เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมหลายๆ แบรนด์แฟชั่นถึงจับมือกับอนิเมะ (Anime) ต่างๆ ในการออกคอลเล็กชั่น? ทั้งที่ภาพจำของทั้งสองนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะถ้าพูดถึงแฟชั่น ผู้คนมักมีภาพความหรูหราและสวยงาม ในขณะที่ถ้าพูดถึงการ์ตูน เรามักนึกถึงความเพ้อฝันหรือสิ่งเหนือจินตนาการซะมากกว่า ดังนั้นวันนี้แอลอยากจะชวนหาคำตอบไปพร้อมๆ กับชวนดูปรากฏการณ์ความผสมผสานระหว่างแฟชั่นและอนิเมะว่าทั้งคู่นั้นดลใจกันและกันอย่างไร


Since Anime and Pop-culture met each other
ปัจจุบันนี้ความชื่นชอบอนิเมะได้พัฒนาสู่วัฒนธรรมย่อยเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งเส้นแบ่งระหว่างอนิเมะและป๊อปคัลเจอร์ได้ลดลงเรื่อยๆ และเริ่มผสานตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ และหนึ่งในนั้นคืออุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งทั้งคู่ได้สร้างบันดาลใจให้กันและกันในหลายมิติ


Bridging Anime Culture and Fashion
ความงดงามของเสื้อผ้าหรือรายละเอียดสุดประณีตของเครื่องประดับได้จุดประกายให้ นาโอโกะ ทาเคอุจิ ผู้แต่งการ์ตูนโชโจในตำนานเรื่อง Sailor Moon หยิบชุดและไอเท็มที่โดนใจไปใช้กับตัวละคร ซึ่งเธอเองมีความชื่นชอบในไฮแฟชั่น อาทิ Christian Dior, CHANEL, Yves Saint Laurent และ Thierry Mugler เป็นพิเศษอยู่แล้ว


ชุดของเจ้าหญิงเซเรนิตี้ ผู้มีอีกชื่อหนึ่งว่าสึคิโนะ อุซางิหรือเซเลอร์มูน ได้แรงบัลดาลใจมาจากชุด Il Palladio ของ Dior ในคอลเล็กชั่น Spring/Summer 1992 ผลงานโดยดีไซเนอร์ Gianfranco Ferré ซึ่งความน่าสนใจของชุดนี้คือการได้ไอเดียมาจากเสาไอออนิก สถาปัตยกรรมของกรีกโบราณ


หรือจะเป็นอีกหนึ่งชุดไอคอนิกจาก CHANEL Spring/Summer ปี 1992 ที่มาในชุดเดรสสีดำและประดับด้วยโซ่ทอง ผลงานของดีไซเนอร์ Karl Lagerfeld ในตำนานผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งถูกสวมใส่โดยตัวละครเมโอ เซ็ตสึนะหรือเซเลอร์พลูโต


ด้านโชเน็นก็ไม่แพ้กัน โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ (JoJo’s Bizarre Adventure) ผลงานของอาจารย์ฮิโรฮิโกะ อารากิ อีกหนึ่งการ์ตูนโด่งดังจากยุค 80s ที่ใครผ่านมาเห็นก็ต้องทักว่าท่าโพสต์ของตัวละครดูคุ้นตาคุ้นใจเป็นพิเศษ เพราะผู้แต่งนั้นได้ไอเดียในการออกแบบคาแรกเตอร์มาจากความงามของประติมากรรมในอิตาลี และต่อยอดมาด้วยความชื่นชอบในแฟชั่นและการถ่ายแบบ


From Screen to Catwalk
ด้านอนิเมะเองก็สร้างแรงบันดาลใจให้วงการแฟชั่นด้วยเช่นกัน ดังผลงานการออกแบบของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ Nicolas Ghesquière จาก Louis Vuitton ในคอลเล็กชั่น Spring/Summer ปี 2016 ที่มีคอนเซปต์ไซเบอร์พังก์ ก็ได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูนแนวเดียวกัน เช่น Neon Genesis Evangelion และ Ghost in the Shell


Fantasy in Fashion
อีกหนึ่งความแปลกใหม่คือการจับมือกันระหว่าง Gucci Lookbook x One Piece การ์ตูนยอดนิยมตลอดกาล ที่หยิบตัวละครหลักอย่าง มังกี้ ดี ลูฟี่ และโรโรโนอา โซโล มาสวมเสื้อผ้าจากคอลเล็กชั่น Fake/Not ประจำซีซั่น Fall/Winter ปี 2020 โดยมีอาจารย์เออิจิโระ โอดะ เจ้าของผลงานการ์ตูนเป็นผู้วาดภาพในลุคบุ๊ก ซึ่งการร่วมมือกันในครั้งนี้เรียกกระแสตอบรับที่ดีจากทั้งแฟนๆ วันพีซและกุชชี่ ด้วยคาแรกเตอร์สุดเท่และเสื้อผ้าที่สะท้อนความเป็นตัวละครออกมาได้อย่างลงตัว

