ไม่ว่าเวลาจะมีความหมายในแบบสากลเช่นไร กระนั้น สำหรับแต่ละคนแล้ว เวลาย่อมมีความหมายในแบบฉบับของตนเอง และนี่คือเรื่องราวอันเปี่ยมด้วยความหมายในทุกๆ วินาทีของ Penélope Cruz แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Chanel ที่ครั้งนี้เธอเล่าให้แอลฟังว่า
ผู้คนมักชอบใช้สำนวนที่ว่า “มีเวลา” ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถเป็นเจ้าของเวลาได้ก็ตาม คุณรู้สึกว่ามีเวลาพอไหมในแต่ละวัน
บางวันฉันก็รู้สึกว่ามีเวลาไม่พอ ฉันคิดว่าทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าคุณจัดการเวลาได้ดีแค่ไหน การที่คุณรู้สึกว่าในแต่ละวันคุณมีเวลาไม่พอในการทำสิ่งที่จำเป็นต้องทำนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เช่นเดียวกับการที่คุณรู้สึกว่าคุณไม่ได้ใช้เวลาที่มีอย่างเหมาะสม ซึ่งไม่ใช่การทำอะไรๆ ให้มากขึ้นไปกว่านี้ แต่ต้องการใช้เวลานั้นเพื่อพัฒนาตนเอง ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว นี่คือสิ่งสำคัญสำหรับพวกเราทุกคน สิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุดเกี่ยวกับเวลาที่ผ่านพ้นไปก็คือ ฉันสงสัยว่ากำลังใช้เวลาอย่างเหมาะสมเพื่อเรียนรู้ให้มากที่สุดจากบทเรียนทั้งหมดในชีวิตที่ฉันได้รับหรือไม่

คุณชอบใช้เวลาทำอะไรบ้าง
สิ่งที่ฉันชอบทำคือ การใช้เวลากับครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับฉัน ครอบครัวมีความสำคัญมากที่สุดสำหรับฉันมาโดยตลอด เพราะฉันได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างนั้น อย่างเช่น แม่ น้องสาว และหลานชายของฉัน พวกเราอาศัยอยู่ใกล้ๆ กัน รวมถึงพี่ชายฉันด้วย ในตอนที่เขาพักอาศัยอยู่ที่สเปนกับครอบครัว
การอยู่ด้วยกันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับฉันและสำหรับพวกเราทุกคนเสมอมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉันมีลูก เมื่อคุณมีลูก คุณจะพบว่าทุกๆ นาที ทุกช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นมีความสำคัญ การที่ได้อยู่ตรงนั้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการของลูกในแต่ละวัน ถ้ามีอะไรใหม่ๆ หรือมีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้น ฉันไม่อยากจะพลาดเลย

สิ่งนี้ส่งผลต่องานที่ฉันเลือกทำเพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกันเสมอ ฉันทำงานมากขึ้นในช่วงฤดูร้อน เพราะฉะนั้น ถ้าฉันต้องเดินทาง เราทั้งครอบครัวก็จะเดินทางไปเที่ยวด้วยกัน และแน่นอนว่าวันที่และสถานที่มีความสำคัญมากขึ้น ในวัย 20 และ 30 ของฉัน ฉันแสดงภาพยนตร์ 4 เรื่องต่อปี แต่ชีวิตฉันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อกลายเป็นแม่ เพราะฉันให้ความสำคัญอย่างมากกับการเลี้ยงดูลูก ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่มีงานที่ฉันสามารถเลือกได้และเป็นอย่างนั้นอยู่นานหลายปี ฉันรู้สึกมีอภิสิทธิ์บางอย่าง เพราะถ้าคุณสามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้เวลาอย่างไร เมื่อไหร่ และที่ไหน นั่นคือความมีอิสระที่ยิ่งใหญ่

