คงไม่บ่อยครั้งนักที่จะมีปรากฏการณ์ใหญ่ๆ เกิดขึ้นในโลกป๊อปคัลเจอร์ แต่ในปี 2023 นี้กลับมีปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ที่ไม่มีใครคาดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อนอย่าง ‘Barbenheimer’ ซึ่งมันมาจากการฉายวันเดียวกันของภาพยนตร์ OPPENHEIMER และ Barbie จนเกิดเป็นมีมบนโลกออนไลน์มากมายนั่นเอง ซึ่งล่าสุดนี้ทาง Variety ก็ได้พานักแสดงนำสองคนอย่าง Margot Robbie และ Cillian Murphy มาจับเข่านั่งคุยกันถึงปรากฏการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น และเราก็ไม่พลาดที่จะสรุป 4 เรื่องสนุกๆ จากการพูดคุยกันครั้งนี้มาให้คุณได้ฟังกัน

1.การพบกันที่เกิดขึ้นจากคำขอของ Cillian Murphy
โดยปกติแล้วทาง Variety มีการจัดสัมภาษณ์ Actors on Actors เพื่อให้นักแสดง 2 คนมาพูดคุยอยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้ที่เป็นการพบกันระหว่างสองนักแสดงชื่อดังแห่งวงการฮอลลีวูดอย่าง Margot Robbie และ Cillian Murphy ก็ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่ทำให้โลกออนไลน์แตกตื่นอย่างแท้จริง เพราะในปีนี้มีกระแสของ ‘Barbenheimer’ แต่มันคงเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าหากคิลเลี่ยนไม่ได้เป็นฝ่ายขอไปก่อนว่าพอจะเป็นไปได้ไหมถ้าหากจะเป็นการพูดคุยกับมาร์โกต์ ซึ่งเมื่อทางวาไรตี้ติดต่อไปทางนักแสดงสาว เธอก็ Say Yes แบบไม่มีลังเล การพูดคุยครั้งนี้จึงเป็นการโคจรมาพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกของคู่นักแสดง Barbenheimer ไปโดยปริยาย

2.คอสตูมวันสัมภาษณ์กลายเป็น Barbenheimer โดยบังเอิญ
ในวันที่ทั้งสองคนมาพูดคุยกัน ทางทีมงานไม่ได้ระบุมาให้ว่าทั้งสองคนสวมใส่เสื้อผ้าตามสไตล์คาแร็กเตอร์ของตัวเอง แต่กลายเป็นว่าคิลเลี่ยนใส่ชุดสีดำ ส่วนมาร์โกต์ก็เลือกใส่สีชมพูโพลก้าดอตมาให้สัมภาษณ์ เลยกลายเป็นว่าแค่คอสตูมก็เป็นไปตามคอนเซ็ปต์ Barbenheimer อย่างไม่ตั้งใจนั่นเอง


3. วันปล่อยหนังที่เป็นวันเดียวกัน
ภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องนี้มีกำหนดการฉายวันแรกคือวันที่ 21 กรกฎาคม ซึ่งทางผู้กำกับโนแลนเลือกที่จะปล่อยในช่วงเวลาซัมเมอร์ เพราะเขามองว่านี่เป็นช่วงเวลาที่หนังบล็อกบัสเตอร์ต้องฉายและเขาก็ยึดถือคตินี้มาตลอด (ซึ่งที่ผ่านมาหนังของเขาก็เลือกฉายช่วงเดือนกรกฎาคมเกือบทั้งหมด) ส่วนเรื่อง Barbie แม้จะไม่ได้มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษแต่พวกเขาก็เลือกวันเดียวกันนี้

แต่เรื่องน่าสนใจก็คือทางนักแสดงสาวเพิ่งออกมาเล่าว่าหนึ่งในโปรดิวเซอร์ของ OPPENHEIMER ที่เธอเคยร่วมงานด้วยเคยโทรมาขอให้เธอเปลี่ยนวันฉาย ซึ่งเธอเล่าว่า “เขาก็โทรมาว่า.. ฉันคิดว่าพวกเธอควรเลื่อนวันฉายนะ แล้วฉันก็แบบ ‘ถ้ากลัวเรามากขนาดนั้น คุณก็ย้ายวันสิ’ แล้วเขาก็ตอบฉันมาว่า ‘เราไม่ย้ายหรอก ฉันแค่คิดว่า มันคงจะดีกว่าน่ะถ้าคุณเป็นฝ่ายย้ายวัน’ ฉันก็ยืนกรานกลับไปว่า ไม่เปลี่ยนวันหรอกนะ! จริงๆ ฉันคิดว่ามันเป็นการจับคู่ที่ดีด้วยซ้ำ ตีตั๋วคู่สองเรื่องได้เลยล่ะ”

อย่างไรก็ดี โปรดิวเซอร์คนนั้นเคยร่วมงานกับเธอมาแล้วหลายครั้ง มันไม่ได้เป็นคำสั่งหรือกึ่งบังคับ เพียงแค่เป็นคำแนะนำ เธอจึงนำมาเล่าให้แฟนๆ ฟังอย่างสนุกๆ ในบทสัมภาษณ์นี้ก็เท่านั้น
4 ฺBarbenheimer Phenomenon
ปรากฏการณ์ Barbenheimer เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกภาพยนตร์โดยบังเอิญ แต่มันกลายเป็นเทรนด์ไปทั่วโลก ไม่ว่าจะด้วยมีมต่างๆ การพูดถึงในโลกออนไลน์ ยอดรายได้ หรือการซื้อตั๋วหนังทั้งสองเรื่องเพื่อเข้าชมในวันเดียวกัน ซึ่งนักแสดงทั้งสองคนก็มองว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก

มาร์โกต์บอกว่าโลกเป็นคนทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเอง นี่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการตลาดเสียด้วยซ้ำไป ในขณะที่คิลเลี่ยนเองก็บอกว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะว่าหนังทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องที่ดี ยุคนี้เราไม่สามารถบังคับให้ใครไปชอบหรือดูอะไรได้ มันเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของแต่ละคนเอง และปรากฏการณ์นี้มันมีอะไรหลายอย่างที่เชื่อมโยงกันโดยที่แม้แต่เขาหรือมาร์โกต์ หรือใครก็ตามไม่สามารถคาดเดาหรือเข้าใจได้ และปรากฏการณ์แบบนี้มันอาจไม่เกิดขึ้นอีกเลยก็ได้ด้วยเช่นกัน

เราอาจสรุปได้ว่าปรากฏการณ์ Barbenheimer คือสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว มันสะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ของผู้คนกับโลกของหนังเป็นอย่างไร และภาพยนตร์สามารถเป็นได้มากกว่าสื่อบันเทิงทั่วไป เพราะมันไม่ได้แค่ถ่ายทอดเรื่องราวของสิ่งใดสิ่งหนึ่งออกมา แต่มันยังเป็นสิ่งที่เขียนลงหน้าประวัติศาสตร์โลกได้ว่าช่วงเวลาหนึ่งผู้คนทั้งโลกเคยสนใจหนังสองเรื่องที่มีความแตกต่างกันสุดขั้ว และภาพยนตร์สองเรื่องนี้ก็ยังมีคุณภาพและอาจกลายเป็นหนังตัวเต็งในงานประกาศรางวัลของปีหน้าได้ด้วยเช่นเดียวกัน
Source: 1