Thursday, March 27, 2025

ชุบชีวิตศิลปะแห่งความขบถผ่าน Schiaparelli Haute Couture Fall/Winter 2024

เป็นอีกครั้งที่แบรนด์แฟชั่นจอมแหกกฎอย่าง Schiaparelli ทำเอาสายแฟต้องตกตะลึงกันเป็นแถบ หลังจากโชว์คอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ประจำฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2024-2025 ของ Schiaparelli เปิดตัวอย่างอลังในธีม ‘THE PHOENIX’ นำโดย Daniel Roseberry ดีไซเนอร์และครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ ซึ่งได้ตีความประวัติศาสตร์เมซงและนำเสนอผ่านการผสมผสานกับสัตว์มายาในเทพปกรณัมอย่าง ‘นกฟีนิกซ์’ เพื่อเป็นการรำลึกและเฉลิมฉลองการฟื้นคืนชีพของแบรนด์ที่ครั้งหนึ่งเกือบจะต้องโบกมืออำลาวงการแฟชั่นไปตลอดกาลแต่ก็สามารถกลับมาโลดแล่นได้อย่างสง่าผ่าเผยอีกครั้ง 

ต้องย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของ Elsa Schiaparelli ดีไซเนอร์หัวขบถชาวอิตาลี เปิดห้องเสื้อของตัวเองในนาม Maison Schiaparelli ในปี 1927 ซึ่งเธอได้สร้างเสียงฮือฮาด้วยผลงานออกแบบแฟชั่นบรรลือโลกสไตล์ศิลปะเหนือจริงแบบ ‘เซอร์เรียลลิสต์’ ที่ปลดแอกจากขนบแบบเดิมๆ จนสังคมได้วางเธอกับ Coco Chanel ให้เป็น 2 เจ้าแม่แฟชั่นคู่ปรับแห่งยุคสงครามโลก แต่ก็เพราะพิษสงครามในเวลานั้นนี่เองที่ทำให้ธุรกิจห้องเสื้อของเธอต้องปิดตัวลงในปี 1954 เมซงแฟชั่นกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งในปี 2007 และพยายามกู้ชื่อเสียงคืนมา จนกระทั่งปี 2019 Schiaparelli ได้ถูกชุบชีวิตและสามารถกลับขึ้นมาผงาดใหม่อีกครั้งด้วยฝีมือการออกแบบของแดเนียล โรสแบร์รี่ รวมถึงบรรดาเซเลบริตี้อย่าง คิม คาร์ดาเชียน หรือ เบลลา ฮาดิด ที่ใส่ชุดของแบรนด์จนกลายเป็นไวรัล

คำกล่าวของแดเนียลที่ว่า “ผู้คนไม่ได้ซื้อ Schiaparelli หากแต่สะสม” สะท้อนคุณค่าทางศิลปะของแบรนด์ที่เป็นมากกว่าเสื้อผ้าเพื่อการสวมใส่ ทั้งยังสอดรับกับแรงบันดาลใจของคอลเล็กชั่นโอตกูตูร์นี้ที่เขาต้องการเชิดชูเอลซ่าและความสามารถในการสร้างสรรค์ใหม่ที่ทำให้หวนคืนสู่สปอตไลต์ได้ในที่สุด โดยหนึ่งในไฮไลต์ของโชว์คือลุคที่จุดประกายจากชุดเดรสสุดไอคอนิกที่เอลซ่าสวมใส่ในราวปี 1940s พร้อมผ้าคลุมไหล่ขนหงส์กับพลีตลวดลาย ‘trompe l’oeil’ ที่สร้างสรรค์โดย Jean Dunand เพื่อเป็นการยกย่อง Anna Pavlova นักเต้นบัลเล่ต์สาวที่เสียชีวิตในปีเดียวกัน เพราะถ้าหากอันนาถูกจดจำในภาพของหงส์จากการแสดงในตำนานอย่าง ‘The Dying Swan’ เอลซ่าก็คงเปรียบเสมือนนกฟีนิกซ์ที่สามารถเกิดใหม่จากเถ้าธุลีอีกครั้งได้ไม่รู้จบ 

จากภาพสเก็ตช์สู่งานศิลป์ทุกชิ้นที่ปรากฏบนรันเวย์ ต่างโดดเด่นด้วยซิลลูเอ็ตและเทคนิกการตัดเย็บขั้นสูงอันเป็นเอกลักษณ์ ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาผ่านเสื้อผ้าอาภารณ์ได้อย่างตราตรึงใจ ตั้งแต่เสื้อคลุม ท่อนบน ขนนก ร้องเท้า รวมไปถึงเลเยอร์และดีเทลต่างๆ ที่โก้เก๋สะกดทุกสายตา แต่ก็ซ่อนกลิ่นอายความลึกลับน่าค้นหาเอาไว้

แดเนียลเผยว่าคอลเล็กชั่นนี้เป็นการสรรเสริญพลังแห่งการเกิดใหม่ที่เมซงมอบให้ผู้หญิง โดยเขาตีความและผสมผสานดีเอ็นเอของ Schiaparelli เข้ากับรสนิยมในความแปลกใหม่ของตัวเขา อาทิ เดรสที่ดัดแปลงนำทรงรองเท้ามาทำเป็นส่วนอก ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ‘Shoe Hat’ ผลงานหมวกทรงรองเท้าสุดบรรเจิดของเอลซ่าที่ได้ก้าวออกจากกรอบทางแฟชั่นอย่างสร้างสรรค์ 

หรือแม้แต่ลุคที่แต่งเติมกลิ่นอายความแปลกใหม่โดยเพิ่มดีเทลหนามแหลมคล้ายไดโนเสาร์และการใส่ลูกเล่นผ้าคลุมหน้าของนางแบบ ก็สะท้อนความแฟนตาซีของเอลซ่าและความครีเอทีฟแปลกตาของแดเนียลได้เป็นอย่างดี

นอกเหนือจากไฮไลต์ที่นำเสนอไป ลุคอื่นๆ จากคอลเล็กชั่นกูตูร์ที่แอลคัดมาให้ชมในครั้งนี้ก็เรียกได้ว่าโดดเด่นจนแทบจะแย่งซีนกันเอง เพราะล้วนเป็นดั่งงานศิลป์ของเอลซ่า สเคียปาเรลลี ผู้ซึ่งถูกจารึกลงหน้าประวัติศาสตร์แฟชั่นอีกครั้งกับสไตล์และผลงานสุดอมตะของเธอ

TEXT: WASAWAT NATPATCHARAKUL

Latest Posts

Don't Miss