Monday, May 19, 2025

5 เหตุผลที่ยิ่งดูยิ่งตกหลุมรัก Resident Playbook  

แต่ละวีก แต่ละเดย์ที่แพทย์ประจำบ้านปี 1 ทั้งสี่กับพี่หมอใจอารีอีกหนึ่งมาเข้าเวร ผู้ชมวินิจฉัยแล้วลงความเห็นว่า แก๊งหมอมือใหม่แห่งโรงพยาบาลจงโนยุลเจ คือต้นตอของ ‘Resident Playbook’ โรคระบาดสายพันธุ์ใหม่ที่ติดแล้วป่วยงอมแงม เลิกดูได้ยาก ดีไม่ดีอาจเจอซีซั่น 2 เอาง่ายๆ

และนี่คือ 5 สาเหตุที่ยิ่งดู จะยิ่งตกหลุมรักซีรีส์การแพทย์เรื่องนี้ 

คนทำงานที่ไม่ได้เรื่อง 

น้องเล็กของคุณพ๊อ ‘ชินวอนโฮ’ และคุณแม๊ ‘อีอูจอง’ ผู้กำกับและนักเขียนบทคู่บุญที่เคยให้กำเนิดซีรีส์ตระกูล Reply 1997, Reply 1994 และ Reply 1988รวมไปถึง Hospital Playlist ซีรีส์ที่เป็นสารตั้งต้นของ Resident Playbook ซึ่งขยับไปเป็นโปรดิวเซอร์ซีรีส์น้องเล็กของบ้านชินอี ซึ่งไม่ได้เก่งเทพ ตรงกันข้ามเหล่าแพทย์ประจำบ้านปี 1 แผนกสูติ-นรีเวชแห่งโรงพยาบาลจงโนยุลเจทั้งเบ๊อะ ทึ่ม บื้อ ฉอดเก่ง ทำผิดมากกว่าทำถูก โดนด่ามากกว่าโดนชม

ต่อให้เป็นที่หนึ่งในรั้วสถานศึกษา แต่เมื่อเจอสนามการทำงานจริงก็อาจได้เกรด F แบบคิมซาบี

ขยันถาม ช่างรายงาน ตรวจซ้ำอยู่นั่น ดูเหมือนจะดี แต่เพิ่มภาระให้ทีมที่ยุ่งจะแย่แบบการกระทำของออมแจอิล

ทำทุกอย่างให้เสร็จเร็วๆ จะได้เลิกงานตรงเวลาไปหาแฟนหรือไปนัดบอด แบบโยนัมกยอง

คนแรกที่จะปฏิเสธงานงอก คนสุดท้ายที่จะอาสาทำงานเพิ่ม และคิดจะลาออกตลอดเวลาคือเธอ โออียอง 

“เป็นหมอต้องใจดี เสียสละ เห็นแก่คนไข้สิ” อาจใช้ไม่ได้กับแพทย์กลุ่มนี้ ซึ่งโดนทั้งอาจารย์หมอและคนดูถอนใจใส่ทุกอีพีว่า “ยังอีกไกล” แต่นั่นละคือจุดร่วมกับคนดู ซึ่งอาจเคยเป็นน้องใหม่ที่โดนสวดมาก่อน กำลังเป็นน้องใหม่ที่กำลังโดนสวดยับ หรือเป็นคนที่ไล่บี้น้องใหม่อยู่ “ดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัว” จึงใช้ได้กับซีรีส์เรื่องนี้

คนรุ่นใหม่ที่เริ่มทำงานพร้อมหนี้ก้อนโต

มีสักวินาทีไหมที่คุณหมอโออียองยิ้มได้ เธอทำหน้าเหมือนอยู่ใกล้กองขยะตลอดเวลา แต่เปล่าเลย เธอไม่ได้เหม็นหน้าเพื่อนร่วมงาน เกลียดหัวหน้า แต่เธอเหม็นเบื่อการทำงานทั้งปวงไม่ว่าจะอาชีพอะไร 

ตัวละครนี้ยังถอดแบบชีวิตของคนเจนซีที่เดินเข้าสู่โลกการทำงานพร้อมหนี้ก้อนโตตั้งแต่ยังไม่ทันได้เงินเดือนก้อนแรก ได้เงินเดือนมาเท่าไรก็ต้องเอาไปใช้หนี้ และไม่มีความสามารถในเร็วๆ นี้แน่นอนที่จะมีบ้านมีรถ หรือมีทรัพย์สมบัติอะไรเป็นของตัวเองได้ เฉกเช่นเพื่อนร่วมเจเนอเรชั่นซีทั่วโลกอีกมากมายในชีวิตจริง และแน่นอนว่าพ่อเธอทำธุรกิจเจ๊ง แม้จะอยู่ในวัยที่ควรจะเกษียณ แต่ก็เช่นเดียวกับผู้สูงวัยมากมายที่ยังต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง 

“ยิ่งจน ฉันก็ยิ่งหิว” อียองปากคว่ำขณะพักกินข้าวกับเพื่อนๆ 

รักคือพลัง

เธอร้องไห้ คิดมากเกินเหตุ ซุ่มซ่ามเกินเยียวยา รู้สึกหลงทางว่าจะมาหากินอะไรดีที่สบายกว่าอาชีพนี้ แม้ชีวิตจะยมสักแค่ไหน ปัญหารุมเร้าปานใด โออียองยังคงลุกขึ้นใหม่ไปทำงานได้ทุกวัน ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงคนไข้หรอกนะ แต่อยากไปเจอรุ่นพี่กูโดวอนที่โรงพยาบาลทุกวัน แถมเธอยังทำตามขนบผู้หญิงในจักรวาลชินอีที่เป็นฝ่ายสารภาพรักก่อนเสียด้วยสิ เธอมันร้าย ยัยโออียอง!

