Saturday, January 25, 2025

‘แจน ใบบุญ’ จากนางแบบสาวที่เคยถูกบูลลี่ สู่ความสำเร็จบนถนนสายแฟชั่นระดับโลก

บัดนี้หญิงสาวสูงโปร่งหน้าเก๋อย่าง แจน-ใบบุญ อรุณปรีชาชัย กลายเป็นซูเปอร์โมเดลคิวทองในระดับอินเตอร์ไปเป็นที่เรียบร้อย แต่กว่าจะถึงวันนี้เบื้องหลังความสำเร็จไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย เธอสร้างขุมพลังจากอะไร เราและคุณก็อยากรู้!

Jan Baiboon with Balmain / imaxtree

ELLE: เรายังจำภาพคุณในหลายปีก่อนที่ยังถือหนังสือหลักสูตรเร่งรัดวิชาภาษาอังกฤษอยู่เลย จนวันนี้กลายเป็นนางแบบระดับอินเตอร์ไปแล้ว ช่วยเล่าให้ฟังถึงอุปสรรคต่างๆ ให้เราฟังได้ไหมคะ

“ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3 ก่อน แจนเริ่มเดินทางไปทำงานที่ประเทศอังกฤษ นั่นถือเป็นการไปเพื่อทำงานในยุโรประยะยาว ตอนนั้นแจนยังใช้ภาษาอังกฤษได้ไม่คล่องนัก แต่พอได้เริ่มทำงาน พูดคุยกับคนมากขึ้น ภาษาก็เริ่มดีขึ้น สื่อสารเข้าใจมากขึ้น แต่อุปสรรคไม่ได้มีแค่นั้น การแคสติ้งที่นั่นคือหินมาก การแข่งขันสูง แจนเคยร้องไห้ตรงริมถนนที่มิลาน ไปลองชุดแล้วไม่ได้เดินโชว์ ด้วยความที่ยังไม่เข้าใจว่าระบบการแคสติ้งเป็นอย่างไร ไม่รู้ว่าทำไมเขาไม่เลือกเรา เราไม่ดีตรงไหน เกิดคำถามมากมายผุดขึ้นในหัวจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ หลังจากนั้นก็ตั้งสติจนได้คำตอบว่าไม่ใช่ว่าเราไม่ดี แต่แค่เรายังไม่ตรงคอนเซ็ปต์ของเขา พอซีซั่นถัดมาก็ได้มีโอกาสไปลองอีกครั้งจนได้เดินโชว์สมใจ พอเข้าใจกระบวนการต่างๆ ทำให้แจนมองเห็นอีกมุมว่าในโชว์หนึ่งมีนางแบบให้เลือกมากมาย เราจะทำอย่างไรให้ดูโดดเด่น ให้เขาหันมามองเรา แจนเริ่มจากสร้างบทสนทนา ลองประโยคง่ายๆ อย่าง ‘ฉันมาจากประเทศไทยนะ’

“ส่วนการเปลี่ยนสีผมเป็นสี copper ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเช่นกัน Riccardo Tisci เป็นคนให้ไอเดียเปลี่ยนสีผมนี้กับแจนตอนโชว์ Burberry แน่นอนว่าแฟชั่นคือการเกิดสิ่งใหม่ ผมสีส้มคอปเปอร์ก็แปลกใหม่สำหรับแจนเหมือนกัน จากนั้นแจนก็ได้งานต่างๆ ที่ฝันไว้ตามมา เช่น แคมเปญของ Vivienne Westwood หรือได้เดินโชว์ของ Chanel ซึ่งตอนที่เอเจนซี่แจ้งว่าได้เดินแจนร้องไห้ริมถนนเลย แต่เป็นการร้องเพราะดีใจ หลังจบโชว์ก็ยิ้มทั้งวัน มีความสุขมากๆ”

ELLE: หลายคนพูดว่าโอกาสบางครั้งก็มาพร้อมโชคช่วยคุณมีความคิดเห็นว่าอย่างไร? และถ้าไม่เป็นเช่นนั้น อะไรคือ key of success ของตัวเอง?

