เมื่อคุณได้ทำสิ่งที่ชอบและเป็นตัวเอง พลังภายในตัวคุณก็จะส่องประกายออกมา ทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนรอบข้างได้มากมาย เช่นเดียวกับ นพ.ทอม กำภู ณ อยุธยา หรือ คุณหมอทอม แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง (Board Certified Dermatologist) ผู้ก่อตั้งและแพทย์ประจำ Dr.Tom Kambhu Clinic หมอทอมที่ไม่ได้เพียงแต่ดูแลผิวคนไข้เพื่อความงาม แต่ยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาควบคู่กันไป ด้วยเทคนิคการใช้ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือแบบผสมผสาน ทว่าความโดดเด่นและแตกต่างนี้เอง ที่ทำให้คุณหมอทอมได้รับรางวัล Rising Star ในงาน International Symposium ที่จัดขึ้นโดย Dexlevo Inc. จากประเทศเกาหลี และ บริษัท อีเด็นคัลเลอร์ (ประเทศไทย) และถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ เราอยากบอกว่าคุณหมอทอมคือแพทย์ที่ควบคุมดูแลทุกเคสด้วยตัวเอง เพื่อให้คนไข้เกิดความพึงพอใจและคุ้มค่าที่สุด ฉะนั้นถ้าใครกำลังคิดที่จะเข้าไปปรึกษาคุณหมอ บทสนทนาด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างไม่ลังเล

ELLE: ช่วยเล่าถึงความเป็นมาของคุณหมอทอม และจุดเริ่มต้นที่เป็นแรงบันดาลใจในการก่อตั้ง Dr.Tom Kambhu Clinic
“ผมเรียนจบโรงเรียนแพทย์มาครับ เรียนเฉพาะมาทาง 4 ปี เส้นทางแพทย์เลยอาจต่างจากคุณหมอความงานท่านอื่นๆ เป็นแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง (Board Certified Dermatologist) การเรียนด้านนี้จะมีตั้งแต่ความรู้เรื่องการรักษาโรค และความงาม หัตถการต่างๆ หลังจากจบมาก็มาใช้ทุนที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งจะดูแลเกี่ยวกับการรักษาโรคเป็นหลัก อีกพาร์ทหนึ่งก็ทำงานตามโรงพยาบาลเอกชน ที่มีเรื่องความงามเข้ามาด้วย ผมจะอยู่ตรงกลางระหว่างการรักษาและการดูแลความงาม ซึ่งก็จะรู้ทั้งซ้ายและขวาเท่าๆ กัน ทีนี้ตอนทำงานเราต้องยอมรับว่า การเปิดคลินิกนั้นช่วยให้คนไข้เข้าถึงการรักษาที่รวดเร็ว สะดวกสบาย และไม่ต้องรอคิวนาน ก็รู้สึกว่าเป็นช่องทางที่จะเอาความรู้ของตัวเองมาต่อยอดให้กว้างออกไปมากขึ้น และจะได้ดูแลคนไข้เยอะๆ แบบที่เข้าถึงการรักษาได้ในมาตรฐานเดียวกันครับ เลยมาเปิดเป็น Dr.Tom Kambhu Clinic ที่ผมดูแลเองทุกเคส”
ELLE: ปรัชญาหรือแนวคิดการให้บริการของ Dr.Tom Kambhu Clinic คืออะไร
“ความตรงไปตรงมาครับ ถ้ามีความจำเป็นต้องทำอะไรก็แนะนำสิ่งนั้น ถ้าอะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่แนะนำ ผมจะคุยแบบเปิดเผยและจริงใจ ผมพยายามอธิบายคุณไข้เองทุกเคส ถึงเหตุผลที่เราให้บริการแบบนี้เพราะอะไร และอะไรที่ทำให้ไม่ได้ เพราะอะไร จริงๆ ต้องบอกว่าเป็นข้อดีของการที่ผมเปิดคลินิกเอง ทำให้เราดูแลคนไข้ได้ตามต้องการ ใช้โปรดักส์อะไรดี ใช้เครื่องมืออะไรดี ก็สามารถเลือกสิ่งนั้นมาไว้ที่คลินิกตัวเอง เพื่อให้คนไข้เข้าถึงการดูแลที่ดีที่สุดครับ”