และการเฝ้าดูพี่โดวอนกับยัยน้องอียอง (ซึ่งดองกันเป็นญาติ แถมอยู่บ้านเดียวกันในชีวิตจริง เพราะพี่ชายกับพี่สาวของทั้งคู่แต่งงานกัน) ได้กลายเป็นพลังใจสำคัญที่คนดูตามลุ้นการอนุญาตให้ตัวเองข้ามเส้นมารักกัน(ซะทีเหอะ) ของว่าที่คู่จิ้น ‘วอนยอง’ ซึ่งเอาจริงพี่เขาก็เริ่มเปิดใจให้ยัยน้องแล้วละ ดูจากทิศทางของ ‘สะดือ’ ที่มีคำอธิบายทางจิตวิทยาว่า หากเราสนใจใคร เราจะหันสะดือไปทางคนนั้น

ที่สำคัญเป็นความมหัศจรรย์อีกครั้งของนักเขียนบทในจักรวาลชินอีที่สร้างตัวละครที่ดูธรรมดา หน้าตาไม่ได้ดีจัด แต่มีเสน่ห์เหลือร้าย บอกเลยว่าตอนนี้ท้ายแถว ‘จองจุนยอง’ ผู้รับบทพี่หมอกูโดวอน ยาวไปถึงดาวอังคารแล้ว 

การเติบโตที่แท้จริง 

ใน Resident Playbook เต็มไปด้วยการแหกปากด่าของอาจารย์หมอและรุ่นพี่แพทย์ประจำบ้านทั้งหลาย แม้แต่พยาบาลก็ดูจะเป็นงานมากกว่าอีก แม้ปากจะด่าขรม แต่มือไม้ของพวกเขาคอยประคับประคองและชี้หลุมไม่ให้หมอมือใหม่เดินพลาดซ้ำ 

นักแสดงคิมฮเยอินเก่งมาก เกลียดหมอมยองอึนวอนจริงๆ

แต่! มันจะมีอยู่คนหนึ่งตามที่ทำงาน คนคนนี้จะยิ้มหวาน พูดเพราะ ทว่างานที่เขาควรทำ ไหงมากองอยู่ที่เรา เครดิตในการทำงานที่เราควรได้ ไหงเป็นเขาที่ได้ไป การเลื่อนขั้นที่มันต้องถึงคราวเราสักที แต่ไหงเป็นเขามาหยิบชิ้นปลามันไปเฉย 

รวมไปถึงสิ่งที่เหมือนจะเป็นข้อเสียของหมอมือใหม่แต่ละคน หากใช้ให้ถูกสถานการณ์ก็กลับเป็นข้อดี 

ความ OCD ตรวจซ้ำอยู่นั่นของหมอแจอิลก็เหมาะดีกับคนไข้ขี้นอยด์ 

ความใจบางของหมอนัมกยองทำให้เธอกลับมาดูแลคนไข้…แม้จะตัดสินใจวิ่งหนีอาชีพหมอไปแล้วในตอนแรก

ความโรบอตทำตามตำราเป๊ะ ว่ากันตามถูก-ผิดของหมอซาบี ทำให้เธอเป็นเสาแห่งความยุติธรรมในสถานการณ์ที่ไม่ควรจะอีโม

หรือการไม่ยอมทำเกินหน้าที่ของหมออียอง ทำให้เธอทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จทุกครั้ง

ขณะเดียวกัน พวกเขาได้เรียนรู้ด้านตรงข้ามของความเป็นตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความเห็นอกเห็นใจคนอื่น การทำด้วยใจไม่ใช่แค่เห็นว่าเป็นหน้าที่ หรือการเป็นทีมเวิร์ก ซึ่งล้วนเป็นทักษะจำเป็นของคนทำงานในยุคเอไอ และที่สุดแล้ว พวกเขาและคนดูอาจได้เรียนรู้ว่า การเติบโตที่แท้จริงคือการรักษาคนดีๆ เอาไว้ในชีวิต ตัดคนท็อกซิกออกไป โอบรับทุกด้านของตัวเองและโฟกัสว่าเราไปได้ไกลแค่ไหน ไม่ใช่ขยับตำแหน่งหรือสถานะทางสังคมได้สูงขึ้นเพียงไร   

การคืนชีพของตัวละครที่เรารัก  

หลายครั้งที่เราคิดถึงตัวละครที่รักว่าหลังจากซีรีส์ปิดฉากไปแล้ว ชีวิตของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ทำอะไร อยู่ที่ไหน แต่งงานกับแฟนคนนั้นหรือยัง ฯลฯ ดูเหมือนผู้สร้างจะนั่งในหัวใจคนดู Resident Playbook จึงมีตัวละครจาก Reply และ Hospital Playlist โผล่มาให้กรี๊ดกันตอนละ 2-3 นาทีให้พอหายคิดถึง 

และคงต้องส่งเสียงคิดถึงให้ดังๆ กันหน่อย เพราะผู้กำกับชินเคยบอกว่าจะทำ Hospital Playlist ซีซั่น 3 หากว่าแฟนๆ อยากดูกันมาก แบบว่ามากๆๆ ถึงมากๆๆๆ ที่สุด

ไม่ว่าแก๊งอาจารย์หมอทั้งห้าจะกลับมาหรือไม่ แต่ตอนนี้แก๊งหมอมือใหม่ทั้งสี่กับพี่หมอใจดีแห่ง Resident Playbook เอาไปเลยทั้งใจ

Text: Suphakdipa Poolsap

Latest Posts

Don't Miss