Friday, March 28, 2025

ย้อน 5 พิธีเปิดโอลิมปิกที่ขึ้นชื่อว่า ‘เป็นตำนาน’ ที่สุดของโลกกีฬาตลอดกาล

ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วันแห่งการเฉลิมฉลองการแข่งขันกีฬา Olympics 2024 ณ กรุงปารีสที่คนทั่วโลกรอคอย สิ่งที่กลายเป็นที่กล่าวถึงนอกจากสถิติของเหล่านักกีฬาอันน่าทึ่ง ยังเป็น ‘พิธีเปิด’ ที่แต่ละประเทศผู้เป็นเจ้าภาพล้วนแล้วแต่พร้อมใจกันสร้างสรรค์ความยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะผ่านทักษะของผู้คน เทคนิกวิธีการที่น่าตื่นตาตื่นใจ นวัตกรรมล้ำสมัย พร้อมทั้งยังใช้ประวัติศาสตร์สุดลึกซึ้งของประเทศตนเองมาเสริมเรื่องราวให้พิธีเปิดแต่ละครั้งมีแต่ความน่าจดจำ และก่อนที่ทุกคนได้พบเจอกับความอลังการของพิธีเปิดในปีนี้ แอลอยากพาคุณไปย้อนชม 5 พิธีเปิดจาก 5 เมืองที่ได้ชื่อว่า ‘เป็นตำนาน’ จนเป็นที่กล่าวขานจนถึงปัจจุบัน

Los Angeles (1984)

ย้อนกลับไป 4 ทศวรรษที่แล้ว ถึงแม้ Los Angeles จะรับหน้าที่เป็นผู้จัดกีฬาโอลิมปิกในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ แต่สหรัฐฯ ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังแม้แต่น้อย โดยเจ้าภาพได้ผสมผสานความลึกซึ้งทางอารมณ์เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬา และความเป็นเลิศด้านเทคนิก ออกมาเป็นพิธีเปิดสุดยิ่งใหญ่ได้อย่างน่าประทับใจ และสิ่งที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุดคือมนุษย์จรวดที่โผล่มาลงที่กลางสนาม Los Angeles Memorial Coliseum ซึ่งถูกสวมใส่และเหาะโดย Bill Suitor โดยเขากล่าวถึงการรับหน้าที่นี้ว่าเขากังวลมากๆ เพราะมีสายตานับพันที่จับตาดูการบินของเขา

โดยโอลิมปิกที่ลอสแอนเจลิสครั้งนี้เป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์การแข่งขันกีฬาที่ถึงกล่าวถึงด้านความสำเร็จมากที่สุด เพราะอย่างที่กล่าวว่าหากย้อนกลับไปยุค 1980 ที่ประเทศพบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้งบประมาณการจัดงานมีจำกัด และผู้คนต่างมองว่าเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากร ดังนั้นการสร้างโมเมนต์อันน่าจดจำขึ้นได้ท่ามกลางเสียงต่อต้านครั้งนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทุกคนทราบกันว่าโอลิมปิกก็สามารถทำเงินได้ และเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้การจัดโอลิมปิกยังคงเกิดขึ้นในปีถัดๆ ไป

Barcelona (1992)

เชื่อว่าคนในปัจจุบันที่ใช้โซเชียลกันอยู่เป็นประจำ คงคุ้นภาพกับคลิปของนักกีฬาที่ยิงธนูไปจุดไฟบนกระถางคบเพลิงที่ยอดสเตเดี้ยม ซึ่งเราที่ดูคลิปกันในทุกวันนี้ไม่ว่าจะกี่รอบต่อกี่รอบ วินาที่ที่ Antonio Rebollo ง้างและลูกธนูปล่อยออกไปก็ยังทำเอาหยุดหายใจอยู่ทุกครั้ง โดยคลิปนั้นมาจากพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกในปี 1992 ที่บาร์เซโลน่า ที่ถีงแม้ว่าอีเวนต์นี้จะไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องความอลังการเหมือนครั้งไหนๆ แต่วิธีการจุดคบเพลิงนี้ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นความเรียบง่ายแต่ ‘ทรงพลังที่สุด’ และยังไม่มีใครเอาชนะได้จนถึงทุกวันนี้

Sydney (2000)

ถัดมาที่พิธีเปิด ณ สนามกีฬา Stadium Australia ในวันที่ 15 กันยายน ปี 2000 ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ที่ทำให้คนทั่วโลกรู้จัก ‘ออสเตรเลีย’ และกลายเป็นสถานที่ที่ต้องอยู่ในบักเกตลิสต์ของเหล่านักท่องเที่ยว โดยพิธีเปิดนี้ได้เฉลิมฉลองวัฒนธรรมและมรดกอันเป็นเอกลักษณ์ของออสเตรเลียด้วยการพาผู้ชมไปทัวร์ทั่วทั้งทวีป ตั้งแต่การยกเหล่าสัตว์น้ำมาจำลองโลกใต้ท้องทะเลที่สะท้อนถึงภาพชายฝั่ง Great Barrier Reef , บรรยากาศธรรมชาติและสัตว์ป่าที่ชูภาพชนบทของประเทศ หรือการแสดงของนักเต้นและนักดนตรีของชาวอะบอริจินที่เน้นย้ำถึงความเชื่อมโยงอันลึกซึ้งระหว่างผืนดินกับผู้อยู่อาศัยกลุ่มแรก