The Power of Nostalgia
การจับมือกันระหว่างแบรนด์เป็นกลยุทธ์ที่จะดึงดูดผู้ซื้อได้อย่างดี แต่ทำไมแบรนด์แฟชั่นถึงเลือกร่วมมือกับตัวการ์ตูนที่ไม่มีอยู่จริงกันนะ? หัวใจสำคัญของการกระทำนี้คือ ‘การหวนคืนสู่วัยเด็ก’ เพราะหลายๆ คนเติบโตมากับการ์ตูนในดวงใจนั่นเอง และถ้าหากใครยังนึกไม่ออกว่าแบรนด์ไหนที่เคยจับมือกับการ์ตูนต่างๆ มาแล้วบ้าง วันนี้แอลได้หยิบยกตัวอย่างคอลเล็กชั่นจากนานาแบรนด์มาให้ชมความพิเศษกัน
The Art of Collaboration : Clothes & Shoes
DOLCE&GABBANA x Jujutsu Kaisen
คอลเล็กชั่นยูนิเซ็กซ์ที่ผสานความเป็น D&G และแก่นของเรื่อง มหาเวทย์ผนึกมาร ไว้ด้วยกัน โดยได้ไอเดียมาจากความครึกครื้นในย่านร่วมสมัยอย่างชิบูย่าและฮาราจูกุ อีกทั้งยังเป็นย่านที่ตั้งของเรื่องราวในอนิเมะทั้งสองซีซั่นอีกด้วย



LOEWE x Studio Ghibli
จากความหลงใหลใน Studio Ghibli ของ Jonathan Anderson ผู้เป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ รวมถึงความรักในงานศิลปะและธรรมชาติของทั้งแบรนด์และสตูดิโอจิบลิที่นำเอาตัวละครมาโลดแล่นอยู่บนกระเป๋าและเสื้อผ้า สู่ผลงานการร่วมมือกันออกคอลเล็กชั่นถึง 3 ครั้ง ได้แก่ LOEWE x My Neighbor Totoro, LOEWE x Spirited Away และ LOEWE x Howl’s Moving Castle



Onitsuka Tiger x Astro Boy
คอลเล็กชั่นฉลองครบรอบ 75 ปีของ Onitsuka Tiger แบรนด์แฟชั่นสัญชาติญี่ปุ่น ที่ร่วมมือกับการ์ตูนสัญชาติเดียวกันที่มุ่งสู่ปีที่ 100 แล้ว อย่าง Astro Boy หรือ เจ้าหนูปรมาณู โดยทั้งสองมีแนวคิดดั้งเดิมร่วมกันนั่นคือความตั้งใจที่จะหล่อเลี้ยงการเติบโตของเด็กๆ ผ่านความฝันและการมีชีวิตชีวา


The Art of Collaboration : Accessories
Montblanc x Naruto
อีกหนึ่งคอลเล็กชั่นแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของ นารูโตะ ฉบับอนิเมะ โดยเป็นคอลเล็กชั่นที่เน้นไปที่เรื่องราวช่วงการเติบโตของนารูโตะที่ฝึกฝนวิชาอยู่กับจิไรยะ ผู้เป็นอาจารย์และนักแต่งนิยาย ซึ่งมีทั้งสินค้าไลน์เครื่องเขียน เช่น ปากกา Meisterstück อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ และไลน์แฟชั่น เช่น กระเป๋า เข็มขัด และไฮไลท์ของงานอย่างสมาร์ทวอทช์ Montblanc x Naruto Summit 3


นี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากคอลเล็กชั่นทั้งหมดเท่านั้น จะเห็นได้ว่าปรากฏการณ์การร่วมมือกันระหว่างแฟชั่นกับตัวละครสมมติเป็นสิ่งที่เหมือนจะแปลกใหม่ แต่ขณะเดียวกันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของวงการไปซะแล้ว ด้านแฟนๆ อนิเมะหรือสายแฟชั่นคนไหนที่รอคอยการคอลแลบจากแบรนด์โปรดกันอยู่บ้าง?

TEXT: YANISA LIKHITAPISIT