เชื่อว่าหลายคนอาจจะรู้จัก BIBI จากผลงานเพลง The Weekend ที่ศิลปินสาวชาวไทยอย่าง MILLI ไปร่วมงานด้วย หรืออาจจะเคยเห็นเทรนด์การเต้นโคฟเวอร์เพลง Vengeance บนแอพพลิเคชั่น Tiktok รวมไปถึงการแสดงสุดไวรัลของเธอที่งาน Waterbomb หรือแม้แต่การจูบกับแฟนคลับผู้หญิงระหว่างการแสดงคอนเสิร์ต! แต่เราอาจจะยังไม่เคยทราบว่าความจริงแล้วเธอคือศิลปินที่กล้าแหวกขนบสังคมเกาหลีด้วยการแต่งเพลงที่เป็นตัวของตัวเองเพื่อชวนทุกคนให้ก้าวข้ามผ่านอคติต่างๆ ของสังคมได้อย่างกล้าหาญอีกด้วย
เดิมทีชื่อจริงของเธอคือ ‘คิมฮยองซอ‘ แต่เธอเลือกที่จะใช้ชื่อในวงการว่า Nakedbibi หรือเรียกสั้นๆ ว่า BIBI ซึ่งไม่ได้มีความหมายถึงการเปลือยแต่อย่างใด แต่มันมาจากการเล่นคำของคำว่า Baby ดังนั้นเธอจึงเลือกใช้ชื่อว่า Naked Baby ที่หมายถึงเด็กแรกเกิดที่ตัวเปลือยเปล่าและใสซื่อบริสุทธิ์อันสื่อไปถึงผลงานเพลงของเธอที่มีความตรงไปตรงมาและเป็นความในใจที่เธออยากจะสื่อสารให้โลกได้รับรู้
ย้อนไปในวัยเด็ก ตัวตนของคิมฮยองซอไม่ใช่เด็กที่พูดเก่ง เธอจึงไม่ค่อยมีเพื่อน และไม่รู้วิธีสื่อสารออกไปด้วยคำพูด แต่ในหัวของเธอมีความคิดมากมายที่อยากจะเล่าออกมา ดังนั้นเมื่อเธออายุ 15 ปี เธอจึงขอให้ที่บ้านช่วยซื้อไมค์และคอมพิวเตอร์ให้เพราะเธอคิดว่าหากสื่อสารออกมาด้วยคำพูดไม่ได้ เธอก็จะสื่อสารผ่านบทเพลงและร้องมันออกมา นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงของเธอนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เธอทำเพลงมาเรื่อยๆ และลองอัปโหลดบน Soundcloud เพื่อให้คนเข้าไปฟัง จนเสียงของเธอไปเข้าหูโปรดิวเซอร์ชื่อดังอย่าง ยุนมีแร เธอจึงเซ็นสัญญาเป็นศิลปินแร็พเปอร์ในนาม BIBI ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาเธอก็ได้ร่วม featuring กับศิลปิน K-POP มากมาย อาทิ HYO ในเพลง Second, Heechul และ Min Kyung Hoon ในเพลง Hanryang, ขึ้นเวทีในงาน MAMA กับ Hyolyn นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเพลงฮิตอย่าง More & More ของ Twice อีกด้วย นี่จึงสามารถพิสูจน์ได้ว่าเธอคือศิลปินที่มีพรสวรรค์ด้านการแต่งเพลงอย่างแท้จริง
เธอต้องการเป็นศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานเพลงในเชิงที่ไม่ค่อยมีใครกล้าพูดถึงหรือเป็น ‘เรื่องต้องห้าม’ ที่สังคมห้ามไม่ให้ศิลปินเกาหลีทำ ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ เรื่องเพศ การใช้คำสบถ การคบหาใครสักคน เพราะเธอรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติที่สามารถทำได้ตราบใดที่เราบรรลุนิติภาวะและมีวุฒิภาวะมากพอจนสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่การทำร้ายคนอื่นๆ ดังนั้นเธอจึงสื่อสารเรื่องราวเหล่านี้ออกมาผ่านบทเพลง อย่างเช่นเพลง She Got It (Cigarette & Condom) ที่พูดถึงเรื่องบุหรี่และเซ็กซ์แบบสดใสและสนุกสนาน, เพลง BINU ที่ชวนมาอาบน้ำด้วยสบู่เพื่อลบล้างสิ่งแย่ๆ ที่เกิดขึ้นจากการที่คนแปลกหน้ามาตัดสินโดยที่ไม่รู้จักตัวตนของเรา หรือเพลง Vengeance ที่มีคำสบถอย่างตรงไปตรงมา
นอกจากนี้เธอยังเขียนบทเพลงที่มีเนื้อหาเล่าถึงเรื่องชีวิต อาทิ การรักตัวเอง จังหวะชีวิตที่ขึ้นๆ ลงๆ สุขภาพจิตบอบช้ำ อาการซึมเศร้า ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้แฟนคลับประทับใจในตัวตนของเธอเป็นอย่างมาก เพราะเธอกล้าเขียนเนื้อเพลงอันสะท้อนให้เห็นตัวตนและยังเป็นเรื่องราวที่ผู้คนอาจจะยังไม่กล้านำเสนอในสื่อเกาหลีมาก่อน
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องหลงรักเธอ ก็คือจุดเล็กๆ ใต้ตา 2 จุด เธอทำแบบนี้เพื่อระลึกถึงคุณปู่ที่เธอรัก เพราะก่อนที่เขาจะจากไปด้วยโรคผิวหนัง เขามีจุดเล็กๆ ที่ใต้ตาสองจุด เธอจึงเติมจุดบนหน้าเพื่อระลึกถึงคุณปู่มาโดยตลอด และมีครั้งหนึ่งที่เธอเคยขึ้นโชว์แบบไม่มีจุดบนหน้า โชว์นั้นก็มีปัญหาติดๆ ขัดๆ ดังนั้นเธอจึงเชื่อว่าการเติมจุดใต้ตาเช่นนี้จะเป็นเครื่องรางนำโชคและมันจะทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น
มากไปกว่านั้นแล้วจุดเล็กๆ นี้ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เธอสามารถทำการแสดงในตัวตนของ BIBI ได้เป็นอย่างดี เพราะเดิมทีตัวตนของคิมฮยองซอมีความเขินอายและไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองนัก แต่ตัวตนของ BIBI จะมีเสน่ห์ เซ็กซี่ และมั่นใจ ดังนั้นจุดเล็กๆ 2 จุดนี้จึงเป็นทั้งกำลังใจที่สำคัญ รวมไปถึงเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้คนจดจำเธอได้ด้วยนั่นเอง
ด้วยความสามารถในการทำเพลง ความกล้าที่จะแหวกขนบในแบบที่ไม่ค่อยมีใครกล้าทำ ประกอบกับน้ำเสียงที่โดดเด่นจึงทำให้เธอมีโอกาสร่วมงานกับค่ายเพลงในอเมริกาที่ผลักดันศิลปินเอเชียให้ไประดับโลกอย่าง 88Rising ซึ่งในสังกัดนี้ก็มีศิลปินชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Jackson Wang, Rina Sawayama, Chung Ha, NIKI, Joji ฉะนั้นจุดนี้เองที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักฐานะศิลปินสาวชาวเกาหลีที่มีความสามารถในระดับสากล และแน่นอนว่าตัวตนของเธอก็ย่อมทำให้เธอเป็นที่รักของแฟนๆ ด้วยเช่นเดียวกัน
Source: 1