หากเป็นคนหนึ่งที่ติดตามหนังหรือซีรีส์เกาหลี เชื่อว่าต้องเคยผ่านสายตากับผลงานของนักแสดงเหล่านี้มา…อย่างมาก เพราะในขณะที่ตัวเมนมีผลงาน 5 ปี 1 เรื่อง แต่นักแสดงสมทบตัว 3, 4, 5 ที่เราคุ้นหน้าแต่ไม่เคยจำชื่อได้เลยนั้น อาจมีซีรีส์ให้ดู 5 เรื่องใน 1 ปี หักล้างคำพูดที่ว่า ‘เบอร์สองโลกไม่จำ’ แถมฝีมือจัดจ้านจนกลายเป็นตราประทับรับรองอยู่ในทีว่าถ้ามีพวกเขาอยู่ ซีรีส์/หนังเรื่องนี้ดีแน่ ดูเลย!
Kim Won-Hae
คิมวอนแฮ นักแสดงที่เหมือนได้ยีนของหงอคง เพราะเปิดเรื่องไหนต้องมีหน้าคุณเขาโผล่มาถี่จัด 3 ใน 5 เรื่อง ถ้าซีรีส์โปรดของคุณคือ Signal (2016) คุณคิมเขาก็เล่นเป็นตำรวจที่ปากบ่นจังเลยแต่ทำงานให้อย่างดี มาถึง Strong Girl Do Bong-soon (2017) เขาตลกคูณสองในบทเกย์รุ่นใหญ่และแก๊งสเตอร์ เป็นคุณพ่อบูมเมอร์ที่ผันตัวเป็นอินเวสเตอร์ในสตาร์ตอัปสุดล้ำของลูกชายใน Start-up (2020) เป็นคุณพ่อผู้ทุ่มเทปั้นลูกชายให้เป็นนักกีฬาใน Lovely Runner (2024) เป็นหมอหน้าเงินใน The Trauma Code: Heroes on Call (2025) ล่าสุดจะไปร่วมก๊วนบริษัทประกันกับอีดงอุกและอีกวางซูใน The Divorce Insurance ที่เตรียมฉายเดือนมีนาคมนี้


เหลือจะเชื่อว่าผลงานหนัง 43 เรื่อง และซีรีส์ 71 เรื่อง คิมวอนแฮล้วนรับบทสมทบหรือนักแสดงรับเชิญทั้งสิ้น แต่เขากลับเป็นนักแสดงที่แฟนซีรีส์/หนังเกาหลีทั่วโลกจดจำได้ และมั่นใจมากว่าเสียด้วยจะได้ชมการแสดงที่ดีเป็นแน่ ต่อให้ผลงานโดยรวมเรื่องนั้นจะน่าเบื่อ ชวนให้เลิกดูกลางคันสักแค่ไหนก็ตาม แต่ความขโมยซีนของคุณคิมนี่ละที่ทำให้เลิกดูไม่ลง เพราะ อยากรู้ว่าเขาจะไปสุดได้แค่ไหนกับบทนั้นๆ
Lee Jung-Eun
หากไม่รู้จะดูซีรีส์เรื่องไหนดี ลองจิ้มมาสักเรื่องที่มีชื่อ อีจองอึน การปรากฏตัวของเธอถูกอธิบายไว้ดีมากเมื่อครั้งไปร่วมรายการวาไรตี้โชว์ Knowing Bros. ว่า “อีจองอึนยกระดับผลงานเรื่องนั้นๆ ให้มีคุณภาพดีขึ้นไปอีก” คำยืนยันที่คนทั่วโลกได้ประจักษ์ในฉากที่แม่บ้านหน้าตาเปียกโชกโผล่มาในวิดีโออินเตอร์คอม คนดูรู้สึกไม่สบายใจเหมือนไส้บิด สังหรณ์ใจว่าเดี๋ยวได้มีหายนะเกิดขึ้นแน่นอนแค่เธอพูดว่า “ช่วยเปิดประตูให้หน่อยได้ไหมคะ” ในหนัง Parasite (2019)

เริ่มจากเป็นนักแสดงละครเวทีในปี 1991 เดบิวต์เล่นหนังในปี 2009 แต่กว่าจะได้เดบิวต์เล่นซีรีส์ก็อายุ 43 ปีเข้าไปแล้ว แต่หลังจากนั้นดูเหมือนจะไม่มีอะไรฉุดรั้งอีจองอึนได้อีก เธอเป็นนักแสดงไม่กี่คนที่ได้อยู่ในหนังมาสเตอร์พีซของบงจุนโฮถึง 3 เรื่อง จากบทเล็กมากๆ ใน Mother (2009) ที่ผู้กำกับบงออกปากว่าอยากร่วมงานกับเธออีก และมอบหมายให้เธอพากย์เสียง ‘หมู’ ใน Okja (2017) ตามมาด้วยบทแม่บ้านผู้ซุกความลับในห้องใต้ดินในหนัง Parasite โดยต้องไม่ลืมบทบาทน่าจดจำของเธอในซีรีส์ Mr. Sunshine (2017), The Light in Your Eyes (2019), Juvenile Justice (2022), Our Blues (2022) หรือ Miss Night and Day (2024)
Kim Hee-Won
คิมฮีวอน มักเป็นตัวละครที่เราเหม็นหน้า ไม่ว่าจะเป็นบทตัวร้ายที่สู้ตาต่อตา ฟันต่อฟันกับวอนบินใน The Man From Nowhere (2010) หนังที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับ John Wick หรือเป็นผู้จัดการจอมบูลลีอิมชีวานใน Misaeng (2014) ขณะเดียวกันก็สามารถเป็นโค้ชใจอารีที่ช่วยออมแทกูในบทนักมวยป่วยเป็นโรคสมองในหนัง My Punch-Drunk Boxer (2019) เป็นครูพละที่ปกป้องนักเรียนยอดมนุษย์ใน Moving (2023) และเผยตัวตนนอกจอที่เป็นมนุษย์อินโทรเวิร์ต พูดน้อย ขี้อายเหมือนเข็มหมุดในวาไรตี้โชว์แคมปิ้งสุดฮีลใจ House on Wheels ทั้ง 4 ซีซั่น


