สัมผัสของผ้าทวีด เปี่ยมด้วยเสน่ห์จากริ้วลายและเอกลักษณ์ที่จดจำได้นับตั้งแต่แรกเห็นนั้น ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับไฮจิวเวลรีล่าสุดของ Chanel ด้วยชื่อ ‘TWEED DE CHANEL’ ที่ตีความจากความนุ่มนวลและรายละเอียดของผ้าทวีดแห่ง Maison นำมาแปลงโฉมสู่ความมีชีวิตชีวาของเหล่าเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงในคอลเล็กชั่นนี้
ผ้าทวีดที่เราต่างคุ้นเคยและกลายเป็นดั่งเอกลักษณ์ของ Chanel นั้นได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งจิวเวลรีภายใต้การรังสรรค์ของช่างฝีมือของแบรนด์มานับตั้งแต่ปี 2020 ที่คอลเล็กชั่นนี้ได้เผยโฉมเป็นครั้งแรก กับผลงานที่ต่างอุทิศให้กับความงดงามและประณีตอ่อนช้อยของผ้าทวีดโดยเฉพาะ ทั้งยังผสมผสานด้วยแรงบันดาลใจและความชำนาญชั้นยอดของทั้ง 2 ศาสตร์แห่งหัตถศิลป์นี้เคียงข้างกันเสมอ กระทั่งเดินทางมาสู่คอลเล็กชั่นไฮจิวเวลรีนี้ในรูปโฉมใหม่ ภายใต้การดูแลของ Patrice Leguéreau ผู้อำนวยการสตูดิโอสร้างสรรค์ Fine Jewelry ของ Chanel
“ความฝันของผมคือการสร้างชุดผ้าทวีดด้วยอัญมณี”
– Patrice Leguéreau –
ในปีนี้ Patrice Leguéreau เลือกที่จะหวนคืนสู่ความมหัศจรรย์ของผ้าทวีด พร้อมด้วยผลงานใหม่ทั้ง 64 ชิ้น ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีต หลอมรวมด้วยแรงบันดาลใจของทั้งเทคนิคปักลาย ประดับฟรินจ์ ฉลุลาย และเล่นกับการใช้เพียงสองสีหรือหลายสี เช่นเดียวกับจำลองการถักทอของผ้าทวีดที่มีรายละเอียดมากมาย มาสร้างความประทับใจภายใต้งานดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตา “สำหรับคอลเล็กชั่นไฮจิวเวลรีใหม่ที่อุทิศให้กับผ้าทวีดนี้ ผมต้องการตีความให้ลึกลงไปอีก ด้วยการสร้างสรรค์เนื้อผ้าจริงๆ ด้วยอัญมณีล้ำค่าที่มีน้ำหนักเบาและนุ่มนวล” และนั่นคือสิ่งที่เขาอธิบายถึงความปรารถนาในการรังสรรค์คอลเล็กชั่นไฮจิวเวลรีนี้ให้ยังคงเปี่ยมด้วยพลัง ทรงคุณค่า และที่ขาดไม่ได้ก็คือเสน่ห์ที่เชื่อมโยงความปรารถนาของผู้หญิง
คอลเล็กชั่นนี้เผยโฉมเครื่องประดับทวีดใหม่ใน 5 แบบ และใน 5 สีแตกต่างกัน ทั้งยังประดับด้วย 5 ไอคอนอันเป็นที่รักยิ่งของ Gabrielle Chanel ไม่ว่าจะเป็น ริบบิ้นสีขาว ดอกคามิลเลียสีชมพู ดาวหางบนพื้นหลังสีน้ำเงิน ดวงอาทิตย์สีเหลือง และสิงโตที่ขับเน้นด้วยประกายแสงสีแดง
หนึ่งในไฮไลต์ของการสร้างเสน่ห์ของผ้าทวีดขึ้นมาใหม่ แต่ยังคงไว้ด้วยเอกลักษณ์และความเป็นไอคอนเหล่านี้ คือผลงานสร้อยคอ Tweed Royal ที่เปรียบเหมือนหัวใจของคอลเล็กชั่น ด้วยเพราะเป็นผลงานที่แสดงออกถึงความชำนาญ ความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นเลิศของเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงของ Chanel สะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่ตีความลงสู่รูปแบบและงานฝีมือซึ่งใช้ผสมผสานกัน เพื่อตกแต่งตัวสร้อยคอแบบแผงประดับหน้าอกจากการถักทอด้วยเยลโลว์โกลด์ และหลอมรวมอย่างลงตัวเข้ากับสายโซ่ รวมถึงการประดับเพชรและทับทิม ขณะที่หัวสิงโตซึ่งอยู่ตรงกลางสร้อยคอยังสามารถถอดออกและใช้เป็นเข็มกลัด เช่นกันกับเพชรทรงลูกแพร์ 10.17 กะรัต ของสร้อยคอที่สามารถถอดออกเพื่อสวมเป็นแหวนได้ด้วย องค์ประกอบเหล่านี้ล้วนแสดงออกถึงการบุกเบิกอย่างกล้าหาญที่นำทางมาสู่มุมมองใหม่ๆ ของไฮจิวเวลรีที่มีชีวิตชีวามากขึ้น เมื่อถูกสวมใส่ได้ในรูปแบบที่หลากหลายเหนือจินตนาการ
เช่นเดียวกับแหวนจาก Tweed Astral ที่ประดับด้วยแซปไฟร์ทรงรีสีน้ำเงินเข้ม ถ่ายทอดความลุ่มลึกของท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เปล่งประกายแสงผ่านอัญมณีล้ำค่าในเฉดสีเข้ม ทั้งยังผ่านลายถักทอสีดำและสีน้ำเงิน ประดับรายล้อมด้วยเพชรและแซปไฟร์คล้ายกับลวดลายของผ้าทวีดสีเข้มที่ตัดกับประกายริ้วผ้าสีเงินระยิบระยับและแสนลึกลับในที นับเป็นเสน่ห์อันโดดเด่นและแตกต่างที่แสดงออกถึงความเชื่อมโยงระหว่าง Chanel มรดกแห่งผ้าทวีด และความล้ำค่าแห่งอัญมณีได้อย่างสมบูรณ์
Tweed Mademoiselle เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่ถ่ายทอดลวดลายถักทอของผ้าทวีดมองเห็นได้อย่างชัดเจนบนเซ็ตนี้ อัญมณีตรงกลางยังเผยรูปร่างและขนาดต่างๆ กัน ช่วยให้ขับเน้นพื้นผิวให้โดดเด่นผ่านเพชรที่เรียงแถวสลับกัน โชว์ความนุ่มนวลเป็นพิเศษและมีมิติเสมือนคอลเล็กชั่นโอต์กูตูร์ของ Chanel