ถ้าหากคุณติดตามมิลานแฟชั่นวีกในช่วงที่ผ่านมา คุณอาจจะสังเกตเห็นชื่อ KUN หนุ่มหล่อผมทองหน้าตาเอเชียคนหนึ่งที่มีกล้องจับจ้องเขาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งชาวไทยอาจไม่คุ้นหน้าของเขาเท่าใดนักหากไม่ได้ติดตามวงการบันเทิงหรือไอดอลฝั่งจีน ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากจะชวนคุณมาทำความรู้จักกับหนุ่มสุดฮอตจากแดนมังกรคนนี้ให้มากขึ้นว่าเขาเป็นใคร และเพราะเหตุใดเขาจึงกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลในโลกแฟชั่นจนได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของ Prada ในปัจจุบัน



ช่ายสวีคุน (Cai Xukun) มีชื่อในวงการว่า KUN ซึ่งแฟนๆ มักจะเรียกเขาว่า ‘คุนคุน’ เขาคือไอดอล นักร้อง แร็พเปอร์วัยย่าง 25 ปีที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในประเทศจีน ก่อนหน้านี้เขาเกือบจะได้เป็นสมาชิกวงบอยแบนด์ชื่อดังอย่าง TFBOYS แต่พ่อแม่ของเขาคิดว่าเขาควรให้ความสำคัญกับการศึกษาอย่างเต็มที่ก่อน อีกทั้งยังเด็กเกินไปสำหรับวงการบันเทิง จึงให้เขาเรียนในจีนและไปต่อมัธยมปลายที่สหรัฐอเมริกา และเมื่อเรียนจบเขาก็กลับมาที่จีนอีกครั้งเพื่อทำงานในวงการบันเทิง สลับกับไปออกรายการค้นหาไอดอลที่เกาหลีเป็นระยะเวลาหนึ่ง ท้ายที่สุดเขาก็กลับมาที่จีนอีกครั้ง และเดบิวต์เป็นสมาชิกในวงบอยแบนด์ที่มีชื่อว่า SWIN ซึ่งในขณะนั้นฐานแฟนคลับที่คอยสนับสนุนเขาก็มีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

ความเป็นดาวรุ่งที่อยู่ในตัวของเขาไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น เพราะในปี 2018 ช่ายสวีคุนเข้าร่วมรายการแข่งขันค้นหาเด็กฝึกเพื่อเดบิวต์เป็นไอดอลอีกครั้งในรายการ Idol Producer ซีซั่นแรก เขาเปิดตัวในการแสดงคัดเกรดเด็กฝึกได้อย่างน่าจดจำในเพลงที่เขาแต่งเองอย่าง I Wanna Get Love ซึ่งการแสดงในครั้งนั้นถือว่าเป็นสเตจของการจัดอันดับเด็กฝึกที่เรียกได้ว่าไอคอนิกและยากที่จะโค่นล้มมากที่สุดเลยก็ว่าได้
ช่ายสวีคุนได้รับเสียงโหวตอย่างถล่มทลายและคว้าอันดับหนึ่งในการโหวตแทบจะทุกสัปดาห์ ฐานแฟนคลับของเขาเองก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในระหว่างที่เขาอยู่ในรายการ จนในสัปดาห์สุดท้ายของการประกาศสมาชิกที่จะได้เดบิวต์ เขาก็สามารถคว้าอันดับหนึ่งมาครอบครองด้วยคะแนนโหวตถึง 47,640,887 คะแนน พร้อมกับได้ตำแหน่ง Leader และ Center ของวง Nine Percent หลังจากนั้นเขาก็ทำกิจกรรมร่วมกันกับสมาชิกคนอื่นๆ เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อนที่วงจะหมดสัญญาลง

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะมาแข่งรายการนี้ เขาเคยยื่นฟ้องยกเลิกสัญญากับค่ายเก่าที่เคยดูแลเขาในฐานะสมาชิกวง SWIN เมื่อปี 2017 เพราะค่ายดูแลสมาชิกทุกคนไม่ค่อยดีนัก ในขณะเดียวกันทางค่ายก็เรียกร้องค่าเสียหายจากนักร้องหนุ่ม โดยอ้างว่าพวกเขาควรจะได้ส่วนแบ่งจากการทำงานของช่ายสวีคุน เพราะเขายังอยู่ในสังกัดเดิมอยู่ แต่คนจะดังก็ไม่มีอะไรฉุดเขาลงได้ เพราะนอกจากเขาจะเดบิวต์ในวงบอยแบนด์ที่มีกระแสมากที่สุดในปีนั้น ปัญหาที่แสนยืดเยื้อนี้ก็จบลงในปี 2019 เนื่องจากศาลตัดสินให้เขาชนะและเป็นอิสระ ภายหลังเขาก็เปิดสตูดิโอของตัวเองอย่างเป็นทางการได้ในที่สุด

