ชื่อรายการว่า Sex Ed แต่มีอะไรมากกว่าแค่เรื่องเซ็กซ์ เมื่อ ติช่า-กันติชา ชุมมะ พูดคุยกับหมอสูติว่าจำจิ๊มิของคนไข้ได้ไหม คนท้องจะมีเซ็กซ์อย่างไร ไปจนถึงการบอกแม่ว่าตอนเด็กเคยโดนล่วงละเมิดทางเพศ หากนั่นคือความพยายามของเธอที่จะปูพื้นสร้างสังคมที่ทุกคนเคารพตัวเองและไม่ดูดายคนอื่น วันนี้แอลได้นั่งพูดคุยอย่างตรงไปตรงมากับสาวติช่า หนึ่งในผู้หญิงผู้สร้างแรงบันดาลใจจากแคมเปญ ELLE Empowering Women ประจำเดือนกุมภาพันธ์นี้

ELLE: ติช่าพูดว่าที่ทำรายการช่อง Sex Ed ในยูทูบขึ้นมาเพื่อให้ผู้หญิงใช้ป้องกันตัวเองไม่ให้ใครมาเอาเปรียบ
“บ้านที่เราเติบโตมาที่สวีเดนเขาจะไม่บอกให้ผู้หญิงป้องกันตัว เขาจะสอนให้ผู้ชายไม่ไปล่วงเกินทำร้ายผู้หญิง แล้วให้เขารู้กฎหมายเป็นอย่างดีด้วยเพื่อที่เขาจะได้ชั่งใจถึงผลที่จะตามมา อย่างตอนที่อยู่สวีเดน สมมติว่าเราแชตกับผู้ชาย นัดจะไปมีเซ็กซ์กัน แต่พอมาเจอกันจริงๆ เราบอกผู้ชายว่าไม่เอาละ ผู้ชายก็ต้องนอน*#@!แข็งทั้งคืน เขาถูกปลูกฝังมาดีว่าถ้าอีกฝ่ายบอกว่าไม่ เราก็ต้องไม่ทำ เราคือมนุษย์ที่ต้องควบคุมความอยากของตัวเองได้ เราไม่ใช่สัตว์”
“เราเลยไม่ได้มาสอนผู้หญิงว่าต้องปกป้องตัวเอง เพราะจริงๆ แล้วต่อให้เรามีมีดในมือก็สู้ไม่ได้ หรือจะแทงคนก็ต้องคิดเยอะนะ Sex Ed เลยสอนทุกเพศให้เคารพกันและกัน สอนให้ทุกคนรู้ว่ามันมีเส้นที่คุณไม่ควรจะล้ำ เพราะความสุข 15 นาทีของคุณ อาจเป็นปมทั้งชีวิตของอีกคนก็ได้”
ELLE: ทำเนื้อหาที่คนมักปกปิดแต่ก็อยากรู้และขาดความรู้แบบนี้ ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง
“ตอนแรกนึกว่าคนที่ดูช่องของเราจะเป็นผู้หญิงเยอะ แต่พอมาดูข้อมูลปรากฏว่าคนดูเป็นผู้หญิงกับผู้ชาย 50:50 ล่าสุดมีผู้ชายคนหนึ่งมาเล่าในช่องคอมเมนต์ว่าน้องสาวของเขาโดนล่วงละเมิดทางเพศ พอผู้ชายมาแชร์ความเจ็บปวดที่ผู้หญิงในครอบครัวตัวเองโดนกระทำ คนก็มาไลก์มาแชร์กันเยอะมาก เรารู้สึกว่ามันช่วยเปิดมุมมองหลายๆ ด้าน เพราะเรารู้แค่มุมมองของผู้หญิง คนที่ไม่อยากคอมเมนต์ในยูทูบก็ดีเอ็มส่งเรื่องราวของตัวเอง มาให้เราเยอะมาก บางคนเจอแย่กว่าเรา เจอพ่อเลี้ยงหรือญาติข่มขืน โดนแล้วโดนอีก บางทีเราอ่านไม่ไหวนะ เพราะมันหนักมาก ที่เราเห็นในข่าวว่ามีคนแปลกหน้าข่มขืนนั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่กรณีโดนข่มขืนที่เกิดขึ้นทั่วโลกส่วนใหญ่มาจากคนในครอบครัว คนรู้แล้วแหละเรื่องถุงยาง จะใช้หรือไม่ก็ว่ากันอีกที แต่เรื่องทัศนคติ และพฤติกรรมต้องปลูกฝัง”
ELLE: คิดอย่างไรกับคำพูดที่ว่าเป็นผู้หญิงอย่าแรด อย่าแต่งตัวโป๊ ดึกดื่นก็อย่าไปเดินในที่เปลี่ยว
“ส่วนหนึ่งเราเห็นด้วย ถ้าอยู่ในประเทศที่มีการปลูกฝังมาดี เราทำแบบนั้นได้ แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น เราเองต้องระวังตัวไว้ก่อน จะมาบอกว่าฉันจะเดินแก้ผ้าก็ได้ ไม่มีใครทำอะไรฉันหรอก แต่ถ้าเกิดเขาทำล่ะ ถ้าเลือกได้เราก็อยากสอนให้ผู้ชายเคารพผู้หญิง แต่คุณอยู่ในสังคมแบบไหนล่ะ ถ้าสังคมน่ากลัว คุณก็ต้องระวังตัวเองด้วย”
