หลังจากค่ำคืนแห่งความสำเร็จของสาวงาม ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ กับการคว้ามงกุฎและสายสะพาย Miss Universe Thailand 2023 ได้จบลงไปแล้วอย่างสวยงามในค่ำคืนที่ผ่านมา ซึ่งเธอสร้างความประทับใจให้กับแฟนนางงามอย่างล้นหลามทั้งด้วยความสวยสง่าและความเฉลียวฉลาดในการตอบคำถามอีกด้วย ดังนั้นเราอยากจะพาคุณมาย้อนฟังคำตอบคว้ามงของเธอกันอีกครั้ง พร้อมกับชวนคิดว่าเพราะเหตุใดคำตอบของเธอถึงคว้าใจของแฟนนางงามและเหล่ากรรมการได้อย่างไม่มีข้อกังขา
จากคำถามในรอบ 3 คนสุดท้ายที่ว่าถ้าหากคุณได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สในค่ำคืนนี้ ปัญหาใดที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างแร่งด่วนที่สุด และคุณจะใช้กระบอกเสียงของคุณมาร่วมแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร เธอเลือกตัดสินใจตอบปัญหาเรื่องความยากจนในสังคม ดังนี้
“หนึ่งในปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ มันอาจจะดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับคุณ แต่มันคือการส่งต่อบางสิ่งบางอย่างกลับคืนสู่สังคม มันไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไรเลยที่จะยื่นมือช่วยเหลือให้กับคนลำบาก ให้เขาได้มีชายคาพึ่งพิงและมีอาหารบนโต๊ะ ดังนั้นในฐานะที่ฉันเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ฉันจะส่งเสริมให้ทุกคนเป็นผู้ให้ในช่วงเวลาใดก็ได้ถ้าหากคุณสามารถทำได้ และฉันจะใช้โซเชียลมีเดียของฉันเป็นกระบอกเสียงในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหานี้ แล้วก็จะใช้มันสร้างความเคลื่อนไหว รวมทั้งใช้เสียงของเราในการสื่อสารมันออกไปด้วยว่าปัญหานี้คืออะไร”
จากคำตอบของเธอน่าจะทำให้ผู้คนตระหนักรู้มากขึ้นได้ว่าปัญหาความยากจนไม่เคยหมดไปจากสังคม หลายๆ คนยังต้องดิ้นรนกับการใช้ชีวิตเพื่อให้อยู่รอด ดังนั้นการเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ถือเป็นเรื่องสำคัญและการหยิบยื่นมือช่วยเหลือคนลำบากเป็นเรื่องที่ควรทำ ถ้าหากเราไม่เดือดร้อนจนเกินไป นอกจากนี้คำตอบนี้ก็ยังสะท้อนให้เห็นว่าตัวแอนโทเนียเองมีทั้งความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) และเห็นอกเห็นใจ (Sympathy) ต่อผู้อื่นเป็นอย่างมาก นี่จึงอาจเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญซึ่งทำให้เธอเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับเวทีนี้
ในขณะที่คำถามรอบ 5 คนสุดท้ายของเธอเองก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน เพราะจากคำถามา “‘รากฐานของชีวิตคือการศึกษา’ แล้วนอกจากการศึกษาแล้วมีอะไรเป็นรากฐานสำคัญในชีวิตบ้าง” เธอก็เลือกตอบคำถามนี้อย่างน่าสนใจว่า “มีหลายสิ่งที่ถือเป็นรากฐานสำคัญของชีวิต แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือเรื่องคุณภาพชีวิตที่ดี และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีความสุข ได้ทำสิ่งที่คุณรัก และให้บางอย่างกลับคืนสู่สังคมในยามสังคมต้องการ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรในชีวิต พยายามทำมันให้สำเร็จ และเป็นแรงผลักดันสิ่งดีๆ ให้กับผู้คนรอบตัวเรา สร้างผลกระทบเชิงบวก เป็นแสงสว่างแห่งความรุ่งโรจน์ ไม่ทำอะไรที่มีเจตนาไม่ดี และทำสิ่งดีๆ อย่างเต็มที่แบบ 100% ด้วยใจของคุณ”
คำตอบนี้ของเธอก็ทัชใจคนฟังอีกครั้ง เพราะถ้าหากคิดตามที่เธอพูด อีกหนึ่งรากฐานสำคัญของชีวิตนั้นก็คือความสุข ไม่ว่าใครๆ ต่างก็แสวงหาความสุขบางสิ่งบางอย่างให้กับตัวเองและคนรอบตัวทั้งนั้น และเธอเองก็ฉลาดตอบด้วยการใช้คำว่า เป็นแสงสว่างแห่งความรุ่งโรจน์ (Be the Light of Glory) ซึ่งคำว่า Light of Glory นั้นเป็นชื่อมงกุฎของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ประจำปีนี้อีกด้วย ยิ่งเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่าเธอเหมาะสมกับมงกุฎในปีนี้อย่างไม่ค้านสายตาแฟนนางงามจริงๆ