ELLE: ในแง่ของเทรนด์ความงาม เมื่อก่อนและปัจจุบัน คุณหมอทอมได้เห็นความต้องการของผู้รับบริการที่เปลี่ยนไปอย่างไรไหมคะ
“ต้องบอกว่าเทรนด์มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถ้าสมัยก่อนเราจะเห็นแค่กลุ่มเครื่องยกกระชับ ทำเลเซอร์ ปรับเท็กซ์เจอร์ผิว พอหลังๆ เปลี่ยนไปเป็นการเติมเต็มส่วนที่ขาดก็จะเป็นฟิลเลอร์ที่เด่นขึ้นมา แต่เนื่องจากมีหลายหัตถการที่ทำไปแล้วเกินงาม คนไข้เลยกลับมาหาความเป็นธรรมชาติมากขึ้น สวยแบบไม่ได้ดูแน่นจนเกินไป หรือเป็นความสวยที่ยังคงความเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด”
ELLE: คุณหมอคิดว่า อะไรคือจุดเด่นของ Dr.Tom Kambhu Clinic ที่ทำให้คนไข้ตัดสินใจเดินเข้ามารับบริการคะ
“คิดว่าน่าจะเพราะผมเป็นแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง ที่พยายามทำทุกอย่างตามความจำเป็น ถ้าคุณภาพผิวมีปัญหาก็แก้ที่ผิวชั้นบน ไม่ว่าจะใช้กลุ่มที่เป็นเครื่อง หรือยาฉีด ซึ่งแต่ละกลุ่มก็จะมีข้อดีและให้ผลลัพธ์กับคนไข้ในแต่ละเคสที่แตกต่างกันไป ซึ่งตรงนี้ผมจะอธิบายอย่างชัดเจน เพื่อให้คนไข้ได้ตัดสินใจเองอย่างมีทางเลือก หรือถ้าใบหน้ามีส่วนที่ขาด จำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์ก็จะใช้ แต่ด้วยความที่ผมมีครบทุกหัตถการ เครื่องมือครอบคลุมทุกปัญหา และโปรดักส์ได้มาตรฐานนำเข้าจากบริษัทตัวแทนประเทศไทยโดยตรง การเข้าถึงการรักษาจึงจะเน้นแก้ปัญหาได้อย่างตอบโจทย์ที่สุดครับ เรียกว่ามาที่เดียวก็สามารถแก้ปัญหาได้ครบทุกอย่างเลย”

ELLE: ได้ข่าวว่าคุณหมอทอม คือ 1 ในแพทย์ที่ได้รับเกียรติให้พูดแชร์ความรู้และประสบการณ์จริงในการใช้ Fully Liquid PCL ฟื้นฟูผิวให้กับคนไขที่มีปัญหา Skin Aging ต่อหน้าแพทย์กว่า 200 ท่าน ในงาน International Symposium และได้รับรางวัล Rising Star ของงานนี้ด้วย คุณหมอรู้สึกอย่างไรบ้างคะ
“งานนี้เป็นงานที่ทางบริษัท อีเด็นคัลเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ เครื่องสำอาง และยา ร่วมกับ Dexlevo Inc. จากประเทศเกาหลี ที่เป็นผู้ผลิต Fully Liquid PCL ได้เชิญแพทย์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศกว่า 200 ท่าน มาแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ และประสบการณ์การใช้ตัว Fully Liquid PCL ว่าให้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร มีเทคนิคการฉีดแบบไหน ต้องใช้ด้วยวิธีไหน ซึ่งผมก็ต้องขอบคุณ อีเด็นคัลเลอร์ ที่ให้โอกาสผมได้แชร์ความรู้และประสบการณ์ในวันนั้น คือ ต้องบอกว่าผมได้เป็นคนที่ใช้ Fully Liquid PCL คนแรกๆ ซึ่งตอนนั้นเทรนด์ Biostimulator ยังไม่เข้ามาในไทยเลย โปรดักส์แรกก็เลยเป็น Fully Liquid PCL ตอนที่ได้ใช้ ผมรู้สึกว่าตัวนี้เป็นโปรดักส์ที่ให้ความเป็นธรรมชาติกับคนไข้ ในเรื่องการปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้น และมีความปลอดภัย เพราะตัวยาเป็นน้ำ สามารถใช้ได้โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงกับคนไข้ ซึ่งตอนไปงานก็ได้แชร์ประสบการณ์การใช้โปรดักส์ตัวนี้ และได้โชว์เคสของตัวเองว่าผลลัพธ์หลังการใช้เป็นอย่างไร รวมถึงได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณหมอท่านอื่นๆ ที่มีประสบการณ์การใช้ Fully Liquid PCL ก็ได้ความรู้และเทคนิคต่างๆ กลับมา และในส่วนของการได้รับรางวัล Rising Star ในวันนั้นก็เหมือนมาเติมเต็ม ให้ผมมีกำลังใจและแรงขับเคลื่อนในการทำงานเยอะขึ้น ก็ดีใจมากครับ”

