Monday, November 11, 2024

เปิดเส้นทางชีวิตของ จูลี่ KISS OF LIFE จากนักบัลเลต์ สู่แร็พเปอร์สุดเฟียร์ซที่เต้นกระจาย

คอลัมน์ ELLE Crush เดือนพฤษภาคมนี้ แอลพาไปคุยกับ ‘KISS OF LIFE’ วงสุดยูนีกที่สุดวงหนึ่งในวงการเคป๊อป ด้วยเมมเบอร์อยู่ในวัย 20 ต้นๆ แต่เป็นเทรนนีมา 10 ปี เป็นนักแต่งเพลงที่มีผลงานกว่า 1,000 เพลง แม้เดบิวต์ได้ไม่ถึงปี แต่มงลงไปเลยว่า ‘Monster Rookie’ 

JULIE: Super Power Chilli

‘จูลี่’ ลีดเดอร์สาวที่จะหลอกคุณได้ด้วยร่างเล็กๆ และความหวานสุดเฟมินินของเธอ แต่ขึ้นเวทีเมื่อไร นักบัลเลต์จากเกาะฮาวายผู้นี้ทำให้คนดูตาค้างเสมอ เมื่อเธอกลายร่างเป็นแร็พเปอร์สุดเฟียร์ซที่เต้นกระจายราวกับไม่มีวันพรุ่งนี้

ELLE: จูลี่เป็นนักเต้นบัลเลต์มาตั้งแต่เด็ก อะไรที่ทำให้สนใจเรียนบัลเลต์

JULIE: ตอนเด็กๆ ฉันมีความสามารถพิเศษหลายอย่างมาก ชอบเต้น ชอบร้องเพลง จนคุณพ่อคุณแม่คิดว่าต้องให้ฉันไปทำอะไรสักอย่างแล้วละ พลังเยอะเหลือเกิน ก็เลยให้ไปเรียนบัลเลต์ค่ะ พอได้เรียนก็ชอบมากจนเรียนต่อเนื่องหลายปี

ELLE: การเป็นบัลเลรีนาส่งผลต่อการเป็นศิลปินเคป๊อปอย่างไรบ้าง

JULIE: จริงๆ แล้วบัลเลต์มีความอยู่ในกรอบพอสมควรเลยค่ะ มีท่าเต้นบังคับ พอได้มาเต้นสายฮิปฮอปและเค-ป๊อปก็รู้สึกเป็นอิสระมากๆ ฉันคิดว่าบัลเลต์ช่วยให้เส้นสายในการเต้นสวยงามด้วยค่ะ

ELLE: อยากฝึกการร้องในแนวเพลงอื่นๆ อีกบ้างไหม 

JULIE: ถึงแม้จะเป็นนักเต้นบัลเลต์แต่ฉันก็ชอบฟังเพลงแนวฮิปฮอปและอาร์แอนด์บีมาตั้งแต่อยู่อเมริกาแล้ว คุณพ่อของฉันชอบเพลงฮิปฮอปมากๆ อย่าง Eminem, Jay-Z และโอลด์สกูลฮิปฮอป ฉันคงซึมซับการฟังเพลงมาจากท่าน พอมาเป็นศิลปินฝึกหัดที่เกาหลีก็มีคนแนะนำว่าให้ฉันหัดแร็พดูไหม เห็นว่าฉันพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย พอได้ฝึกแร็พจริงๆ ปรากฏว่ามันเข้ากับฉันแฮะ รู้สึกเป็นธรรมชาติมากๆ เลย

ELLE: จูลี่เป็นเหมือนคุณแม่ของวง เพราะช่างดูแลใส่ใจคนอื่น เมมเบอร์แต่ละคนมีอะไรที่จูลี่คอยดูแลเป็นพิเศษบ้าง

JULIE: ส่วนมากแล้วฉันจะดูแลเมมเบอร์ด้านสภาพจิตใจและความรู้สึก อย่างนัตตี้มีประสบการณ์มาเยอะ ฉันเองจึงได้เรียนรู้อะไรมากมายจากนัตตี้ ฉันอยากจะเป็นพี่สาวที่สามารถซัพพอร์ตนัตตี้ได้ ส่วนเบลล์กับฮานึลยังเด็กอยู่และเพิ่งจะเป็นไอดอลได้ไม่นาน ฉันพยายามจะซัพพอร์ตทั้งสองคนในทุกทางที่ทำได้ค่ะ

ELLE: คนอื่นอาจคิดว่า จูลี่ดูแลตัวเองได้ แต่จริงๆ แล้วจูลี่อาจคิดในใจว่า ช่วยมาดูแลฉันในเรื่องนี้หน่อย หรือเปล่า

JULIE: (หัวเราะ) ฉันชอบเหมือนกันนะคะเวลามีคนมาดูแล มีบางช่วงเวลาที่ฉันเองก็รู้สึกเหนื่อย แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่น้องๆ เห็นว่าพี่เหนื่อย แค่นี้ฉันก็ดีใจแล้วค่ะ

