Monday, February 10, 2025

ทำความรู้จักคอลเล็กชั่น Blue Tab™ จาก Levi’s ผ่านบทสัมภาษณ์กับดีไซน์ไดเรกเตอร์ Paul O‘Neill

กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น คือจุดหมายการเดินทางของแอลในครั้งนี้เพื่อที่จะไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน Levi’s Denim Lifestyle Authority ที่เปิดตัว Blue Tab™ คอลเล็กชั่นพรีเมียมจาก Levi’s แบรนด์เดนิมระดับตำนานจากอเมริกาเป็นครั้งแรก โดยซีรีส์ Blue Tab™ ได้สืบทอดความคลาสสิก ผสมผสานกับศิลปะแห่งผ้าเดนิมของญี่ปุ่นที่โดดเด่นและประณีต นำเสนอสไตล์ของแฟชั่นสมัยใหม่ที่เป็นมาสเตอร์พีซชิ้นใหม่ของแบรนด์ โดยแอลได้มีโอกาสพูดคุยกับ Paul O‘Neill ดีไซน์ไดเรกเตอร์ของ Levi’s ผู้อยู่เบื้องหลังคอลเล็กชั่น Blue Tab™ ถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบคอลเล็กชั่นสุดพิเศษนี้

ELLE : ช่วยแนะนำคอลเล็กชั่น Blue Tab™ ให้ชาว ELLE ที่ยังไม่เคยรู้จัก ได้รู้จักหน่อย

Paul O’Neill : Blue Tab เป็นคอลเล็กชั่นพรีเมียมของ Levi’s ที่เรามุ่งเน้นไปที่ดีเอ็นเอของ Levi’s แต่เราสร้างความทันสมัยผ่านรูปทรงต่างๆ ของเสื้อผ้า เราสร้างการตัดเย็บที่สวยงามพร้อมรายละเอียดที่คิดมาอย่างดี และให้ความสำคัญกับผ้าญี่ปุ่นที่มีคุณภาพและงานฝีมือที่ประณีต ดังนั้นเราจึงใช้เดนิมญี่ปุ่นทั้งหมดและผลิตคอลเล็กชั่นส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่เชี่ยวชาญในการทำการฟอกผ้าและเทคนิคการผลิตต่างๆ

ELLE : แรงบันดาลใจของคอลเล็กชั่นนี้คืออะไร?

Paul : แรงบันดาลใจของ Blue Tab™ นี้มาจากการมองจากเสื้อผ้าอเมริกันคลาสสิก เช่น แจ็กเกตตัวนี้ที่ได้แรงบันดาลใจจากแจ็กเกตพาร์กาทหาร (เขาหยิบเสื้อแจ็กเกตออกมาจากราวโชว์ให้เราดู) ซึ่งมันมีรายละเอียดที่คลาสสิกทั้งหมด และแน่นอนว่าเราทำมันด้วยเดนิมที่สวยงามและทันสมัยอย่างมาก มันมีความพลิ้วเป็นส่วนผสมที่งดงาม ทำให้มันเปลี่ยนจากสิ่งที่เคยเป็นกลายมาเป็นสิ่งที่รู้สึกสดใหม่และทันสมัยมากขึ้นสำหรับคอลเล็กชั่นนี้ ตัวอย่างอีกอันหนึ่งคือตัวนี้ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากแจ็กเกตลูกเสือในช่วง ’50s แต่เราเปลี่ยนผ้าใหม่ เรายกระดับรายละเอียดต่างๆ และเราใช้เดนิมซาวาจที่สวยงาม และเรามักจะใช้เดนิมซาวาจสีขาวที่งดงาม ดังนั้นนี่คือมุมมองว่าเราตีความอเมริกายังไง

