์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นกำไลข้อมือบางเรียบอันเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมนวัตกรรมกลไกสวมใส่สบายโอบรับข้อมือด้วยความบางเพียงแค่ 4 มม. หรือต่างหูและสร้อยคอมาในดีไซน์ขนาดเล็ก โดยมีทั้งตัวเรือนไวต์โกลด์ โรสโกลด์ และเยลโลว์โกลด์ แบบเรียบและแบบประดับเพชรครึ่งตัวเรือน ซึ่งเหล่าคนรักจิวเวลรี่สามารถนำไปแมตช์กับลุคต่างๆ แบบเดี่ยวๆ อย่างเรียบหรู หรือสวมซ้อนกันก็เพิ่มความโดดเด่นให้กับทุกคนได้

Latest Posts

Don't Miss

[tdn_block_newsletter_subscribe title_text="Stay in touch" description="VG8gYmUgdXBkYXRlZCB3aXRoIGFsbCB0aGUgbGF0ZXN0IG5ld3MsIG9mZmVycyBhbmQgc3BlY2lhbCBhbm5vdW5jZW1lbnRzLg==" input_placeholder="Email address" tds_newsletter2-image="5" tds_newsletter2-image_bg_color="#c3ecff" tds_newsletter3-input_bar_display="row" tds_newsletter4-image="6" tds_newsletter4-image_bg_color="#fffbcf" tds_newsletter4-btn_bg_color="#f3b700" tds_newsletter4-check_accent="#f3b700" tds_newsletter5-tdicon="tdc-font-fa tdc-font-fa-envelope-o" tds_newsletter5-btn_bg_color="#000000" tds_newsletter5-btn_bg_color_hover="#4db2ec" tds_newsletter5-check_accent="#000000" tds_newsletter6-input_bar_display="row" tds_newsletter6-btn_bg_color="#da1414" tds_newsletter6-check_accent="#da1414" tds_newsletter7-image="7" tds_newsletter7-btn_bg_color="#1c69ad" tds_newsletter7-check_accent="#1c69ad" tds_newsletter7-f_title_font_size="20" tds_newsletter7-f_title_font_line_height="28px" tds_newsletter8-input_bar_display="row" tds_newsletter8-btn_bg_color="#00649e" tds_newsletter8-btn_bg_color_hover="#21709e" tds_newsletter8-check_accent="#00649e" embedded_form_code="JTNDIS0tJTIwQmVnaW4lMjBNYWlsQ2hpbXAlMjBTaWdudXAlMjBGb3JtJTIwLS0lM0UlMEElMEElM0Nmb3JtJTIwYWN0aW9uJTNEJTIyaHR0cHMlM0ElMkYlMkZ0YWdkaXYudXMxNi5saXN0LW1hbmFnZS5jb20lMkZzdWJzY3JpYmUlMkZwb3N0JTNGdSUzRDZlYmQzMWU5NGNjYzVhZGRkYmZhZGFhNTUlMjZhbXAlM0JpZCUzRGVkODQwMzZmNGMlMjIlMjBtZXRob2QlM0QlMjJwb3N0JTIyJTIwaWQlM0QlMjJtYy1lbWJlZGRlZC1zdWJzY3JpYmUtZm9ybSUyMiUyMG5hbWUlM0QlMjJtYy1lbWJlZGRlZC1zdWJzY3JpYmUtZm9ybSUyMiUyMGNsYXNzJTNEJTIydmFsaWRhdGUlMjIlMjB0YXJnZXQlM0QlMjJfYmxhbmslMjIlMjBub3ZhbGlkYXRlJTNFJTNDJTJGZm9ybSUzRSUwQSUwQSUzQyEtLUVuZCUyMG1jX2VtYmVkX3NpZ251cC0tJTNF" descr_space="eyJhbGwiOiIxNSIsImxhbmRzY2FwZSI6IjE1In0=" tds_newsletter="tds_newsletter3" tds_newsletter3-all_border_width="0" btn_text="Sign up" tds_newsletter3-btn_bg_color="#ea1717" tds_newsletter3-btn_bg_color_hover="#000000" tds_newsletter3-btn_border_size="0" tdc_css="eyJhbGwiOnsibWFyZ2luLWJvdHRvbSI6IjAiLCJkaXNwbGF5IjoiIn0sInBvcnRyYWl0Ijp7ImRpc3BsYXkiOiIifSwicG9ydHJhaXRfbWF4X3dpZHRoIjoxMDE4LCJwb3J0cmFpdF9taW5fd2lkdGgiOjc2OCwicGhvbmUiOnsiZGlzcGxheSI6Im5vbmUifSwicGhvbmVfbWF4X3dpZHRoIjo3Njd9" tds_newsletter3-input_border_size="0" tds_newsletter3-f_title_font_family="445" tds_newsletter3-f_title_font_transform="uppercase" tds_newsletter3-f_descr_font_family="394" tds_newsletter3-f_descr_font_size="eyJhbGwiOiIxMiIsInBvcnRyYWl0IjoiMTEifQ==" tds_newsletter3-f_descr_font_line_height="eyJhbGwiOiIxLjYiLCJwb3J0cmFpdCI6IjEuNCJ9" tds_newsletter3-title_color="#000000" tds_newsletter3-description_color="#000000" tds_newsletter3-f_title_font_weight="600" tds_newsletter3-f_title_font_size="eyJhbGwiOiIyMCIsImxhbmRzY2FwZSI6IjE4IiwicG9ydHJhaXQiOiIxNiJ9" tds_newsletter3-f_input_font_family="394" tds_newsletter3-f_btn_font_family="" tds_newsletter3-f_btn_font_transform="uppercase" tds_newsletter3-f_title_font_line_height="1" title_space="eyJsYW5kc2NhcGUiOiIxMCJ9"]