ถ้านั่นยังเผยฝีมือที่กินรวบทุกบทบาทได้ไม่พอ คิมฮีวอนยังเดบิวต์งานกำกับครั้งแรกใน Light Shop (2024) ซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของร้านโคมไฟสุดซอยที่ต้อนรับผู้มาเยือนมากด้วยปูมหลังลึกลับ ซึ่งแต่ละอีพีต่างแนวกันแต่ผูกเป็นเรื่องเดียวกันได้ หลายคนยกให้เป็นซีรีส์เกาหลีที่เศร้าซึมที่สุดที่เคยดูมา และผู้ชมอีกไม่น้อยที่ยกให้เป็นซีรีส์ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของปี 2024
Jun Suk Ho
จอนซอกโฮ มักรับบทเป็นจอมแหยที่เดี๋ยวต้องทำอะไรบ้งๆ แน่นอน แม้ค่อนข้างโดนผูกขาดกับบทเดิมๆ ไปสักหน่อย หากก็พูดได้ว่าเขารับบทจอมแหยได้ดีที่สุดในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ ทั้งในผลงานของนักเขียนบทคนดัง คิมอึนฮี Kingdom (2019, 2020) และ Jirisan (2021) หรือบท ‘สร้างสีสัน’ ใน Hyena (2020) และ Love Next Door (2024)


ทว่าคุณจอนซอกโฮโชว์มิติของคนแหยไปอีกขั้นใน Squid Game 2 ซึ่งเขารับบทเป็นลูกน้องแก๊งปล่อยเงินกู้ที่โดนจ้างให้ตามหาตัว The Recruiter (กงยู) แต่กลายเป็นฝ่ายโดนจับตัวไปเสียเอง และแน่นอนว่าเป็นฉากที่ปูให้เห็นว่า Squid Game ซีซั่นนี้ดิบเถื่อนได้มากแค่ไหน ทั้งกงยูที่แสดงได้โรคจิตสุดๆ และลูกพี่แก๊งเงินกู้ที่ดวงซวยสุดๆ ส่วนจอนซอกโฮน่ะหรือ? ก็แสดงเป็นพวกเราทั้งหลายที่ ‘แค่’ กงยูชวนเล่นเป่ายิ้งฉุบ กลับทำตัวปอดแหกจิตแตกไปได้
Kim Sun Young
คิมซอนยอง อยู่ในคาลิเบอร์เดียวกันกับคิมวอนแฮ กล่าวคือเธอทำให้การปรากฏตัวบนจอตรึงคนดูได้เสมอ (เช่น บท รมต.สาธารณสุขใน Trauma Code ที่โผล่มาแว้บๆ แต่คาริสม่าสุดๆ) นั่นทำให้เธออยู่ในซีรีส์เกาหลีเรื่องโปรดแทบทุกเรื่องที่คุณเคยดูมา ยังจำได้ไหมกับบทแม่ซอนอู (โกคยองโพ)ใน Reply 1988 แม่เลี้ยงเดี่ยวจนกรอบที่พอรู้ว่าแม่สามี(ที่ตายไปแล้ว)จะมาเยี่ยม เธอจัดการกลบเกลื่อนร่องรอยความพร่องของชีวิตด้วยการไปยืมข้าวสาร เครื่องสำอางและถ่านจากเพื่อนบ้าน เธอทำให้ฉากนี้ตลกจะตายแต่ก็น้ำตาตกใน ขณะเฝ้าดูเธอหยิบจับพร็อพในฉากอย่างคล่องแคล่วประหนึ่งว่าอยู่บ้านนั้นมาหลายปีจริงๆ


ลองดูบทบาทที่ต่างกันสุดขั้วในปีเดียวกันของเธอ เช่น ในปี 209 รับบทแม่บ้านทหารเกาหลีเหนือช่างจับโป๊ะ(ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องสามีตัวเอง)ใน Crash Landing on You เจ้าของอาร์ตแกลเลอรีสุดไฮแฟชั่นใน Her Private Life เพื่อนบ้านขี้เม้าแห่งย่านตลาดสดจาก When the Camellia Blooms หัวหน้าฝ่ายการตลาดสุดมั่นหน้ามั่นโหนกจาก Romance Is a Bonus Book แม้แต่เป็นสายลับก็ทำได้ใน Vagabond
พวกเขาคือตัวอย่างของมืออาชีพที่มีปธิธานในการทำงานว่า จะออกจอกี่วินาทีก็ช่าง แต่ทุกวินาทีต้องทำให้คนดูไม่กดเลื่อนฉากที่มีฉันอยู่ให้จงได้!
Text: Suphakdipa Poolsap