เข้าสู่วงการบิวตี้อีกหนึ่งรายสำหรับนางแบบสาว Bella Hadid ที่ได้เปิดตัวแบรนด์น้ำหอมในชื่อ ‘Ôrebella หลังจากปล่อยทีเซอร์ให้แฟนๆ ได้เซอร์ไพรส์มาหลายเดือน โดยสาวเบลล่าได้ถ่ายทอดเรื่องราวและตัวตนของเธอผ่าน 3 กลิ่น Salted Muse, Window2Soul และ Blooming Fire ในสูตรปราศจากแอลกอฮอล์แบบ 2 เฟส สาวเบลล่าได้เล่าว่าหลังจากการรักษาอาการป่วยของเธอนั้น ทำให้เธอได้รู้ว่าเธอมีความรู้สึกไวต่อแอลกอฮอล์ในน้ำหอม นั้นจึงเป็นสาเหตุที่เธอได้อุทิศทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อพัฒนาแบรนด์น้ำหอมนี้ขึ้นมา
โดยน้ำหอมของสาวเบลล่านั้นเป็นสูตรแบบ 2 เฟส จึงต้องเขย่าเพื่อกระตุ้นและผสมส่วนผสมให้เข้ากันก่อนใช้ มีส่วนผสมของ ‘Ôrəlixir เอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ ซึ่งผสานส่วนผสมจากเห็ดหิมะที่ให้ความชุ่มชื้น พร้อมส่วนผสมของคามีเลีย, อัลมอนด์, มะกอก, โจโจ้บา, เชียออยล์ และเฟสสองที่ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหย และกลิ่นหอมชั้นดี
Bella Hadid ได้ให้สัมภาษณ์กับ WWD ว่า “ฉันมักเกลียดกลิ่นแอลกอฮอร์ในน้ำหอม ‘Ôrebella จึงเป็นน้ำหอมประเภทสองเฟสที่ไม่มีแอลกอฮอล์ตัวแรกที่ฉันต้องการนำเสนอสิ่งที่ผู้คนไม่เคยเห็นออกสู่ตลาด และฉันก็ผลิตน้ำมันหอมระเหยใช้เองเป็นเวลานานมาแล้ว”
ซึ่งกลิ่น Salted Muse มีกลิ่นโน๊ตของเกลือทะเล, พริกไทยสีชมพู, กลิ่นจากต้นมะกอก, ลาเวนเดอร์ และกลิ่นไม้ของอำพัน ส่วนกลิ่นของนั้น Window2Soul ประกอบด้วยดอกกุหลาบ, ดอกมะลิ, มะนาวสด, และถั่วทองก้า ขณะที่ Blooming Fire ผสมผสานกลิ่นดอกไม้ Tahitian monoi เข้ากับแพทชูลี่ และมะกรูด
นอกจากการเปิดตัวแบรนด์น้ำหอมแล้ว สาวเบลล่ายังเปิดมูลนิธิ ‘Ôrebella’s Alchemy Foundation ควบคู่ไปด้วย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนองค์กรต่างๆ ด้วยการบริจาค 1% ของยอดขายทั้งหมดให้กับมูลนิธิต่างๆ อาทิ Lower East Side Girls Club และ PATH International เป็นต้น
ทั้งสามกลิ่นมีราคาอยู่ที่ 35 ดอลลาร์ (ราคาประมาณ 1,300 บาท) สำหรับ 10 มล., 72 ดอลลาร์ (ราคาประมาณ 2,700 บาท) สำหรับ 50 มล. และ 100 ดอลลาร์ (ราคาประมาณ 3,800 บาท) สำหรับ 100 มล. โดยจะวางจำหน่ายที่ Orebella.com และ Ulta.com