บนพื้นที่ใจกลางกรุงปารีสไม่ไกลจากประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) คุณจะได้ทำความรู้จักกับ Maison ELLE บูติกโฮเต็ลแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ และหากถามว่าโรงแรมแห่งนี้มีจุดเด่นที่ตรงไหน คงต้องย้อนกลับไปที่ชื่อของโรงแรมที่แปลเป็นไทยได้ว่า ‘บ้านของแอล’ เรียกว่าชื่อนี้สามารถบอกเล่าตัวตนได้อย่างดีเยี่ยม ดีไซน์และการตกแต่งเปี่ยมด้วยเสน่ห์และมนตร์ขลังของศิลปะการใช้ชีวิตในแบบชาวฝรั่งเศสที่สอดแทรกดีเอ็นเอของแอลไว้อย่างแยบยล


Home Away
ขอต้อนรับเข้าสู่ Maison ELLE บูติกโฮเต็ลแห่งแรก ที่เปิดตัวภายใต้บริษัทสื่อในประเทศฝรั่งเศสและเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของการเฉลิมฉลองความรุ่งโรจน์ของนิตยสารแอลในประเทศฝรั่งเศสที่มีประวัติยาวนานกว่า 77 ปี ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่คอนเซ็ปต์ของโรงแรมจะนำเอาดีเอ็นเอของแอลมาตีความในหลากหลายแง่มุมกับการดีไซน์ที่ผสมผสานการใช้ชีวิตอย่างมีระดับในแบบฉบับของฝรั่งเศสเข้ากับความอบอุ่นเหมือนบ้าน ด้วยการเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้างที่คัดสรรมาแล้วอย่างดี
หากใครยังคิดไม่ออกเราอยากให้คุณลองจินตนาการถึงการปูพื้นด้วยไม้ปาร์เกต์แบบก้างปลาที่ดูทันสมัยแต่ทว่าก็แฝงความอบอุ่น สถาปัตยกรรมภายในที่ดูมีชีวิตและเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแอลโดยเฉพาะ ไล่เรียงไปตั้งแต่โคมไฟโซฟากำมะหยี่สุดหรูที่ตั้งอยู่กลางห้องคอยเชื้อเชิญแขกเหรื่อที่ผ่านไปมาให้แวะเวียนมานั่งพัก บาร์เครื่องดื่มที่เลือกใช้วัสดุเคลือบลาวาเงาวาว ดีไซน์ซุ้มโค้งประตูสุดเนี้ยบ เรื่อยยาวไปจนถึงภาพกราฟิกที่ถูกนำมาใช้เป็นจิตรกรรมฝาผนัง และบรรยากาศที่อบอุ่นสบายเหมือนอยู่บ้าน ที่เล่าผ่านห้องสมุดที่เปิดรอต้อนรับแขกในโรงแรมให้มานั่งพักผ่อนหย่อนใจอ่านหนังสือเล่มโปรดข้างเตาผิงไม้แกะสลัก