สำหรับเสื้อผ้าผู้หญิง เราพยายามนำรูปทรงใหม่ๆ มาเพิ่มความตื่นเต้นและความทันสมัยมากขึ้น ตัวอย่างเช่น แจ็กเกตตัวนี้ที่สังเกตเห็นดีเอ็นเอของ Levi’s ซึ่งอิงจากแจ็กเกตคลาสสิกของ Levi’s แต่เราเอาผ้ารอบเอวออกไป และเราเพิ่มการตกแต่งที่สวยงามที่ด้านหลังเพื่อสร้างรูปทรงแบบโคคูน ทำให้มันมีความพองที่น่าสนใจ นี่คือลักษณะการผสมผสานระหว่างอดีตและอนาคต สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเรามีแนวทางในการออกแบบอย่างไร เราต้องการให้รู้สึกเหมือนผลิตภัณฑ์ของ Levi’s แต่เราอยากจะพามันไปสู่จุดที่รู้สึกทันสมัย ล้ำสมัย สง่างาม และแสดงถึงเทรนด์พร้อมกับผ้าที่สวยงามอีก

ELLE : คุณนำงานฝีมือญี่ปุ่นมาใช้ร่วมกับจิตวิญญาณของอเมริกันอย่างไร

Paul : จริงๆ แล้วผมคิดว่าความชำนาญงานฝีมือของคนญี่ปุ่นมาจากการทำงานกับผู้ผลิตที่ยอดเยี่ยมที่เราทำงานร่วมกันในญี่ปุ่น ญี่ปุ่นมีความรู้ที่ดีมากในการสร้างผ้าเดนิมที่น่าสนใจ พวกเขาเคยพยายามเลียนแบบผ้าอเมริกันมานานและตอนนี้ผมคิดว่าพวกเขาทำได้ดีที่สุดในโลก ดังนั้นสำหรับผม การทำงานกับโรงงานผ้าในญี่ปุ่น เราจึงใช้เวลามากในการทำงานร่วมกันเพื่อหาสูตรและวิธีการที่ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่สำคัญมาก แล้วงานฝีมือที่โรงงานผลิตออกมาเราก็ใช้รายละเอียดที่ไม่เหมือนใคร ในการผลิตสินค้านี้ เราต้องขายในวงของคนญี่ปุ่นด้วย บางส่วนของงานฝีมือที่นี่เป็นแบบดั้งเดิมและ Levi’s มีการเย็บด้วยเข็มคู่ที่เย็บแบบนี้ และต้องมีการใส่รูปเพชรตรงกลางเพราะเครื่องจักร ย้อนกลับไปในสมัยก่อนที่เครื่องจักรยังไม่ได้ถูกประดิษฐ์ เราต้องเย็บสองครั้งแยกกันเพื่อสร้างการเย็บที่แม่นยำแบบนี้ ดังนั้นเพื่อเป็นการสดุดีถึงสิ่งนั้น เราจึงใช้แนวทางการฝีมือเป็นหนึ่งในการทำงาน และตอนนี้เรากำลังใช้การเย็บสองครั้งเพื่อเพิ่มองค์ประกอบนี้เข้าไปในประวัติศาสตร์ของเราและกระบวนการมากขึ้น ดังนั้นเราจึงพยายามทำสิ่งเหล่านี้ เรานำรายละเอียดเล็กๆ น่ารักเหล่านี้มาให้ เมื่อคุณเริ่มสวมใส่ผลิตภัณฑ์ คุณจะเริ่มพบสิ่งใหม่ๆ มากขึ้น

