Sunday, March 16, 2025

Van Cleef Arpels Alhambra จิวเวลรี่ไอคอนิกที่เปรียบดั่งเครื่องรางและสัญลักษณ์แห่งโชค

แอลเชื่อว่าคุณย่อมมีเครื่องประดับนำโชคคู่กายสักชิ้น และแม้ว่าจะต่างกันด้วยการตีความหมายของแต่ละคน แต่เครื่องประดับเหล่านี้ก็ย่อมมีคุณค่าทางจิตใจที่ไม่อาจประเมินค่าได้อีกด้วย 

“ถ้าอยากมีโชค คุณก็ต้องเชื่อในโชค” เหมือนกับที่ Jacques Arpels เคยกล่าวไว้ ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนึ่งในตัวแทนความเชื่อเหล่านั้นผ่านคอลเล็กชั่นผลงานเครื่องประดับอัญมณีแห่งโชค อย่าง Alhambra ที่ได้รับการเปรียบเปรยให้เป็นดั่งเครื่องรางและสัญลักษณ์นำโชคจากการประดับตกแต่งโมทีฟที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ของใบโคลเวอร์สี่แฉก

คอลเล็กชั่น Alhambra รังสรรค์ขึ้นในปี 1968 โดยเมซง Van Cleef & Arpels จากต้นกำเนิดของผลงานชิ้นแรกที่เป็นสร้อยคอยาวประดับด้วยโมทิฟ 20 ชิ้น ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของใบโคลเวอร์สี่แฉกที่เคยปรากฏคู่กับเมซงมาแล้วนับตั้งแต่ยุค 1920s ทั้งยังเชื่อว่าเป็นดั่งสัญลักษณ์ของเครื่องรางนำโชค โดยเมซงได้นำมาพลิกแพลงเป็นแผ่นโมทีฟทำจากเยลโลโกลด์และลูกปัดทองรายล้อมกรอบของแผ่นโมทีฟ หลังจากนั้นต่อมา ความพิถีพิถันและความคิดสร้างสรรค์ของเมซง จึงได้มอบวิวัฒนาการใหม่ๆ ให้กับการตกแต่งแผ่นโมทีฟที่ยังคงมีพื้นฐานหลักของความประณีตละเอียดอ่อนในการตัดเจียนและขัดผิววัสดุ ก่อนจะนำทางมาสู่การผสมผสานด้วยเทคนิคและศิลปะงานฝีมือของการตกแต่งเฉพาะที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น งานขัดลวดลายรัศมีตะวันอันมีมิติและสะท้อนเล่นกับแสงในทุกๆ มุมมอง หรือกับลายริ้วกีโยเช่ (guilloché) อันประณีต ที่เผยความละเมียดละไมในการบรรจงแกะสลักริ้วลายแต่ละเส้นอย่างแม่นยำและละเอียดอ่อนมากที่สุด ทั้งยังมอบผลลัพธ์ของการล้อเล่นกับแสงสะท้อนในทุกๆ อิริยาบถการเคลื่อนไหวราวกับประดับประดาไปด้วยอัญมณีล้ำค่า

นับจากแรกเริ่ม Alhambra ยังนับเป็นการหลอมรวมด้วยทักษะงานฝีมือชั้นเลิศต่างแขนงที่ผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืน เช่น การประดับตกแต่งบนแผ่นโมทีฟด้วยเปลือกมุก (Mother-of-pearl) ซึ่งทอประกายแสงเหลือบวาวอันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งยังคัดสรรอย่างพิถีพิถันนับจากเฉดสีขาวด้วยริ้วลายเฉพาะไปจนถึงเปลือกมุกสีไล่โทนและเฉด อย่าง เทา และชมพู ที่เชื้อชวนให้หลงใหลอย่างไม่อาจละสายตาได้ ตลอดจนพลอยและหินสี ที่ในบางครั้งยังเป็นการคัดสรรมาจากหินสีธรรมชาติหายาก อาทิ แคลเซโดนี โมราสีสดใส หรือคาร์เนเลียน (Carnelian) สีแดงเพลิง และความบริสุทธิ์เลอค่าของเพชร ราชินีแห่งอัญมณีอันเป็นนิรันดร์ ซึ่งมักถูกนำมาประดับในรูปแบบกึ่งพาเว่หรือพาเว่ไว้บนแผ่นโมทีฟขนาดเล็กและบางอย่างมาก จึงต้องอาศัยเพียงทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะของช่างฝีมือแห่งเมซงเท่านั้น 

นอกจากนี้ แผ่นโมทิฟแต่ละชิ้นยังเสริมมิติของความประณีต ด้วยการเดินขอบรอบกรอบโมทีฟด้วยลูกปัดทองอันกลมกลึง ที่จำเป็นต้องผ่านการประดิษฐ์รังสรรค์ขึ้นด้วยงานฝีมืออย่างละเอียดละไม เพื่อมอบสัมผัสแห่งความอ่อนช้อย นุ่มนวล และละมุนละไมในทุกการเคลื่อนไหวบนร่างกายของผู้สวมใส่ โดยทั้งแผ่นโมทีฟและลูกปัดทองเหล่านี้ยังผสานเป็นหนึ่งเดียวด้วยการใช้เทคนิคของการประดับแบบเขี้ยวหนามเตยซึ่งดัดงอลงมายึดแผ่นโมทีฟให้ประกบแน่นบนตัวเรือน ก่อนจะนำมาเรียงร้อยไว้บนสายสร้อยคอ หรือสายสร้อยข้อมืออย่างมีศิลปะ ด้วยจังหวะและลีลาของการสลับคั่นกันระหว่างแผ่นโมทีฟใบโคลเวอร์ทอง กับโมทีฟประดับหินสีหรือเพชรล้ำค่า ที่มอบมิติและลูกเล่นอันทรงเสน่ห์ชวนให้ค้นหา รวมถึงยังมอบเป็นการตีความใหม่ได้อย่างไม่มีสิ้นสุดของเครื่องประดับ Alhambra อีกด้วย

จากเครื่องประดับนำโชคที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และกลายเป็นเครื่องประดับแห่งความโชคดีอันเป็นที่รักยิ่งประจำเมซง Van Cleef & Arpels อย่าง Alhambra ได้ร่วมสะท้อนถึงแรงบันดาลใจ แนวคิดสร้างสรรค์ งานฝีมือ และเหนืออื่นใดคือจินตนาการ พร้อมทั้งหลอมรวมไว้ด้วยเทคนิคและศิลปะชั้นยอด ที่ไม่ว่าจะผ่านการตีความภายใต้รูปแบบคลาสสิกของโมทิฟใบโคลเวอร์ต้นตำรับดั้งเดิม หรือด้วยโมทิฟรูปทรงสร้างสรรค์เหนือความคาดหมายอื่นๆ แต่ Alhambra ก็ยังคงเป็นที่จดจำในฐานะเครื่องประดับชั้นสูงที่นำพาความโชคดีมาสู่ผู้ครอบครอง และพร้อมจะร่ายเวทมนตร์อันตราตรึงใจได้อย่างไร้กาลเวลา 

ติดตามชมความงดงามของคอลเล็กชั่น Alhambra จาก Van Cleef & Arpels ได้ทุกช่องทางโซเชียลของแอล ประเทศไทย หรือเข้าไปชมคอลเล็กชั่นอื่นๆ จาก Van Cleef & Arpels ได้ทาง https://www.vancleefarpels.com และ Line Official Account @vancleefarpels

Latest Posts

Don't Miss