French Art de Vivre
สำหรับการออกแบบทั้งหมดสร้างสรรค์โดย Laurent Bardet และ Laurent Jean ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Laurent & Laurent โดย Laurent Bardet อธิบายถึงไอเดียในการดีไซน์ว่า เขาต้องการจะถ่ายทอดกลิ่นอายของการใช้ชีวิตแบบชาวฝรั่งเศสเอาไว้ในโรงแรมแห่งนี้ ที่เชื่อว่าจะทำให้แขกที่เข้าพักรู้สึกได้ว่าพวกเขากำลังก้าวเข้าสู่โลกของแอลแบบเต็มตัว ในส่วนของไฮไลต์ที่สามารถอธิบายถึงสิ่งที่เขาว่ามาได้เป็นอย่างดีคงต้องยกให้ส่วนของห้องนอนที่เขาตั้งใจใส่ดีเทลทั้งในแง่ดีไซน์และมู้ดของการใช้ชีวิตในแบบชาวปารีเซียงลงไป โดยเล่าผ่านวัสดุต่างๆ ของเฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นผ้าลายทาง ผ้าทวีด ผ้ากาเบอร์ดีน ผ้าเดนิม ที่นำมาผสมผสานเพื่อเติมความสนุกให้ห้องพักทั้งหมด 25 ห้อง
ในขณะที่ห้องน้ำก็ได้รับการดีไซน์ให้แยกออกจากห้องนอนอย่างชัดเจน ด้วยการเลือกใช้ประตูหน้าต่างไม้ในสไตล์เวิร์กช็อป ผสานเข้ากับผนังกระเบื้องโมเสกเพื่อให้ได้ความรู้สึกของลายผ้า เพื่อบอกเป็นนัยๆ ถึงการเชื่อมโยงระหว่างการออกแบบและแฟชั่น ในขณะที่ชิ้นงานกราฟิกและภาพตกแต่งภายในโรงแรม เขาหยิบเอาผลงานของ Peter Knapp ช่างภาพและผู้กำกับศิลป์ชื่อดังของแอลในลุค ’60s-’70s มาเป็นแรงบันดาลใจตั้งแต่ห้องพักไปจนถึงเลานจ์ภายในโรงแรม ที่นับเป็นอีกหนึ่งจุดที่ถ่ายทอดความเป็นแอลออกมาได้อย่างดีเยี่ยม




In to the Details
เพื่อให้แน่ใจว่าแขกที่เข้าพักจะได้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้ชีวิตในแบบของแอลได้อย่างเต็มรูปแบบ อีกหนึ่งไฮไลต์คือสปาถ้ำเกลือที่ซ่อนตัวอยู่บริเวณชั้นใต้ดินของโรงแรมพร้อมด้วยสปาลิสต์ที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Dr. Hauschka นอกจากสปาแล้วยังมีคอนเซ็ปต์สโตร์ที่จัดแสดงชิ้นงานไลฟ์สไตล์อย่างการจัดแสดงชุดกิโมโน หมวก และถ้วยชามที่ออกแบบมาเพื่อ Maison ELLE โดยเฉพาะ ซึ่งจะมีผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาเรื่อยๆ
นอกจากนี้ยังมีบาร์เครื่องดื่มที่จัดเต็มด้วยซิกเนเจอร์ค็อกเทลและหลากหลายเมนูเครื่องดื่มที่น่าลอง สุดท้ายที่ไม่ควรพลาดคือการแวะชิมของหวานที่ดูแลโดยเชฟชื่อดัง Nicolas Paciello เจ้าของร้าน CinqSens เราแนะนำให้ลองเค้กช็อกโกแลตนมเฮเซลนัท พิสตาชิโอเค้กวานิลลาที่พร้อมละลายในปาก เรียกว่าบูติกโฮเต็ลแห่งนี้สามารถถ่ายทอดการใช้ชีวิตอย่างมีระดับในแบบฉบับฝรั่งเศสและในแบบของแอลออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม



Do You Know
Maison ELLE เตรียมขยายไปอีกหลายเมืองในฝรั่งเศสและตามหัวเมืองใหญ่ทั่วโลกเร็วๆ นี้ ห้องสมุดที่จงใจออกแบบมอบความรู้สึกอบอุ่น โดดเด่นด้วยมุมเตาผิงไม้กรุด้านบนด้วยกระจกสุดหรูจากแบรนด์ Laurent & Laurent เข้ากันได้ดีกับเฟรมรูปจาก ELLE Magazine ที่จงใจวางเด่นไว้กลางห้องเพื่อแสดงถึงตัวตนแบบชัดเจน เสริมด้วยเบาะนั่งลายปักจาก La Redoute Intérieurs ดูอบอุ่นหรูหราและเข้ากันอย่างที่สุด โดยในห้องนี้ยังสามารถใช้เป็นห้องน้ำชาได้ด้วย และสิ่งที่พลาดไม่ได้คือของหวานเลิศรสจากร้าน CinqSens รังสรรค์โดย Nicolas Paciello หนึ่งในเชฟชื่อดังของฝรั่งเศส


Photographer: Jérôme Galland
Stylist: Laurence Dougier
Author: Soline Delos
Translator: Chatlina Cheyjunya