“น้ำหอมไม่ได้สำคัญแค่ชื่อเรียก ทรงขวดที่บรรจุ กลิ่น หรือแค่เป็นสิ่งสร้างเสน่ห์ให้กับลุคสวยแต่เพียงเท่านั้น” Thomas du Pré de Saint Maur, Global Creative Resources for Chanel Fragrance, Beauty, Watches and Jewely กล่าว “มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น โดยส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์ความรู้สึก ความมั่นใจ และช่วยเสริมสร้างจินตนาการ เรายังหวังให้น้ำหอมช่วยสร้างชีวิตชีวาให้กับทุกคนได้ด้วย” เพราะแบบนี้เอง ภายในปาเล่ส์ เอเฟแมร์ (Palais Ephémère) ณ เขตที่ 7 ของปารีส จึงถูกเนรมิตให้อยู่ในห้วงบรรยากาศของงานเฉลิมฉลองซึ่งเมื่อเหยียบย่างเข้าไปก็จะรู้สึกเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงและอรรถรสของการได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวแห่งน้ำหอมประจำแบรนด์ คือการสร้างประสบการณ์ การผจญภัยในโลกแห่งกลิ่นหอมระดับไอคอนมากกว่าการต้องอัดแน่นไปด้วยข้อมูลเชิงวิชาการ
เมื่อเดินสู่โถงกลางทรงกลมขนาดใหญ่ ก็จะเข้าใจถึงคอนเซ็ปต์ที่ Thomas du Pré de Saint Maur ตัวแทนของแบรนด์บอกไว้ว่า “ปล่อยใจฝัน” เพราะนอกจากจะเห็นนักเต้น contemporary dance ที่ยักย้ายท่วงท่าเสมือนกำลังบอกเล่าเรื่องราวของน้ำหอม Chanel ผ่านศาสตร์แห่งการเต้นรำของตัวเอง ยังเห็นขวดน้ำหอมสีขาวขนาดใหญ่ 5 ขวด ตัวแทนกลิ่นหอมระดับไอคอนซึ่งเป็นไฮไลต์สำคัญของ Chanel อย่าง No°5, Chance, Bleu de Chanel, Les Exclusifs และ Coco Mademoiselle กระจายอยู่รอบโถงทรงกลมนั้นอันเป็นการบอกใบ้ว่าเป็นช่องทางให้เราเข้าไปร่วมสนุกกับกิจกรรมแสนสนุกที่ซุกซ่อนอยู่ด้านหลังขวดน้ำหอมไซซ์ยักษ์แต่ละขวดนั้น ต่างจากนิทรรศการทั่วไปที่มักจะจัดเป็นทางเดินจาก 1 ไป 2 เสมือนเทศกาลงานรื่นเริงที่ปล่อยอิสระให้กับเราตามใจ
NUMBER 5
เราเลือกเดินเข้าห้องน้ำหอมขวดแรกของเมซง Chanel ก่อนอย่าง No°5 และสะดุดตากับห้องที่เสมือนจำลองโบสถ์นางชี Aubazine ที่กาเบรียล ชาเนล เติบโตขึ้น โดยเพดานทรงโดมด้านบนฉายภาพดวงดาวตามจักรราศี ภาพถ่าย และสัญลักษณ์ที่สื่อถึงแบรนด์และตัวมาดมัวแซลชาเนลโดยเฉพาะ รายล้อมไปด้วยห้องต่างๆ ที่ทั้งหมดสื่อถึงรากเหง้าของน้ำหอมขวดแรกในตำนานของแบรนด์ ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์ ขวดน้ำหอม ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ในสมัยก่อน ภาพแคมเปญโฆษณา
สเตชั่นที่พนักงานรุ่นเก่าแก่ของแบรนด์กำลังสาธิตการผนึกครั่งบนขวดน้ำหอม เรายังได้เห็นผลงานของศิลปินชื่อดังอย่าง Warhol หรือ Barceló ที่ได้น้ำหอม No°5 เป็นแรงบันดาลใจ ห้ามพลาดกับห้องไฮไลต์ที่ถ่ายทอดดีเอ็นเอของตัวน้ำหอมด้วยเทคโนโลยี AR ให้เราเดินทางไปพบกับมาดมัวแซลชาเนลในปี 1921 ที่ได้พบเจอกับ Ernest Beaux จนเกิดเป็นที่มาของ No°5
CHANCE
ส่วนที่ของน้ำหอมรุ่น Chance คือบรรยากาศแห่งเสียงดนตรีและและความเพลิดเพลินสนุกสนาน คุณจะได้เจอกับนักเต้นรำที่กำลังซักซ้อมอยู่ในห้องแต่งตัว ด้านข้างยังฉายเบื้องหลังภาพยนตร์โฆษณาที่มีการซักซ้อมท่วงท่าเต้นรำอันสร้างสรรค์โดย Jean-Paul Goude เล่นล้อกันไปด้วย
