ในวันที่แฟชั่นหมุนเร็ว เทรนด์เปลี่ยนไว และเสื้อผ้าใหม่ๆ ถูกปล่อยออกมาทุกฤดูกาล การแต่งตัวให้ ‘เรียบ’ อาจฟังดูเหมือนการหลบอยู่เงียบๆ ข้างเวที แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนที่แต่งตัวด้วยเสื้อยืดขาวธรรมดา กางเกงยีนส์ทรงตรง รองเท้าแตะ หรือกระเป๋าผ้าสีเรียบ กลับโดดเด่นท่ามกลางทะเลแห่งความพยายามที่จะ ดูแฟเสียยิ่งกว่าคนที่ใส่ชุดจัดเต็มเสียอีก นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของรสนิยม แต่คือการเคลื่อนไหวทางแฟชั่นที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Normcore แนวคิดที่ว่าความธรรมดาอาจคือความพิเศษที่สุด


Normcore เริ่มต้นในช่วงต้นยุค 2010s ในฐานะการ ‘ต่อต้านแฟชั่น’ (anti-fashion) ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นและผู้รักแฟชั่นบางส่วนเริ่มเบื่อหน่ายกับลุคที่โอเวอร์เกินเหตุ พวกเขาจึงหันมาแต่งตัวเหมือนคนธรรมดาด้วยไอเท็มง่ายๆ อย่างเสื้อโปโลสีพื้น กางเกงยีนส์ทรงคลาสสิก หรือรองเท้าผ้าใบ แต่ใส่มันด้วยความตั้งใจเต็มร้อย ไม่ต่างจากการแสดงออกทางแฟชั่นในรูปแบบหนึ่งที่พยายาม ไม่พยายาม




แต่กว่า 10 ปีผ่านไป Normcore ได้พัฒนาไปอีกขั้น กลายเป็น Normcore 2.0 ที่ไม่ได้หมายถึงแค่การแต่งตัวธรรมดาเท่านั้น แต่รวมถึงวิธีคิดแบบ less is more ที่ลึกซึ้งกว่าเดิม เสื้อยืดที่ดูเหมือนธรรมดาอาจใช้ผ้า Supima หรือ Organic cotton คุณภาพสูงเย็บด้วยเทคนิคพิเศษ กางเกงยีนส์ที่ดูเรียบอาจเป็นผ้าดิบที่ฟอกด้วยมือ รองเท้าแตะอาจออกแบบอย่างมีระบบการซัพพอร์ตสรีระ กระเป๋าผ้าใบเก่าอาจกลายเป็นแคนวาสที่บอกเล่าเรื่องราวส่วนตัว




ความเท่ของ Normcore 2.0 คือ การตัดเสียงรบกวน จากแฟชั่นโลกภายนอก แล้วหันมาแต่งตัวให้ตอบ ‘อินเนอร์’ ของตัวเองมากกว่าตอบสนองสายตาคนอื่น มันไม่ใช่การขาดความพยายาม แต่คือการพยายามในแบบที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ความพอดี ความสบาย และความมั่นใจ ในยุคที่ทุกคนแข่งขันกันแต่งตัวให้โดดเด่นในโลกโซเชียล มีหญิงสาวบางคนเลือกที่จะไม่แข่งเลย และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้โดดเด่นกว่าใคร เพราะความกล้าที่จะ ‘น้อย’ ในโลกที่ทุกอย่าง ‘มาก’ คือแฟชั่นของคนที่เข้าใจความเป็นตัวเองอย่างลึกซึ้ง




Normcore 2.0 ไม่ได้แค่เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่มันเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องความสวยงาม เราเริ่มถามตัวเองว่า จำเป็นไหมที่ต้องอัปเดตเทรนด์ทุกฤดูกาล? เสื้อผ้าที่ใส่แล้วรู้สึกดีแต่ไม่มีแบรนด์โลโก้ใหญ่คือของไร้ค่าหรือเปล่า? แล้วแฟชั่นคือการโชว์ หรือจริงๆ แล้วคือการอยู่กับตัวเองในแบบที่เราโอเค? คำตอบเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ ความธรรมดากลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยทางแฟชั่นของใครหลายคน เเละเเอลก็เชื่อว่าในความธรรมดานั้น มักจะซ่อนความพิเศษเอาไว้อย่างแยบยลเสมอ เพราะท้ายที่สุดแล้ว แฟชั่นที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่ลุคที่เสียงดังที่สุดแต่คือสิ่งที่สะท้อนความมั่นใจเงียบๆ จากข้างในเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ และรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติที่สุดของคุณ นั่นแหละคือแฟชั่น ที่แท้จริง