ในยุคนี้ที่ใครๆ ก็หันมาทำธุรกิจของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่น แบรนด์เครื่องประดับ ตลอดจนแบรนด์กระเป๋า ที่ดีไซน์และคุณภาพนั้นไม่เป็นสองรองใคร ซึ่งสาวๆ หลายคนก็อาจคุ้นหน้าคุ้นตากับกระเป๋าแบรนด์ ‘Chato Studio’ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์แสนเก๋ ไม่ซ้ำใคร จนทำให้ครองใจสาวๆ เป็นกระเป๋าใบโปรดของใครหลายคนที่ขาดไม่ได้สำหรับการออกจากบ้านในแต่ละวัน ซึ่งเบื้องหลังของไอเท็มสุดเก๋นี้คือหญิงสาวมากความสามารถอย่าง เมย์-วัจณา เจริญสมสมัย และเรื่องราวของเธอก็น่าสนใจไม่แพ้แบรนด์ที่เธอสร้างขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว แอลจึงชวนสาวเมย์มาพูดคุยการเติบโตของแบรนด์ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงอนาคตของธุรกิจที่จะเกิดขึ้นด้วยฝีมือของเธอกัน
ELLE: การสานต่อธุรกิจของครอบครัวจากโรงงานตัดเย็บให้เป็นแบรนด์ของตัวเองในนาม Chato Studio มีความท้าทายอย่างไรบ้าง
“ความท้าทายของการบริหารธุรกิจสานต่อครอบครัวคือการผสมผสานสิ่งเก่ากับสิ่งใหม่เข้าด้วยกันค่ะ รุ่นพ่อแม่เขามีวิธีการดำเนินงานเฉพาะทางของเขา สิ่งที่รุ่นเขามีคือประสบการณ์และ Know-How ที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์และทำให้กระเป๋าเรามีลักษณะเฉพาะตัว มีคุณภาพ มีเคล็ดลับที่ไม่เหมือนคนอื่นค่ะ แต่สิ่งที่เรามีคือระบบจัดการ ความเข้าใจในตลาดยุคปัจจุบัน ซึ่งการจะผสมผสานการทำงานยุคเรากับเขามันก็ค่อนข้างยากเลยค่ะ”
ELLE: การเป็นผู้หญิงที่สร้างแบรนด์ด้วยตัวเองน่าจะเป็นเรื่องที่ใช้พลังเยอะมาก เรามีวิธีในการรักษาแพสชั่นในการทำงานให้ไปต่ออย่างไร
“เมย์เป็นคนมีเป้าหมาย มีความฝัน และอยากทำให้เป็นจริง เพราะฉะนั้นมันก็จะมีพลังคิดต่อไปว่าเราจะทำมันต่อไปได้ยังไง มีสเต็ปแบบไหน ไม่เคยบอกกับตัวเองว่าทำไม่ได้ แต่จะถามตัวเองตลอดว่า จะต้องทำวิธีไหนถึงทำได้บ้างมากกว่า พอเวลาเรามีวิธี เราก็จะตื่นเต้นว่ามันจะสำเร็จไหม ลุ้นจัง และก็จะมีพลังทำมันไปเรื่อยๆ ค่ะ อีกอย่างเมย์โชคดีมีทีมดี พาร์ตเนอร์ธุรกิจดี และมีครอบครัวที่น่ารัก พลังงานดีๆ มันก็ได้รับมาจากอะไรตรงนี้เยอะด้วยค่ะ”
ELLE: แบรนด์กระเป๋าของเมย์มาจากแพสชั่นที่มีในการท่องเที่ยว การเดินทาง แล้วเราอยากให้กระเป๋าของเราเติบโตและเดินทางไปทิศทางไหนในเวลานี้
“เมย์ยังคงชอบ personality ของความอิสระนี้ใน Chato ค่ะ แต่เราอยากทำให้มันชัดขึ้น เด่นขึ้น และมีภาพลักษณ์ที่ทำให้เข้าใจ key message นี้มากขึ้นค่ะ”
ELLE: ถ้าให้เปรียบ Chato studio เป็นผู้หญิง คิดว่า Chato studio เป็นผู้หญิงแบบไหน มีไลฟ์สไตล์แบบไหน
“เมย์คิดว่ากระเป๋าไม่ใช่แค่สิ่งใส่ของ แต่มันคือภาษาด้วยค่ะ มันสามารถแสดงออกทางบุคลิกและอารมณ์ของคนถือได้เสมอ ผู้หญิงชาโต้เป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่สนุกกับการอยู่บนโลกใบนี้ รู้ว่าเราเกิดมาเพื่อทำสิ่งไหน รู้ว่าเรามีคุณค่าต่อโลกใบนี้ยังไง ทางด้านไหนบ้าง เมื่อมีอินเนอร์นี้แล้ว เราคือผู้หญิงที่เเข็งแกร่งจากภายใน มั่นใจ ในความสวยที่ไม่เพอร์เฟ็กต์ในแบบตัวเอง”
ELLE: หากมองภาพอนาคตในอีก 5 ปี 10 ปี คิดว่าภาพของแบรนด์ที่คุณเมย์มองไว้ อยากให้แบรนด์เติบโตไปในทิศทางไหน อะไรคือเป้าหมายสูงสุดในช่วงเวลานี้ของการทำแบรนด์
“ในอนาคตเมย์อยากภูมิใจในความเป็นแบรนด์ของเอเชียค่ะ Chato อยากเป็นโกลบอลแบรนด์ที่ทำให้โลกยอมรับว่าความเอเชียก็เท่นะ และประเทศไทยก็เป็นเมืองศูนย์กลางแห่งแฟชั่นได้เหมือนกัน”
ELLE: มีคำแนะนำอะไรสำหรับคนที่อยากจะลองสร้างธุรกิจด้วยตัวเอง หรือคนที่กำลังเริ่มต้นสร้างธุรกิจอยู่
“มีความฝันใหญ่ แต่เริ่มทำเองจากความจริง กล้าออกนอกกรอบ ล้มแล้วเรียนรู้และลุกใหม่ เพราะกล้าที่จะยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง เรียนรู้จากมัน ไม่อ้างอะไรที่แก้ไขไม่ได้ แต่หาสิ่งที่จะแก้ไขกับความผิดพลาดนั้นและทำใหม่ค่ะ ธุรกิจเป็นเรื่องท้าทายและไม่ตายตัว วิธีทำธุรกิจส่วนใหญ่จะสไตล์ใครสไตล์มันต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง และถ้าเราไม่ล้มบ้างพลาดบ้างเราก็จะไม่ได้เรียนรู้อะไรจากมันเลย อย่าท้อและสู้ต่อไปค่ะ”
ELLE: ในฐานะนักธุรกิจมีวิธีบาลานซ์ชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัวอย่างไร Work Life Balance ด้วยวิธีไหน
“เครียดก็พักค่ะ ไปเที่ยว ชอปปิ้ง อ่านหนังสือ นั่งสมาธิ เพราะงานของเมย์เป็นงานที่ต้องใช้ความครีเอทีฟด้วย เพราะฉะนั้นหัวต้องว่าง เพื่อคิดอะไรใหม่ๆ การบริหารจัดการความรู้สึกตัวเองเลยเป็นสิ่งสำคัญมากๆค่ะ ต้องคอยเช็กความรู้สึกตัวเองตลอด พอจิตนิ่งสงบไม่มีอะไรหน่วงเราก็ทำอะไรได้เยอะมากค่ะ”