เมื่อเดินลึกเข้าไปสู่อีกห้องหนึ่งคือคาสิโนขนาดย่อมที่คุณจะได้มีโอกาสเสี่ยงดวงไปกับ Russian roulette และเกมอื่นๆ เพื่อแลกของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับไปด้วย
BLEU
นี่คือโซนของชายหนุ่มแห่งมหานครนิวยอร์กที่ซึ่งคุณจะได้พบกับโมเดลตึกระฟ้าจำลองในแมนฮัตตันเพื่อให้คุณรังสรรค์จังหวะดนตรีแห่งความหอมตามแบบฉบับของ Bleu de Chanel ภายในยังมีสเตชั่นที่เปิดโอกาสให้คุณแยกแยะความหอมของเหล่าน้ำหอมตระกูลนี้ เคล้าไปกับค็อกเทลหรือวิสกี้แก้วพิเศษ
COCO MADEMOISELLE
เมื่อเราเดินผลุบเข้าไปในห้องนี้จะรู้สึกสะดุดตาด้วยทางเดินโทนสีชมพูอันแสนคอนทราสต์ด้วยชานเดอเลียร์และลวดลายกราฟิตี้บนผนังทั้งสองด้าน ก่อนจะเข้าไปเจอกับห้องหมากรุกขนาดใหญ่และห้องทรงกลมที่ประดับตกแต่งไปด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับ และแน่นอน…น้ำหอม Coco Mademoiselle ที่สื่อถึงความเป็นสาวปาริเซียงแบบฉบับของน้ำหอมรุ่นนี้ที่มีความขี้เล่นและมีเสน่ห์น่าดึงดูด ก่อนที่จะพบทางออกแบบเดียวกับตอนเข้ามา ทว่าสะดุดตาด้วยโซนน่าถ่ายรูปที่เป็นโต๊ะกระจกพร้อมโทรศัพท์
LES EXCLUSIFS DE CHANEL
ห้องสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คือสารพันน้ำหอมในไลน์ Les Exclusifs ที่ภายในมีความมืดมากกว่าห้องไหนๆ เสมือนว่าให้คุณโฟกัสอยู่ที่เรื่องกลิ่นแต่เพียงเท่านั้น ที่นี่คุณจะพบกับสเตชั่นที่มีน้ำหอมทุกกลิ่นในไลน์นี้ เจ้าหน้าที่ดูแลจะถามถึงแนวกลิ่นที่คุณชื่นชอบ ก่อนจะเทสต์ความหอมของกลิ่นจนคุณพบกับกลิ่นหอมที่เหมาะกับตัวคุณจริงๆ
นิทรรศการครั้งนี้ยังปิดท้ายด้วยห้องจำหน่ายหนังสือ ของที่ระลึก และน้ำหอมคอลเล็กชั่นต่างๆ โดยเฉพาะเซ็ต Collectible Set ที่น่าซื้อหาไปเก็บสะสม เมื่อเดินออกมาอย่างมีความสุขโดยไม่รู้ตัว คุณจะค้นพบอีกว่าตั้งแต่กาเบรียล ชาเนลเป็นคนแรกที่ตั้งชื่อน้ำหอมอย่าง No°5 ซึ่งเป็นตัวเลข ต่างจากขนบนิยมการตั้งชื่อสละสลวยในสมัยนั้น เธอยังเลือกใช้เฟสเป็นเหล่าคนดังเป็นครั้งแรกเพื่อให้น้ำหอมแทนคุณค่าของวิถีชีวิตและสไตล์ประจำยุค อาทิ Marilyn Monroe, Catherine Deneuve และอีกมากมาย
ไม่น่าแปลกใจที่ทาง Chanel จึงได้เชื้อเชิญเฟสของน้ำหอม Chanel รวมไปถึง friend of the brand จากทั่วโลกมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้เพื่อร่วมสร้างตำนานอันมีชีวิตของน้ำหอม Chanel ให้คงอยู่ต่อไป ไม่ว่าจะเป็น Marion Cotillard, Carole Bouquet, Keira Knightley, Angèle, Lyna Koudri, Alma Jodorowsky, Seo-Jun Park รวมไปถึงนักแสดงชาวไทยอย่าง ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ และหมาก-ปริญ สุภารัตน์ ก็ไม่พลาดบินลัดฟ้ามาร่วมงานด้วยเช่นกัน
Le Grand Numéro de Chanel จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ Palais Ephémère, place Joffre, กรุงปารีส สามารถลงทะเบียนเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ www.grand-numero.chanel.com