“แจนเป็นคนหนึ่งที่ได้รับโอกาสดีๆ มาตลอด ทุกครั้งที่ได้รับโอกาสแจนจะพุ่งเข้าหาทันทีเพราะเป็นคนชอบท้าทายอะไรใหม่ๆ การถ่ายแบบแต่ละครั้งคอนเซ็ปต์งานจะแตกต่างกันออกไป มันเลยทำให้แจนตื่นเต้นและอยากทำงานต่อไป ถึงบางครั้งจะท้อแต่ก็สู้กับความรู้สึกตัวเองจนผ่านมาได้ ทำให้แข็งแกร่งขึ้นและประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ ทุกอย่างมาจากความอดทนในการทำงาน แน่นอนว่างานนางแบบไม่ง่ายอย่างที่ใครบางคนคิด แต่ความลำบากนั้น แจนใช้ความอดทนฝ่าฟันผ่านมาได้ ถือว่าความอดทนเป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จก็ว่าได้”

ELLE: จากสมัยเด็กที่เป็นผู้หญิงตัวสูง แถมมีรูปลักษณ์ที่ต่างไปจากคนอื่น คุณรู้ตัวมาตั้งแต่แรกหรือเปล่าว่าฉันเป็นผู้หญิงหน้าเก๋ หุ่นดีคุณมีทัศนคติอย่างไรกับตัวเองบ้าง?

“จากเด็กที่โตมากับการโดนบูลลี่ด้วยคำพูดเล่นๆ จากเพื่อนว่าสูงเหมือนยีราฟ ผอมเป็นไม้เสียบผี เลยทำให้แจนไม่เคยคิดเลยว่า ‘ฉันเป็นผู้หญิงหน้าเก๋ หุ่นดี’ ไม่เคยคิดว่าตัวเองสวยเลยด้วยซ้ำ เพราะในยุคนั้นความสวยต้องตามพิมพ์นิยมอย่างที่ทุกคนทราบกัน แต่พอได้มาทำงานในวงการแฟชั่นก็เริ่มได้รับคำชมว่าสูงโปร่ง หน้าเก๋มาก หุ่นดีมาก จนเริ่มมองเห็นอีกมุมหนึ่งว่าเราก็มีดีเหมือนกัน เริ่มมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ต้องขอบคุณอาชีพนางแบบที่ทำให้แจนไม่เป็นคนเขินอายอีกต่อไป ถึงแม้จะมีความอายเล็กๆ น้อยๆ  แต่พอไปถึงหน้างานจริงแจนก็งัดความมั่นใจออกมาได้และส่งผลให้งานแต่ละงานออกมายอดเยี่ยม”

ELLE: ช่วยเล่าถึงการทำงานในตอนนี้ให้กับผู้อ่านแอลทราบทีค่ะ ว่าตอนนี้เบสที่ใด อยู่เอเจนซี่ไหน และคุณมีส่วนในการตัดสินใจรับงานนางแบบแต่ละงานอย่างไร?

“ตอนนี้แจนเบสอยู่ที่ลอนดอนค่ะ มีเอเจนซี่ตามหัวเมืองต่างๆ ถ้าของที่ลอนดอนชื่อ Wilhelmina London เป็นตัวแม่ของเอเจนซี่เลย ส่วนปารีสกับนิวยอร์กชื่อ Supreme Management โดยทุกครั้งที่มีการรับงานเอเจนซี่จะถามว่าแจนโอเคหรือไม่กับงานนี้ กับลูกค้ากลุ่มนี้ ให้เรามีการตัดสินใจร่วมด้วย และจะให้คำแนะนำว่าทีมนั้นทีมนี้น่าร่วมงานด้วยหรือไม่ ซึ่งเป็นการแคร์ว่าเราแฮปปี้กันงานงานนั้นหรือไม่ แจนคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะนางแบบไม่ใช่แค่ไม้แขวนเสื้อ นางแบบมีตัวตน มีความรู้สึก ฉะนั้นการถามตัวนางแบบก่อนรับงานว่าพร้อมสำหรับการทำงานนั้นหรือไม่จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง”

Jan Baiboon with Giambattista Valli / imaxtree

ELLE: เราได้เห็นคุณปรากฏตัวในแคมเปญของแบรนด์ระดับโลกมากมายและเซตแฟชั่นของหนังสือหัวนอกเต็มไปหมด เคยได้รับฟีดแบ็กไหมคะว่าทำไมเขาถึงเลือกเรา คุณมีสูตรสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพของตัวเองอย่างไร ในขณะที่นางแบบเป็นอาชีพที่มีช่วงอายุไม่นานเมื่อเทียบกับอาชีพอื่น?