ในกองถ่ายที่มีช่วงพักก่อนเข้าฉากต่อไป เวลาอาจดูเหมือนยืดยาวออกไปไม่สิ้นสุดเหมือนหนังยางที่ถูกยืดออก คุณชอบช่วงเวลาหยุดพักแบบนี้ไหม
เป็นช่วงเวลาที่ยาก เพราะเมื่อคุณอยู่ในฉากที่สะเทือนอารมณ์มากๆ และต้องมีการพักทานอาหารกลางวันสักหนึ่งหรือสองชั่วโมง จากนั้นต้องมีการเปลี่ยนระบบไฟทั้งหมดสำหรับฉากต่อไป คุณจะไม่สามารถผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่เลย ฉันต้องอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถใช้พลังงานได้เต็ม 100% เมื่อเข้าฉาก แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็ไม่สามารถแยกตัวเองออกมาได้อย่างสมบูรณ์ ฉันต้องอยู่ในสภาวะครึ่งๆ กลางๆ โดยรอเข้าฉากในสภาวะอารมณ์ที่เป็นอยู่ และพยายามรักษาสมดุลไม่ให้เครียดจนเกินไป ไม่ให้สมองล้าจนเกินไป ซึ่งเป็นการรักษาสมดุลที่ค่อนข้างยากระหว่างการพยายามผ่อนคลาย แต่ก็ต้องไม่ปล่อยตัวเองให้หลุดออกจากห้วงอารมณ์ของการแสดงในฉากนั้นไปโดยสิ้นเชิง ฉันต้องบอกว่าตอนที่เล่นหนังเรื่องแรกในชีวิต ฉันรู้สึกว่ายากมากที่จะหาสมดุลที่เหมาะสมในช่วงเวลารอยต่อนั้น

การปรับตัวให้เข้ากับแต่ละช่วงเวลาเป็นสิ่งสำคัญหรือไม่
ฉันคิดอย่างนั้น แม้ว่ามันจะไม่ง่ายเสมอไป เมื่อเป็นแม่คนแล้ว ฉันต้องจัดเตรียมทุกอย่างให้เป็นระบบระเบียบ ซึ่งไม่ใช่แค่ตารางเวลาของตัวฉันเอง แต่รวมถึงตารางเวลาของลูกๆ ด้วย ลูกต้องมาเป็นอันดับหนึ่งและเกี่ยวข้องในทุกๆ เรื่อง ทุกการตัดสินใจเกี่ยวกับการเล่นหนังของฉันที่จะต้องคำนึงถึงลูกๆ ด้วยว่าต้องถ่ายทำเมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร และนานแค่ไหน ฉันต้องคิดเรื่องเหล่านี้ในการตัดสินใจทุกครั้ง รวมถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับงาน ฉันไม่เคยอยู่ห่างจากลูกๆ เลย ถ้าต้องไปทำงานต่างเมือง ก็จะต้องเป็นช่วงฤดูร้อนที่ทุกคนในครอบครัวสามารถไปด้วยได้ ดังนั้น อย่างที่บอกว่าฉันคิดว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้ทำอาชีพที่ยังสามารถรักษาหน้าที่ความเป็นแม่ไว้ได้ โดยได้อยู่กับลูกๆ และทำงานไปด้วยได้ ซึ่งเป็นงานที่ฉันฝันไว้ตั้งแต่เด็ก

เวลาเป็นมากกว่า ‘สิ่งที่ผ่านพ้นไป’ หรือเปล่า
มากกว่านั้นเยอะมากค่ะ เวลาสร้างตัวตนของเราขึ้นมาในหลายๆ ด้าน มีคำพูดเกี่ยวกับเวลาที่ผ่านพ้นไปที่ฉันชอบมากซึ่งมาจากกวีคนโปรดคนหนึ่งของฉัน นั่นคือ Kahlil Gibran เขาได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจในหลายๆ เรื่อง ทั้งที่เกี่ยวกับบุตรและการเลี้ยงดูบุตร หรือการแต่งงาน ส่วนคำกล่าวของเขาเกี่ยวกับเวลาซึ่งฉันคิดว่าเป็นถ้อยคำที่งดงามมากก็คือ “วันวานเป็นเพียงความทรงจำของวันนี้ และวันพรุ่งนี้คือความฝันของวันนี้” (Yesterday is but today’s memory, and tomorrow is today’s dream) – คาลิล ยิบราน


เราเห็นด้วยกับเธอว่า แม้เวลาไม่อาจเป็นสิ่งที่ยื้อยุดหรือรั้งรอได้ แต่ทุกขณะวินาทีที่มันเดินผ่านไป ก็ล้วนแล้วแต่สร้างไว้ซึ่งประสบการณ์และความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนให้กับเราทุกคนได้เสมอ
การได้มีโอกาสแสดงภาพยนตร์ ได้ทำงาน และประกอบอาชีพที่ฉันรักมากตั้งแต่ยังเด็ก และยังสามารถทำต่อไปได้ โดยที่มีเวลาให้ครอบครัวด้วย ถือเป็นพรที่ยิ่งใหญ่มาก และฉันรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ ค่ะ
Photo: Courtesy of the Brand