“ถ้าอยากมีโชค เราก็ต้องเชื่อในโชค” เป็นคำกล่าวที่มักเอื้อนเอ่ยโดย Jacques Arpels หลานชายของ Estelle Arpels ที่กลายเป็นวลีประจำตัวของคอลเล็กชั่น Alhambra จากแบรนด์ Van Cleef & Arpels จิวเวลรีที่เป็นดั่งเครื่องรางนำโชคผ่านกาลเวลามาแล้วหลากยุคหลายสมัย
ค่านิยมนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานสรรค์สร้างของเมซงมาแล้วมากมาย โดยส่วนตัวของ Jacques Arpels เองก็เชื่อว่าเครื่องประดับสักชิ้นก็อาจเป็นเครื่องรางนำโชคให้แก่ผู้เป็นเจ้าของยามสวมใส่ได้เช่นกัน นอกจากนั้น เขายังมักเด็ดใบโคลเวอร์ 4 แฉกที่พบเจอในสวนหลังบ้านพักของตนย่านแฌร์มิญี-ลีเวค ทางตะวันออกเฉียงเหนือของนครปารีส มาให้กับบรรดาสมาชิกในทีม พร้อมแนบบทกวี ‘Don’t Quit’ ไว้เป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกคนมีความหวังเสมอ

เรื่องราวของใบโคลเวอร์ 4 แฉก และวลีอันเป็นตำนานนั้นได้ก่อร่างกลายเป็นต้นกำเนิดของคอลเล็กชั่นจิวเวลรีอันโด่งดังของ Van Cleef & Arpels ทั้งยังเป็นดั่งเครื่องประดับนำโชคแก่ผู้เป็นเจ้าของอย่างแท้จริง โดยจริงๆ แล้ว ลวดลายของใบโคลเวอร์ 4 แฉกนั้นได้เคยปรากฏตัวครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเมซงมาก่อนเมื่อต้นยุค 1920s จากลวดลายที่นำมาประดับบนผลงานสร้างสรรค์ตลอดระยะเวลาหลายปี ร่วมไปกับสัญลักษณ์แห่งความโชคดีอื่นๆ อย่าง เครื่องรางไม้ ชาร์ม และเทพธิดาน้อย จวบจนในปี 1968 Van Cleef & Arpels จึงได้เผยโฉมผลงานสร้างสรรค์ของสร้อยคอยาว Alhambra ขึ้นเป็นชิ้นแรก โดยประดับด้วยโมทีฟใบโคลเวอร์ 20 ชิ้นทำจากเยลโลว์โกลด์และล้อมรอบด้วยลูกปัดทอง ซึ่งชัดเจนว่าได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงโค้งและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใบไม้ใดๆ ของใบโคลเวอร์ 4 แฉก ที่กลายเป็นสัญลักษณ์นำโชคของผู้คนและนำมารังสรรค์เป็นงานออกแบบเครื่องประดับที่อ่อนช้อยและเป็นธรรมชาติได้อย่างสวยงาม โดยอาศัยความกลมกลืนของทั้งรูปทรง วัสดุและงานฝีมือ ที่เมซงแห่งนี้เชี่ยวชาญ


คอลเล็กชั่น Alhambra เป็นการผสมผสานระหว่างงานฝีมือหลากหลายแขนงที่อาศัยความพิถีพิถันละเอียดอ่อน โดยเฉพาะในการร้อยโมทีฟใบโคลเวอร์ 4 แฉกหลากหลายชิ้นซึ่งล้วนทำจากวัสดุล้ำค่า อย่าง เยลโลว์โกลด์ ไวต์โกลด์ และโรสโกลด์ อย่างประณีตและแม่นยำลงบนสายสร้อยหรือโครงร่างของชิ้นงานเครื่องประดับ ทั้งยังมีความโดดเด่นด้วยงานเดินขอบรอบด้วยลูกปัดทองเล็กๆ เรียงรายเพื่อเล่นกับแสงสะท้อน และมอบสัมผัสของความกลมกลืน นุ่มนวล ที่ย้ำถึงงานหัตถศิลป์ชั้นสูงของการรังสรรค์จิวเวลรี