ELLE: ซิกเนเจอร์ของทรีต์เมนต์ที่เป็นที่นิยมของทาง Dr.Tom Kambhu Clinic คืออะไร และคุณหมอได้เพิ่มเติมประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้เข้ารับบริการอย่างไรบ้างคะ
“เวลารักษาคนไข้ ผมจะใช้หลายหัตถการผสมกัน คือ เป็นการผสมผสานกันเพื่อแก้ปัญหาให้คนไข้อย่างตอบโจทย์ที่สุด มากกว่าการเลือกเพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนมากเกินไป ยกตัวอย่าง 2 โปรดักส์ ที่สามารถใช้ควบคู่กันด้วยดี คือ ไหมโครงตาข่าย 3D กับ Fully Liquid PCL อย่างการร้อยไหมโครงตาข่าย ข้อดีก็คือช่วยแก้ไขความหย่อนคล้อยของโครงหน้า ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของการร้อยไหมเลย และยังช่วยให้คุณภาพผิวดีขึ้น ที่สำคัญอยู่ได้นานถึง 1 ปี และในส่วน Fully Liquid PCL ก็สามารถใช้ควบคู่กัน เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวดูสดชื่นขึ้น ดูใสขึ้น และริ้วรอยก็ดูดีขึ้นด้วยพร้อมกัน”
ELLE: การทำให้คลินิกเป็นที่ไว้วางใจของผู้รับบริการ นอกจากขั้นตอนและวิธีการดูแลคนไข้แล้ว คุณหมอคิดว่าควรมีอะไรอีกไหมคะ
“ด้วยมุมมอง และสไตล์ในการดูแลคนไข้ แต่ละคลินิกจะแตกต่างกันไป ของ Dr.Tom Kambhu Clinic ผมจะคุยกันตั้งแต่การดูแลผิวขั้นพื้นฐานเลย ล้างหน้าอย่างไร ดูผิวอย่างไร ทาครีมอะไรบ้าง ใช้อะไรเยอะไปหรือเปล่า ผมคุยตั้งแต่การดูแลตัวเองที่บ้าน การทำหัตถการ และการดูแลผิวหลังรับบริการ อาจมีการปรับโปรดักส์ที่ใช้ของคนไข้ ร่วมไปกับการรักษาของเรา ก็ทำให้คนไข้ค่อนข้างไว้ใจว่าเราไม่ทิ้งเคส คุณหมอดูแลเอง และดูแลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเหตุผลให้คนไข้แนะนำกันต่อๆ หรือเลือกที่จะมารับบริการกับเราครับ”

ELLE: อยากให้คุณหมอทอมแนะนำหน่อยค่ะ ว่าอะไรคือข้อสังเกตคะว่าเราควรเข้าคลินิกแล้ว และคลินิกที่เราเข้าควรเลือกอย่างไร
“ถ้าเราเริ่มรู้สึกมั่นใจน้อยลง หรือรู้สึกว่าตัวเองเริ่มดูอายุเยอะขึ้น ผิวมีการเปลี่ยนแปลงไป แห้งมากขึ้น มีริ้วรอยเยอะขึ้น ก็เป็นสัญญาณในการบ่งบอกว่าถ้าเราอยากดูดีขึ้น การใช้หัตถการต่างๆ ในคลินิกก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้ ส่วนการสังเกตคลินิกที่รับบริการ ผมว่าหลักๆ คือ 1.เราควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีใบจดทะเบียนอย่างถูกต้อง 2.แพทย์ที่คลินิกที่เป็นแพทย์จริงๆ สามารถตรวจสอบได้ มีความรู้เฉพาะทางและประสบการณ์ในการดูแลผู้เข้ารับบริการ 3.เครื่องมือที่ใช้ในคลินิก โปรดักส์ที่ถูกต้องได้รับการรับรอง และสั่งซื้อโปรดักส์โดยตรงจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายในไทย นี่คือ 3 ข้อหลักๆ ที่จะทำให้เรามั่นใจขึ้นในเรื่องความปลอดภัยครับ”
ELLE: สุดท้ายแล้ว ในฐานะแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง คุณหมอทอมมีอะไรอย่างบอกสาวแอลไหมคะ ว่า Do and Don’t ในการดูแลผิวของสาวๆ ยุคนี้ควรดูแลใส่ใจที่อะไร
“Do ข้อที่ควรทำเลย คือ การทาครีมกันแดดและรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวครับ ถ้าวันไหนต้องโดนแดด สำคัญสุดเราต้องทากันแดด แต่ถ้าไม่โดนแดดและคิดว่าอยู่ในที่ร่มมากๆ ก็อย่าลืมทามอยเจอร์ไรเซอร์ ทำอย่างไรก็ได้ให้ผิวเราชุ่มชื้น ส่วน Don’t จริงๆ ข้อนี้ตอบยากครับ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกเลย คือ การดูแลทำความสะอาดผิวที่มากเกินไป ก็ทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น ล้างหน้ามากเกินไป ผิวก็จะแห้งมากขึ้น หรือการลองโปรดักส์ใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ ใช้หลายๆ ตัว ตลอดจนการใช้เครื่องสำอางที่มากเกินไป พอรวมๆ กันมาก็จะก่อโทษกับผิวมากกว่าครับ”