ELLE: ข้อดีของการเป็นศิลปินฝึกหัดมา 6 ปี ทำให้จูลี่มีทักษะหลายด้าน อยากเพิ่มเติมทักษะใหม่ๆ ด้านไหนให้ตัวเองอีกบ้างสำหรับการเป็น JULIE ศิลปินวง KISS OF LIFE และการเป็น Julie Han

JULIE: ช่วง 6 ปีที่ฝึกฝนมาฉันตั้งใจมากๆ จนทำให้มีทักษะอย่างทุกวันนี้ได้ ในเรื่องการพัฒนาตัวเองนั้น ถ้าตั้งใจจริงก็จะพัฒนาได้อีกหลายด้านเลยค่ะ สำหรับการเป็น ‘ศิลปินจูลี่’ ฉันอยากพัฒนาเรื่องการร้องเพลงค่ะ ในอนาคตฉันอาจจะเป็นศิลปินเดี่ยวก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแร็ปเปอร์เท่านั้น จึงอยากเรียนรู้ดนตรีให้กว้างและหลากหลายมากขึ้นค่ะ

ส่วนในความเป็น ‘Julie Han’ มีอะไรเยอะมากเลยค่ะที่อยากเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร ศิลปะ หรือแฟชั่น ถ้ามีโอกาสก็อยากจะศึกษาด้านแฟชั่นในเชิงที่เป็นโปรเฟสชั่นแนลดูค่ะ

ELLE: อยากให้ KISS OF LIFE ทดลองสไตล์ใหม่ๆ แบบไหนอีกบ้าง

JULIE: ในฐานะศิลปินเค-ป๊อปก็อยากทดลองสไตล์ใหม่ๆ เมมเบอร์ของเรามาจากหลากหลายวัฒนธรรมด้วย อย่างนัตตี้มาจากเมืองไทย ฉันมาจากฮาวาย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะลองสไตล์ Island Girls เป็นสาวชาวเกาะกันค่ะ!

ELLE: ก่อนจะเดบิวต์ จูลี่ทำพรีเซนเทชั่นสิ่งที่ตัวเองต้องการไปนำเสนอต่อค่าย ปกติแล้วเป็นคนชอบวางแผนก่อนจะทำอะไรเสมอหรือเปล่า

JULIE: ปกติแล้วเป็นคนชอบวางแผนเป๊ะๆ มากเลยค่ะ แต่พอเดบิวต์แล้วกลับเปลี่ยนไป ถ้ามองในแง่ของ MBTI แต่ก่อนฉันเป็น J แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น P เลิกวางแผนแล้วค่ะ (หัวเราะ) เพราะมีอะไรหลายอย่างในตารางการทำงานที่วางแผนไว้อยู่แล้วว่าต้องทำ ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยชิลไปเถอะ แต่อะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวฉันค่อยวางแผนค่ะ

ELLE: จูลี่เป็นสาวเอวบางร่างเล็ก แต่พออยู่บนเวทีกุมความสนใจของคนดูได้อยู่หมัด ทำอย่างไรให้การแสดงของตัวเองโดดเด่นแบบที่ร่างกายไม่เป็นข้อจำกัดเลย

JULIE: ‘อย่าลังเล’ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นท่อนร้อง การแร็พ หรือการเต้น ต้องไม่ลังเลและมั่นใจที่จะทำสิ่งเหล่านั้นออกไปค่ะ 

ELLE: KISS OF LIFE หมายถึงการส่งต่อลมหายใจใหม่ๆ ให้กับวงการเคป๊อป แล้ว KISS OF LIFE มอบอะไรแปลกใหม่ให้กับชีวิตของจูลี่บ้าง

JULIE: KISS OF LIFE เป็นทุกอย่างของฉันค่ะ KISS OF LIFE = จูลี่ สองอย่างนี้แยกจากกันไม่ได้ มันคือตัวตนของฉัน

ELLE: ด้วยมาจากฮาวาย จูลี่อยากไปเที่ยวเกาะไหนในเมืองไทยบ้างไหม ทะเลไทยสวยนะ

JULIE: (ทำตาโต) ยังไม่เคยไปเที่ยวทะเลเมืองไทยเลยค่ะ แต่ที่ผ่านมานัตตี้บอกตลอดว่าอยากพาไปเที่ยวทะเลไทย ฉันคิดว่าฮาวายกับเมืองไทยคล้ายกันหลายอย่างนะคะ มีความเขียวและอากาศร้อนเหมือนกัน ฉันสังเกตว่าประเทศที่อากาศร้อนผู้คนจะชิล ผ่อนคลาย พอมาเมืองไทยก็เลยรู้สึกว่าเหมือนได้กลับไปฮาวาย แฮปปี้ทุกครั้งที่ได้มาเมืองไทยค่ะ

Latest Posts

Don't Miss

Stay in touch

To be updated with all the latest news, offers and special announcements.