มหกรรมที่จะเป็นไฮไลต์เด่นที่สุดประจำปีนี้คงหนีไม่พ้นงานสุดยิ่งใหญ่อย่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก Paris 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 26 กรกฎาคม – 11 สิงหาคม 2024 โดยในขณะนี้พวกเขากำลังจัดเตรียมการแข่งขันให้เป็นไปอย่างดีที่สุดในกรุงปารีส แต่สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนี้ก็คืองานสัปดาห์โอตกูตูร์และงานปารีสแฟชั่นวีก ซึ่งเมื่อทั้งสองงานใหญ่นี้เลือกที่จะจัดเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบในหลายแง่มุม แอลจึงอยากจะชวนคุณออกไปสำรวจกันว่าเมื่อสองงานนี้เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

Date Changes
โดยปกติแล้วโชว์ของโอตกูตูร์จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมหรือต้นเดือนสิงหาคม แต่สำหร้บปีนี้ทางผู้จัดงาน The Federation de la Haute Couture et de la Mode พวกเขาขยับวันเวลาให้มาไวยิ่งขึ้นให้เป็นวันที่ 24-27 มิถุนายน 2024 เพื่อหลีกเหลี่ยงช่วงเวลาที่จะซ้อนทับกับงานโอลิมปิก เพื่อให้งานทุกอย่างจัดขึ้นได้อย่างราบรื่นและไม่มีปัญหาเรื่องการต้องใช้สถานที่หรือทรัพยากรต่างๆ ในกรุงปารีส

Logistic Issues
ปัญหาต่อมาที่จะเกิดขึ้นคือเรื่องทรัพยากรที่ต้องแบ่งกันใช้ เพราะการจัดแฟชั่นโชว์ครั้งหนึ่งจะต้องมีการปิดถนนบางส่วน มีการจองโรงแรม มีการเดินทางไปร่วมงานในสถานที่จัดงาน ตลอดจนมีการใช้สถานที่สำคัญต่างๆ ที่สวยงามในกรุงปารีสเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด แต่เมื่อมีงานโอลิมปิกเกิดขึ้น แน่นอนว่าพวกเขาก็จะใช้สถานที่ต่างๆ เหล่านั้นสำหรับงานกีฬาโอลิมปิกเป็นหลัก ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือแบรนด์ต่างๆ ก็จะหาที่จัดงานยาก มีการขนส่งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ยากลำบากทั้งจากการปิดถนนหรือรถติด ราคาโรงแรมแพงมากขึ้น ไม่มีที่พักเพราะคนจองโรงแรมเต็มแล้ว หรือแม้แต่การรักษาความปลอดภัยในเมืองที่จะเข้มงวดมากขึ้นเพราะมีคนอยู่มากจากงานสำคัญที่เกิดขึ้นพร้อมกันหลายงาน


แต่ในขณะเดียวกัน ในปัญหาข้อนี้ก็อาจจะมีข้อดีอยู่ด้วย นั่นก็คือในแต่ละงานอาจจะมี Shuttle Bus รับส่งทั่วเมืองเพื่อให้คนสัญจรไปมาอย่างสะดวกที่สุด ฉะนั้นแล้วคนที่จะไปร่วมงานแฟชั่นวีกก็อาจจะสบายใจในปัญหาข้อนี้ได้เช่นกัน

Media and Public Attention
โอลิมปิกถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่น่าจับตามองของคนทั้งโลก ฉะนั้นแล้วก็อาจเป็นไปได้ว่าเมื่อช่วงสัปดาห์ปารีสแฟชั่นวีกก็อาจจะเป็นอีเวนต์รองลงไป คนก็จะให้ความสนใจกับการแข่งขันหรือเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในโอลิมปิกมากกว่างานแฟชั่น ดังนั้นหลายๆ แบรนด์คงต้องทำการบ้านหนักขึ้นเพื่อให้งานได้รับความสนใจมากที่สุด

Challenge For Small Brands
จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นจะกลายเป็นผลกระทบที่สร้างความสั่นสะเทือนให้กับแบรนด์เล็กๆ เป็นอย่างมาก พวกเขาอาจรับมือกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นไม่ไหว ทั้งค่าขนของ ค่าสถานที่จัดงาน ค่าโรงแรมสำหรับแขก ทีมงาน รวมทั้งนางแบบมากมาย ในขณะเดียวกันพวกเขาก็อาจจะสร้างสปอตไลต์ให้กับแบรนด์ตัวเองได้ยากลำบากเมื่อมีสปอตไลต์ใหญ่ส่องฉายไปยังงานโอลิมปิก ดังนั้นในซีซั่นหน้านี้ก็จะมีแฟชั่นบางแบรนด์เปลี่ยนไปจัดงานแบบ Presentation แทน หรืออาจจะย้ายงานไปจัดแสดงที่มิลานแทน

ฉะนั้นแล้วทางโอลิมปิกและวงการแฟชั่นอาจจะต้องร่วมมือกันในบางแง่มุมเพื่อให้งานทั้งสองฝ่ายออกมาออกมาราบรื่นและให้เกิดปัญหาน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งเราก็ต้องมารอติดตามกันว่าทั้งสองงานใหญ่นี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในช่วงเดือนสิงหาคมที่กำลังจะมาถึงนี้
Source: 1
Photo: imaxtree