ELLE : ในความคิดเห็นของคุณอะไรคือเสน่ห์ของของเสื้อผ้าวินเทจ

Paul : มันคือความไม่คงเส้นคงวาที่เราสามารถเห็นได้จากของวินเทจ ลองคิดดูว่าถ้าตอนนี้เราอยากทำอะไรออกมาสมบูรณ์แบบ แน่นอนเราก็สามารถทำได้ เพราะว่าเทคโนโลยีเครื่องจักรที่ทันสมัยในตอนนี้ เราสามารถสร้างอะไรก็ได้ที่ออกมาสมบูรณ์แบบ แต่เวลาผมได้มองดูของวินเทจ เหมือนกับที่ผมได้ดูแจ็กเกตอยู่ตอนนี้ (เขาได้ชี้มาที่แจ็กเกตของผู้เขียนที่สวมอยู่ในวันที่เราได้คุยกัน) ผมเห็นทันทีว่ามันเป็นแจ็กเกตวินเทจที่สวยมาก เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ยากสำหรับคนทั่วไปที่จะทำออกมาให้เหมือนได้ มันน่าจะถูกผลิตในช่วงต้น ’70s ซึ่งตอนนั้นเครื่องจักรแตกต่างจากตอนนี้ ถ้าคุณลองดูสินค้าของ Levi’s ในตอนนี้ คุณลองดูที่รอยเย็บ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญกับการทำผลงานของผมเช่นเดียวกัน ถ้าเราดูมันไปด้วยกัน สินค้าของ Levi’s ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมีรอยเย็บที่หนากว่า แล้วตัวผ้าก็สะอาดกว่า ไม่เหมือนกับงานวินเทจ ผมก็เลยระบุได้ว่าชิ้นไหนเป็นของวินเทจจากระยะไกล แล้วนี่ก็คือสิ่งที่ผมรักในของวินเทจในความพิเศษและเสน่ห์ของมัน เพราะว่าความเก่าแก่แบบดั้งเดิม ไม่ได้มีความละเอียดอ่อนในการผลิต มีวิธีการที่ไม่เรียบร้อยมากกว่า นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมของวินเทจจะต้องพยายามทำให้ดูไม่ละเอียด สำหรับผมก็เลยไม่เลือกที่จะใช้เครื่องจักรที่ดีที่สุดในการผลิต ผมตั้งใจที่จะทำให้มันไม่สมบูรณ์แบบ ผมพยายามที่จะเลียนแบบความไม่สมบูรณ์แบบของงานวินเทจ การร่วมงานกับโรงงานผลิตผ้าที่ทอด้ายอย่างไม่สมบูรณ์แบบ เพราะเราไม่ได้อยากได้ด้ายที่เป็นเส้นตรงจนเกินไป พอทอมาเป็นผ้าแล้วมันจะไม่สะอาดสุดๆ แต่จะมีความไม่เรียบผสมด้วย เพื่อจะทำให้คล้ายกับของวินเทจ

ELLE : ตอนนี้เราเห็นแล้วว่าการเอาของวินเทจมาทำให้ในปัจจุบันเป็นอย่างไร คุณมีแรงบันดาลใจหรือเกณฑ์ในการเลือกอย่างไร

Paul : ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราจะอยากทำออกมาให้สำเร็จ เราชอบการที่ได้มองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ของ Levi’s แต่เราไม่ได้ต้องการให้มันเหมือนกันของในไลน์วินเทจ เรากำลังเดินไปข้างหน้าด้วยผ้าในแบบที่ผมอยากได้ที่คล้ายกับผ้าวินเทจที่สวยมากๆ ตอนที่พวกเราออกแบบคอลเล็กชั่นนี้เราตั้งใจใส่ดีเอ็นเอของ Levi’s ในใจของเรา แต่ขณะเดียวกันก็อยากได้ความทันสมัย เราอยากเห็นความเชื่อมโยงของคนที่ใส่เสื้อผ้าของเราบนท้องถนน ที่ได้รู้สึกถึงความรู้สึกใหม่ๆ แบบที่เรากำลังใส่อยู่ในตอนนี้ ตอนผมเริ่มทำงานให้ Levi’s ทุกคนอยากจะใส่กางเกงยีนส์ทรงกระบอกเล็ก แต่ตอนนี้ผมอยากใส่กางเกงยีนส์คาร์โก้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องดูอย่างละเอียดมากๆ ว่าอะไรกำลังอยู่ในเทรนด์ เราอยากให้ทุกอย่างดูทันสมัย เราอยากเอาส่วนประกอบที่ดีจากของวินเทจมาใส่ในคอลเล็กชั่นแต่ก็อยากให้ทันสมัย เราได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้แต่เราก็ใช้ Levi’s เป็นจุดเริ่มต้น

ELLE : นิยามงานออกแบบของ Levi’s ในมุมมองของคุณ 3 คำ

Paul : ผมต้องบอกว่า Innovation, Cultural และ Icon ผมเชื่อว่า Levi’s สร้างแบรนด์จากนวัตกรรม โดยการสร้างคำตอบของปัญหา Levi’s เป็นส่วนร่วมในจุดศูนย์กลางของวัฒนธรรมในประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ แล้วเราเองก็ผลิตสินค้าที่เป็นไอคอนที่หลากหลายแบรนด์อยากจะทำตาม        

Latest Posts

Don't Miss