และวินาทีที่ทำให้คนทั้งโลกหยุดหายใจนั่นคือการจุดคบเพลิงของ Cathy Freeman ท่ามกลางผืนน้ำจากน้ำตกซึ่งสะท้อนภาพภูมิประเทศของออสเตรเลีย ซึ่งวงไฟแห่งการความสามัคคีนี้ก็ยกขึ้นทำให้เกิดน้ำตกล้อมรอบผู้จุดพบเพลิงและเลื่อนขึ้นไปสู่ยอดสเตเดี้ยม

นอกจากนี้ พิธีเปิดโอลิมปิกในปี 2000 ยังเป็นการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ตัดสินใจรวมชาติเป็นหนึ่งเดียว และส่งนักกีฬาแข่งขันในนามประเทศเกาหลีด้วยธงชาติร่วม ซึ่งถือเป็นหนึ่งวันที่น่าภูมิใจมากที่สุดของเหล่านักกีฬาที่ได้ใส่เครื่องแบบเหมือนกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน และตั้งใจสู้เพื่อชาติเดียวกันนั่นเอง 

Athens (2004)

อีกหนึ่งเมืองที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ สถานที่อันเป็นรากฐานของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โดยงานพิธีเปิดเมื่อปี 20024 จัดขึ้นใต้คอนเซ็ปต์ ‘Welcome Home’ ซึ่งมีพิธีเปิดงานกีฬาที่อลังการสมฐานะประเทศต้นกำเนิด โดยความตระการตาคือการนำเสนอวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ต่างๆ ผ่านแสงสีเสียงและโชว์ อีกทั้งสนามกีฬายังถูกเนรมิตให้เป็นทะเลสาป เพื่อสื่อถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อันเป็นต้นกำเนิดอารยธรรมต่างๆ ที่ส่งผ่านมาถึงปัจจุบัน

ยิ่งไปกว่านั้น ไฮไลต์ของงานแสดงเปิดมหกรรมกีฬาคือ การปรากฏตัวของนักร้องชาวไอซ์แลนด์อย่าง Bjork ที่มาในชุดเดรสสีฟ้ายาว 1,000 ตารางฟุตที่วางยาวทั่วเวที พร้อมคำกล่าวก่อนเริ่มการแสดงสุดไอคอนิกที่ว่า “ฉันเป็นตัวแทนของมหาสมุทร” และเมื่อเริ่มการร้องเพลง ชุดของเธอค่อยๆ สยายออกราวกับผืนน้ำ เรียกได้ว่านี่เป็นกิมมิกของเอเธนส์ โอลิมปิก 2004 ที่ชวนจดจำสำหรับอย่างมาก

London (2012)

ส่งท้ายด้วยพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่กรุงลอนดอน เมื่อปี 2012 กับภาพความน่าสนใจที่เริ่มตั้งแต่วินาทีแรก ด้วยบรรยากาศของธรรมชาติประเทศอังกฤษที่ปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา จนถึงช่วงยุคอุตสาหกรรมที่มีเหล่าช่างฝีมือหลอมเหล็กให้กลายเป็นโลโก้โอลิมปิกที่ลอยขึ้นไปสู่ฟากฟ้า ก่อนจะฉายภาพ Daniel Craig เจ้าของบทบาท James Bond ที่พาสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จากพระราชวังบักกิงแฮมไปยังสนามกีฬาด้วยการนั่งเฮลิคอปเตอร์และกระโดดร่มลงมา สู่ภาพของควีนเอลิซาเบธที่ 2 (เวอร์ชั่นเรียลไทม์) กำลังเดินเข้าสู่สนามกีฬาท่ามกลางสายตาของผู้ชมกว่า 900 ล้านคนทั่วโลก

โดยพิธีเปิดครั้งนี้มีการนำเอาบทประพันธ์และวรรณกรรมเด็กที่เป็นตำนาน อาทิ The Tempest ของ William Shakespear, Mary Poppins และ Voldemort มาร่วมสร้างซีนสุดมหัศจรรย์ราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งนวนิยาย ตลอดจนการปรากฏตัวของ Mr.Bean คาแรกเตอร์ที่ทั่วโลกหลงรัก และงานดนตรีสไตล์อังกฤษจากหลากหลายยุค พร้อมเฉลิมฉลองปิดจบพิธีนี้ อย่างสมบูรณ์แบบด้วยการแสดงของ Sir Paul McCartney ในเพลง Hey Jude นั่นเอง

และพิธีเปิดที่กรุงปารีสในปี 2024 นี้ จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการจัดพิธีเปิดนอกสเตเดี้ยม ด้วยคำกล่าวของ Tony Estanguet ประธาน International Olympic Committee (IOC) ที่ว่า “ทั้งเมืองนี้จะถูกเปลี่ยนให้เป็นสนามกีฬาโอลิมปิก” อีกทั้งยังมีการรายงานว่านักร้องในตำนานอย่าง Celine Dion และ Lady Gaga จะขึ้นแสดงอีกด้วย ซึ่งทุกคนมารอรับชมพร้อมกันทั่วโลกในเวลา 00.30 น. วันที่ 27 ตามเวลาประเทศไทยกันได้เลย

Latest Posts

Don't Miss