Alhambra ประสบความสำเร็จในทันที และกลายเป็นหนึ่งในผลงานสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ Van Cleef & Arpels อย่างรวดเร็ว ด้วยเพราะความโดดเด่นของงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจึงกลายเป็นที่จดจำได้มาอย่างต่อเนื่องยาวนานนับกว่าครึ่งศตวรรษ ทั้งยังสะท้อนถึงสไตล์ที่อยู่เหนือกาลเวลาจากการยังคงครองความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะผ่านกี่ยุคกี่สมัยและท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของวัฒนธรรมและศิลปะการสร้างสรรค์มาแล้วมากมาย โดยเหล่าเซเลบริตี้และลูกค้าคนสำคัญที่สวมใส่ Alhambra ราวกับเป็นจิวเวลรีประจำตัวและกลายเป็นภาพจำเสมอนั้น ก็เช่น Romy Schneider และสร้อยคอยาว Alhambra ที่เธอสวมใส่ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Le Mouton Enragé ในปี 1973 หรือ Françoise Hardy ที่เธอดีไซน์การสวมใส่สร้อยคอยาว Alhambra ทั้ง 2 เส้นคู่กันได้อย่างงดงาม และ H.S.H. Princess Grace of Monaco ซึ่งทรงเลือกสวมสร้อยคอยาว Alhambra พร้อมกัน 3 เส้น ที่กลายเป็นภาพจากปี 1979 อันสง่างามและแสนประทับใจ


ในวันนี้ Alhambra ยังได้สานต่อความร่วมมืออีกครั้งกับ Carine Roitfeld ในชุดภาพถ่ายที่เน้นเรื่องราวแห่งต้นกำเนิดการสร้างสรรค์ของคอลเล็กชั่น และความงดงามที่กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมซง โดยในภาพถ่ายเหล่านี้ได้นำทั้งสร้อยคอ ต่างหู นาฬิกา และกำไลของ Alhambra มาเผยโฉมผ่านมุมมองอันหลากหลายที่สะท้อนถึงความสวยงามอันเป็นที่จดจำได้เสมอของ Alhambra

ชั้นเชิงในการพลิกแพลงทักษะและความชำนาญเชิงหัตถศิลป์ด้านต่างๆ ของ Van Cleef & Arpels บวกกับพลังสร้างสรรค์ที่ไม่หยุดยั้งตามแนวคิด ‘Don’t Quit’ แต่ดั้งเดิมนั้น จึงยังคงนำทางให้ Alhambra ไม่เคยหยุดพัฒนารูปแบบให้รุดหน้า และสร้างสรรค์ความสวยงามสู่ผลงานรุ่นต่างๆ ที่ตอบรับกับความต้องการอันหลากหลาย รวมถึงถ่ายทอดงานฝีมือที่หาชมยากและมีมิติยิ่งขึ้น เช่น งานสลักลายริ้วรัศมีตะวัน “กวิโญเช” (guilloché) บนแผ่นโมทีฟใบโคลเวอร์ 4 แฉก ที่มอบแสงอันแวววาวเจิดจรัสไร้สิ้นสุด หรือการประดับด้วยหินสีล้ำค่าที่เป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งความโชคดีประจำตัวของแต่ละคน อย่าง คาร์เนเลียนสีแดงเพลิง เปลือกหอยมุกเหลือบสีสันอ่อนหวานและเข้มแข็ง หรือประดับตกแต่งด้วยเพชร ตัวแทนแห่งความงดงามอันเป็นนิรันดร์


Alhambra จึงเป็นเหมือนจุดบรรจบของศิลปะ สุนทรียะความสวยงาม และประวัติศาสตร์อันเปี่ยมด้วยความหมาย ซึ่งในวันนี้ ยังนำเสนอด้วยความหลากหลายของตัวเลือกทั้งในแง่ของขนาด สีสัน ลวดลายและวัสดุ ขณะเดียวกัน ก็ยังคงความเป็นต้นตำรับของจิวเวลรีเครื่องรางนำโชค ซึ่งออกแบบและรังสรรค์มาเพื่อให้เป็นดั่งเครื่องประดับร่วมสมัยที่อยู่เหนือกาลเวลา