Friday, February 7, 2025

สำรวจแฟชั่นที่ไร้กฎเกณฑ์ผ่าน 5 ประเด็นสำคัญจาก PRADA Spring/Summer 2025

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ใหญ่ที่เหล่าสายแฟทั่วโลกรอคอยในมิลานแฟชั่นวีกอยู่ทุกซีซั่น สำหรับ PRADA ที่ในรอบนี้สองครีเอทีฟไดเร็กเตอร์อย่าง Miuccia Prada และ Raf Simons ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการเผยโฉมคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2025 ทั้ง 49 ลุคในดีไซน์อันน่าทึ่งที่มาพร้อมไอเท็มใหม่ๆ ให้ทุกคนได้ตื่นตาตื่นใจกันตลอดทั้งโชว์ ซึ่งเพียงแค่ระยะเวลาราวๆ 30 นาทีของแฟชั่นโชว์นี้ก็เต็มไปด้วยแง่มุมที่น่าสนใจมากมาย ที่แอลจะมารีแคปให้ทุกคนได้ชมกันอีกสักครั้ง

The Futuristic Style

ทันทีที่แฟชั่นโชว์ครั้งนี้เริ่มต้นขึ้น สิ่งที่ผู้ชมจะสัมผัสได้ทันทีเลยคือ ‘ความฟิวเจอริสติก’ ที่ค่อยๆ แผ่ไปเต็มทุกพื้นที่ของรันเวย์ด้วยเหล่าโมเดลที่ทยอยกันเดินออกมา ความแปลกใหม่ ล้ำสมัยด้วยองค์ประกอบต่างๆ อย่างการปักเลื่อมบนเดรส กระโปรงสีเมทัลลิก การใช้เทคนิกเลเซอร์คัต แว่นตาที่ให้ความรู้สึกเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ ตลอดจนเครื่องประดับศีรษะดีไซน์เก๋ พร้อมเพิ่มกิมมิกด้วยการยกวัสดุจากแต่ละยุคสมัยที่ให้กลิ่นอายวินเทจมาใช้ เช่น ห่วงโลหะ ที่ Prada ก็สามารถนำมาประกอบเป็นดีไซน์ที่เผยความล้ำสมัยได้อย่างมีชั้นเชิง

The Signature Aesthetic

หนึ่งในคีย์เวิร์ดที่รู้จักกันดีท่ามกลางเหล่าคนรักแฟชั่น และเป็นสิ่งที่อธิบายความเป็น Prada ได้ดีก็คือ ‘Ugly Chic’ กับการนำเสนอสิ่งที่ดูเหมือนจะไม่เข้ากันตามกรอบมาตรฐานแฟชั่น ทั้งด้านซิลลูเอ็ต แพตเทร์น โทนสี ให้กลายเป็นดีไซน์ที่มีสไตล์อย่างลงตัว เต็มไปด้วยความยูนีก และสร้างเทรนด์ใหม่ๆ ขึ้นมาได้ ซึ่งคอลเล็กชั่นประจำฤดูกาลใบไม้ร่วง/ฤดูร้อน 2025 นี้ทางแบรนด์ก็ยังตอกย้ำเอกลักษณ์นี้ไว้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

The Human Creativity

ทาง Miuccia Prada ได้กล่าวในโชว์โน้ตว่า “ยุคนี้เป็นช่วงเวลาของข้อมูลที่ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนมองเห็นตัวเองในปัจจุบันจากสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยอัลกอริทึม” จากอินสไปเรชั่นตั้งต้นนี้จึงทำให้หัวเรือใหญ่ของแบรนด์เลือกถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์จากมนุษย์ แบบไม่อิงกฏเกณฑ์ใดๆ หรือถูกชี้นำจากใครมาสู่เครื่องแต่งกายของคอลเล็กชั่นนี้ การที่เราได้เห็นเสื้อผ้าที่มีความแปลกแหวกแนว จากซิลลูเอ็ตที่อาจธรรมดาแต่ถูกรังสรรค์ผ่านเทคนิกเฉพาะตัว ดีไซน์ใหม่ๆ ที่คาดเดาไม่ได้ จนอาจทำให้ใครหลายคนมองว่ามันจะสามารถใส่ได้จริงหรือไม่ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่สะท้อนการยกย่องความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ไว้เหนืออัลกอริทึมทั้งสิ้น

The Palette

ความสนุกสนานของคอลเล็กชั่นนี้ไม่ได้อยู่ที่ซิลลูเอ็ตหรือการแมตช์วัสดุต่างๆ บนลุคเดียวกันเท่านั้น แต่ในด้านโทนสีที่ทาง PRADA เลือกใช้ก็เป็นส่ิงที่มาเพิ่มความสนุกสนาน และช่วยเสริมให้ core หลักของแรงบันดาลใจและเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป้นสีแดง สีม่วง สีชมพู สีส้ม สีเขียว สีเหลือง สีฟ้า และสีเทา ที่ถูกนำมาจับคู่ตั้งแต่หัวจรดเท้าทำให้แต่ละลุคดูไม่น่าเบื่อ แต่ก็ปรากฏบางลุคที่ใช้สีโมโนโทนที่มาเพิ่มไดนามิกให้กับคอลเล็กชั่นนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยเช่นกัน

The Shoes From Archive

นอกจากเสื้อผ้าที่เหล่าโมเดลสวมใส่แล้ว อีกหนึ่งแอ็กเซสเซอรี่ส์ที่เป็นไฮไลต์สำคัญของคอลเล็กชั่นนี้ก็คือรองเท้า ซึ่งบอกได้เลยใครที่เป็นสาวกของ Prada และคนรักรองเท้าต้องกรี๊ดกันแน่นอน เพราะว่าแบรนด์ได้ย้อนเวลานำดีไซน์จากผลงานอาไคฟ์กลับมาปัดฝุ่นและนำเสนอได้อย่างน่าทึ่ง อาทิ รองเท้าแตะส้นแบนพร้อมอสายรัดด้านหน้า ที่เคยปรากฏในคอลเล็กชั่น Spring 1996 , รองเท้าส้นสูงที่มีลูกเล่นเหมือนปีกบริเวณช่วงส้นเท้า จากคอลเล็กชั่นประจำฤดูกาล Fall/Winter 2008/2009 , รองเท้าหนังผูกเชือกลาย Brogues จากคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2011 ตลอดจนรองเท้าทรงแมรี่เจนส้นสูงที่ประดับส่วนหัวด้วยยางสีสดใส ซึ่งเป็นไอเท็มไฮไลต์จากฤดูกาล Fall/Winter 2012

แน่นอนว่าจากความน่าสนใจทั้ง 5 ประเด็นนี้ก็ทำให้คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2025 กลายเป็นที่ฮือฮาสำหรับเหล่าสายแฟได้แบบไม่ผิดคาด และเชื่อว่าในปีหน้าที่ฤดูกาลนี้มาถึง ทางแบรนด์ก็จะกลายเป็นหนึ่งในผู้จุดประกายเทรนด์ใหม่ๆ สำหรับวงการแฟชั่นอย่างที่ Prada เคยทำนั่นเอง

Text: Nawajit Ua-apinansakul

Photo: Launchmetrics

Latest Posts

Don't Miss