“เป็นคำถามที่แจนย้อนถามตัวเองตลอดเวลา มีการบุ๊กกิ้งงาน ‘ทำไมเขาเลือกเรา?’ คงเป็นเพราะไม่ได้มองว่าตัวเองสวย เลยมีคำถามนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเวลาที่ได้รับงาน แจนเคยแอบถามว่าทำไมถึงเป็นแจน เขาตอบว่า ‘ก็เธอสวย จบนะ ต้องเป็นเธอเท่านั้นถึงจะใส่ชุดนี้รอด’ 

“สูตรสำเร็จของแจนไม่ตายตัว มันจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา อย่างแฟชั่นวีกในแต่ละซีซั่นแจนตั้งเป้าหมายไว้เลยว่าอยากเดินแบรนด์อะไร วงปากกาไว้เลยค่ะ แล้วก็สำเร็จจริงๆ ถึงจะไม่ได้ครบตามที่ตั้งเป้าไว้แต่มักจะมีโชว์อื่นบุ๊กเราเข้ามาจนทำให้เราได้เดินหลายโชว์แบบไม่ทันตั้งตัว เดินจนปวดขาไปเลย (หัวเราะ) แต่พอผ่านมาหลายซีซั่นก็ทำให้แจนเห็นว่าช่วงอายุของนางแบบก็สำคัญ แต่ละในช่วงอายุก็สามารถทำงานได้ค่ะ”

Jan Baiboon with Van Herpen / imaxtree

ELLE: บางคนมองว่านางแบบก็แค่การทำงานที่ขายรูปร่างหน้าตา หรือบางคนก็อาจ sexual harassment หรือทรีตเราไม่ดี ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง คุณต้องการบอกอะไรกับพวกเขาบ้าง?

“โดยส่วนตัวแจนไม่เคยได้รับประสบการณ์ไม่ดี จะพยายามป้องกันตัวเองตลอด ไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง เวลาถ่ายแบบก็จะเจอทีมงานมืออาชีพ เขาจะมีการถามก่อนว่าสามารถโป๊ได้ระดับไหน ตัวนางแบบโอเคไหม ซึ่งส่วนนี้จะมีการโน้ตไว้กับทางเอเจนซี่ของตัวนางแบบแต่ละคนอยู่แล้วว่าเราไม่รับงานชุดว่ายน้ำนะ หรือบางคนก็ไม่รับงานถ่ายนู้ด พอถึงหน้างานจริงทีมงานจะเตรียมห้องให้เราเปลี่ยนชุดเป็นสัดเป็นส่วน ยิ่งช่วงโควิดมาก็จะแยกห้องแต่งตัวกันเป็นรายบุคคลไปเลย แล้วเวลาช่างภาพมาบอกให้เราขยับท่าโพส ถ้ามีการแตะเนื้อต้องตัวเขาจะบอก ‘ขอโทษทีนะ’ แล้วจับขาเราให้อยู่ในจุดที่ต้องการ หรือจะถามว่า ‘ถ้าคุณไม่ว่าอะไรช่วยขยับท่าโพสได้ไหม?’ สมัยนี้โซเชียลมีเดียรวดเร็วมาก คงไม่มีใครกล้าทำอะไรไม่ดี สรุปว่าแจนไม่สามารถบังคับความคิดคนอื่นได้ แต่แค่เรารู้จักวิธีป้องกันตัวเองไม่ไปอยู่ที่ที่สุ่มเสี่ยงและรู้จักปฏิเสธ แจนว่าเท่านี้ก็โอเคแล้วค่ะ”

Jan Baiboon with Chanel / imaxtree

ELLE: คุณอยากบอกอะไรกับเพื่อนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยากประสบความสำเร็จในสายนางแบบบ้าง?

“สิ่งสำคัญที่สุดคือเป็นตัวของตัวเอง ตั้งเป้าหมายว่าฉันมาทำอะไร ต้องการอะไร พอโอกาสมาแล้วต้องคว้าไว้ เราพยายามได้แต่อย่าพยายามจนสูญเสียความเป็นตัวเอง ชีวิตของแต่ละคนมีเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ใช้วิธีการเรียนรู้และสนุกไปกับสิ่งที่ทำในทุกๆ วัน แจนว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข”

Jan Baiboon with Halpern / imaxtree

Latest Posts

Don't Miss