อาจกล่าวได้ว่ารายการ Idol Producer ถือเป็นตัวแปรสำคัญในการแจ้งเกิดในวงการบันเทิงของเขาอย่างเป็นทางการ แต่ความสำเร็จนั้นก็เกิดขึ้นได้ด้วยความสามารถของเขาที่ครบเครื่องทั้งเรื่องหน้าตา การร้องเพลง การเต้น การสื่อสารด้วยภาษาต่างประเทศ ตลอดจนประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอดระยะเวลาหลายปีที่เขาโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง ทั้งหมดนี้ทำให้เขาเป็นดวงดาวที่โดดเด่นและน่าจับตามองมากเป็นอันดับต้นๆ ในวงการบันเทิงจีน
เขามีชื่อเสียงจนสามารถคว้ารางวัลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกโซเชียลมีเดียจีนเมื่อปี 2019 ส่วนในปัจจุบันเขามีผู้ติดตามบน Weibo สูงถึง 38.5 ล้านคน ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาเขาร่วมถ่ายทำรายการยอดนิยมหลายต่อหลายรายการในประเทศจีน ทั้งยังกลับมาเป็นเมนเทอร์โปรดิวเซอร์ในรายการ Youth With You ที่เป็นรายการต่อจาก Idol Producer ร่วมกันกับลิซ่า Blackpink, Ella Chen และ Jony J
นอกจากนี้เขายังทัวร์คอนเสิร์ตที่ต่างประเทศในโซนอเมริกาเหนือและสหราชอาณาจักรด้วยเช่นเดียวกัน และไม่ว่าเขาจะออกเพลงหรือซิงเกิ้ลอะไรก็ตาม มันก็จะกลายเป็นเพลงฮิตติดลมบนแทบจะทุกชาร์ตในจีน สิ่งเหล่านี้จึงการันตีได้ว่าเขาคือซูเปอร์สตาร์อย่างแท้จริง

ส่วนเรื่องอิทธิพลในวงการแฟชั่นนั้นเกิดจากการที่เขาเป็นที่รู้จักจากสไตล์เฉพาะตัวที่มีเอกลักษณ์ เพราะเขาจะผสมผสานเสื้อผ้าแนวสตรีตเข้ากับชิ้นงานของดีไซเนอร์ระดับไฮเอนด์เพื่อสร้างลุคที่โดดเด่น รสนิยมในด้านแฟชั่นเช่นนี้ทำให้เขาติดอันดับเซเลบริตี้ที่แต่งกายยอดเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆ ของจีนมาโดยตลอด เขากลายเป็น Trendsetter ที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ และนั่นก็นำพาเขามาสู่การร่วมงานกับแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย อาทิ L’Oreal Paris,Tag Heuer, FILA, Levi’s รวมไปถึงการร่วมงานกับ Prada ในฐานะ Spokesperson ชาวจีนคนแรก, แอมบาสซาเดอร์ รวมทั้งเป็นเฟซในแคมเปญอีกด้วย
สไตล์การแต่งตัวและความเห็นหลายๆ อย่างของเขาเกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่นนั้นมีอิทธิพลอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่นชาวจีน ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้หลายๆ แบรนด์เชื่อว่าเขามีศักยภาพพอที่จะเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ที่สามารถประชาสัมพันธ์และสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ได้ดี

ในช่วงงาน Met Gala 2023 Karl Lagerfeld: A Line of Beauty ที่ผ่านมา ตัวเขาก็ยังได้ไปเข้าร่วมงานนี้เพื่อทรีบิวต์ให้กับ Karl Lagerfeld โดยเขามาในชุดสั่งตัดพิเศษจาก Prada กับเสื้อโค้ตสีดำที่ประดับด้วยคริสตัลระยิบระยับ และไม่ลืมที่จะคอมพลีตลุคเพื่อระลึกถึงคาร์ลด้วยการถือพัดนั่นเอง!

กิจกรรมและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่นต่างๆ ที่ผ่านมาย่อมทำให้เขาเป็นแฟชั่นไอคอนของเหล่าวัยรุ่นจีนได้ไม่ยาก และอาจเป็นไปได้ว่าในอนาคตข้างหน้าเราก็จะได้เห็นหน้าค่าตาหนุ่มคนนี้ในวงการแฟชั่นบ่อยครั้งอย่างแน่นอน เพราะกระแสความนิยมของเขาน่าจะมาแรงและเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ดังนั้นใครที่สนใจติดตามผลงานของหนุ่มคนนี้ก็สามารถติดตามที่อินสตาแกรม caixukun หรือ Weibo ในชื่อ 蔡徐坤 ได้เลย
Cover Photo Courtesy: Cai Xukun’s Studio Weibo