ELLE: ยุคนี้ผู้หญิงจะเข้าใจว่าคนที่มั่นใจคือต้องเฟียร์ส ต้องฟาด แล้วผู้หญิงติ๋มล่ะ จะมีที่ยืนไหม
“เราคิดว่าไม่จำเป็นเลยที่ผู้หญิงต้องลุกขึ้นมาเฟียร์สเดินหลังตรง พูดเสียงดัง ด่าผู้ชายจึงจะดูแรงและแข็งแรง มันคือความเข้าใจที่ผิด ที่บางคนใช้วิธีนี้คือลึกๆ แล้วไม่มั่นใจแต่ต้องทำเป็นมั่นใจไว้ก่อน แล้วเดี๋ยวก็มั่นใจไปเอง มีเทคนิคสะกดจิตตัวเองแบบนี้ แต่คนที่เข้าใจ empowerment จริงๆ จะรู้ว่ามันมาจากข้างใน และคนที่แกร่งที่สุดคือคนที่ในวันที่ไม่มีคนเคียงข้าง ไม่มีคนปรบมือให้ วันนั้นคุณต้องยืนเพื่อตัวเองและปรบมือให้ตัวเอง นั่นคือพลังที่มาจากภายใน มันง่ายที่เราจะมั่นใจในวันที่ทุกอย่างดีและทุกคนสรรเสริญ วันที่คนชมติช่าสวย เราก็มั่นใจสิ แต่วันหนึ่งที่โดนด่าว่าไม่สวยแล้วจะมั่นใจเหมือนเดิมได้อยู่หรือเปล่า คนที่โดนด่าว่าไม่สวยๆ แล้วยังมั่นใจได้ นั่นละคือคนที่มั่นใจจริง และคนที่มั่นใจจริงๆ เขาไม่ไปกดคนอื่นลงหรอก”

ELLE: เห็นว่าเคยพูดถึงประเด็นผู้หญิงแรดเงียบและอยากขยายความตรงนี้
“ผู้หญิงนิ่งๆ เงียบๆ แอ๊บแอ้แต่ไปมีอะไรกับคนเยอะแยะ เราคิดว่าโดนด่าว่าแรดเงียบนี่เจ็บกว่าโดนด่าว่าแรดเฉยๆ อีกนะ เราเคยพูดเรื่องนี้แต่ไม่บ่อย เพราะเราเป็นคนแรดดังไง แต่เราอยากบอกว่าคนเขาจะทำอะไรในที่ส่วนตัว เขาจะไปมีอะไรกับใคร เขาอาจจะไม่อยากประกาศว่าทำอะไรกับใคร นั่นอาจเป็นตัวตนของเขาก็ได้ จะแรดเงียบ แรดดัง หรือแรดแบบไหนก็ตาม มันเรื่องของเขา เรากำลังตัดสินคนอื่นในขณะที่ปัจจัยในชีวิตคนเราต่างกัน”
ELLE: ถ้ามีลูกสาว ติช่าจะสอนอะไร
“ให้เคารพตัวเอง เขาจะเรียนรู้เองว่าเส้นของเขาอยู่ตรงไหน ทำอะไรได้หรือไม่ได้ เมื่อไรที่ควรทำไม่ควรทำอะไร เราไม่ต้องไปบอกกฎเกณฑ์ยิบย่อยว่าอย่าให้ผู้ชายมาแตะมือนะ บางคนอาจจะชอบให้คนแตะแต่ก็ยังเคารพตัวเองอยู่ ถ้าเขาชอบมีเซ็กซ์ก็ชอบไป ตราบใดที่เขายังเคารพตัวเอง”
“ในโลกทุกวันนี้ที่คนแคร์เรื่องรูปลักษณ์ เราอยากบอกว่าหาอะไรที่มีคุณค่าให้ตัวเองด้วย อาจเป็นทักษะ ความรู้ความสามารถอื่นๆ เพราะความสวยไม่ได้อยู่กับคุณไปตลอด สักวันคุณก็จะแก่และโลกนี้จะมีคนเห็นแก่ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ คนมองว่าใครดีใครได้ ฉันทำเพื่อตัวเองแล้วผิดตรงไหน เขาเถียงชนะในทางตรรกะ แต่แพ้ในด้านความรู้สึก แล้วเขาไม่รู้ตัวด้วยนะว่าบางอย่างที่คุณเถียงมันฟังไม่ขึ้นหรอกในชีวิตจริง เขาต้องประสบกับตัวเองจึงจะรู้ ฉะนั้นการเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นเป็นเรื่องสำคัญมาก”
Photographer: Pathomporn Phueakphud
Make up: Phuwadon Dechphrom
Hair: Yajanta Audomkittichot