สำหรับชีวิตของผู้คนในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย การมีงานศิลปะกลางกรุงให้แวะชมคงเป็นอะไรที่ฮีลใจได้ไม่น้อย ซึ่งตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ทุกคนจะได้พบกับ ‘Jae Yong Kim Exhibition’ ผลงานจากศิลปินชาวเกาหลีผู้หยิบยกของหวานสุดคลาสสิกอย่าง โดนัท มาแต่งแต้มสีสันเป็นงานเซรามิกทำมือที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ซึ่งจัดแสดงในธีม ‘Donut Fear’ ให้ทุกคนได้ชมกันอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ณ Central Embassy
และก่อนที่ทุกคนจะไปร่วมถ่ายรูปเช็กอินเติมความหวานกันในงานนี้ แอลได้พูดคุยกับแจยงคิมถึงเบื้องหลังการทำงานของเขาตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงความพิเศษของผลงานที่กรุงเทพในครั้งนี้ด้วย
Q: ทำไมถึงเลือกทำเซรามิกเป็นรูปโดนัท มีเรื่องราวเบื้องหลังที่มาอย่างไร ?
Jae Yong Kim: ก่อนอื่นเลยคือผมเรียนเกี่ยวกับการทำงานประติมากรรมอยู่แล้ว ซึ่งจุดเริ่มต้นมันคือตอนช่วงปี 2008 ที่เพื่อนของผมในนิวยอร์กชวนให้เปิดร้านโดนัท เพราะตอนนั้นมันเป็นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำรวมถึงผมก็ชอบโดนัทอยู่แล้วด้วย แต่ผมมาคิดว่าเราแค่ใช้โดนัทเป็นสัญลักษณ์หรือสื่อกลางสำหรับสิ่งที่ผมทำได้ดีดีกว่า ผมเลยเลือกใช้สิ่งนี้มาเป็นสร้างผลงานที่จะทำให้ทุกคนอยากมีหรืออยากใช้มัน ด้วยเสน่ห์ของโดนัทเองที่เป็นขนมที่กินชิ้นเดียวไม่เคยพอ บวกกับการที่ผมมาตระหนักได้หลังจากลองทำโดนัท 2 ชิ้นมาติดตั้งบนกำแพงว่า มันน่าจะเล่าเรื่องอะไรได้มากกว่านี้ เพราะในเมื่อทุกๆ คน(ที่จะมาชมงาน)ก็มาจากแต่ละพื้นที่ มีความชอบ มีความเฉพาะตัวเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นเราจะทำให้โดนัททุกชิ้นแตกต่างกันไปเลย โดยไม่ว่าจะเป็นด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ แฟชั่น ธรรมชาติ พื้นเพ หรือสิ่งใดก็ตามที่จะสะท้อนถึงตัวตนของมนุษย์ได้ ผมก็พยาพยามที่จะใส่มันลงไปในลวดลายของโดนัทครับ
Q: ‘Jae Yong Kim Exhibition’ ที่จัดแสดงในประเทศไทยครั้งนี้ มีความพิเศษตรงไหนบ้าง และแรงบันดาลใจของงานชิ้นพิเศษนี้มาจากอะไร ?
Jae Yong Kim: ก่อนหน้าการจัดนิทรรศการนี้ผมได้ศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศไทยมาก่อน รวมถึงในความทรงจำของผม ประเทศไทยเหมาะกับสีสันที่หลากหลาย มีชีวิตชีวา และเมื่อพูดถึงประเทศไทย ตัวผมเองจะนึกถึงวัด เลยเลือกใช้สีทองมาวาดเป็นลวดลายในหลายๆ ชิ้นมากเป็นพิเศษ และเพิ่มเติมคือในฐานะศิลปินเองผมเป็นคนตาบอดสีด้วย ซึ่งผมใช้เวลานานนับปีในการศึกษาเรื่องการใช้โทนสีต่างๆ ผ่านทางนิตยสารแฟชั่น จนได้จัดแสดงงานแรกที่นิวยอร์กโดยมีโดนัทกว่า 700 ชิ้น และได้ผลตอบรับที่ดีมากจนทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้น ผมเลยอยากเน้นการใช้สีที่เคยเป็นจุดอ่อนมาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะที่มีทั้งความแตกต่างและความสนุกสนานครับ
Q: ‘A Glazing Gallery’ คืออะไร ?
Jae Yong Kim: A Glazing Gallery คือการรวมตัวกันของโดนัทหลายรูปแบบ ซึ่งความพิเศษอยู่ที่โดนัทรูปทรงขนาดใหญ่ 1 เมตร ที่เป็นความท้าทายอย่างมากเพราะปกติตัวผมเองทำโดนัทชิ้นเล็กมาตลอด 15 ปี รวมถึงยังมีงานปริ้นต์แบบ 2D ที่ผมไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งใช้คริสตัลมาช่วยสร้างสีสันและความสวยงามเช่นกันครับ
Q: เสน่ห์ของงานศิลปะในมุมมองของแจยงคิมคืออะไร?
Jae Yong Kim: สมัยที่ผมยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ผมมีโอกาสได้ไปสอนเลกเชอร์และจัดแสดงงานในหลากหลายที่ แต่สิ่งที่สังเกตได้คือความชอบของเหล่าเด็กๆ ที่ไม่ว่าคนไหนที่ได้เห็นผลงานศิลปะก็จะมีความสุขอยู่เสมอ ซึ่งเป็นที่กินใจผมมาก รู้สึกทั้งตกใจและตื่นเต้นกับสิ่งที่เด็กๆ แสดงออกมาให้เห็น มันทำให้ผมรู้สึกว่าอยากทำงานให้ดูสนุกขึ้น สดใสขึ้น เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กๆ มีรอยยิ้มออกมา
นอกจากนี้ในหลังจากช่วงโควิดผมรู้สึกถึงความเศร้า และความโหยหาความสุขของผู้คน ซึ่งการที่งานของผมทำให้คนมากมายรู้สึกดีขึ้นมาได้ก็เป็นเรื่องที่เป็นกำลังใจให้ผมมากๆ เลยครับ
Q. เคยมองภาพตัวเองไหมว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า อยากให้ตัวเองไปอยู่ในจุดไหน หรืออยากให้ผลงานของตัวเองพัฒนาไปถึงจุดไหน?
Jae Yong Kim: ก็คงเหมือนกับทุกๆ คน หลังจากผ่านช่วงโรคระบาดมาผมรู้สึกขี้เกียจขึ้นนิดหน่อย น้ำหนักขึ้นมาเยอะเลยด้วย (หัวเราะ) อันที่จริงหลังจากไปมิวเซียมหลายๆ ประเทศและทำงานคอลาบอเรชั่นหลายครั้ง ผมคิดว่าอีก 5 ปีผมน่าจะยังมีเอเนอร์จี้อยู่มาก ยังอยากจะส่งต่อรอยยิ้มให้กับผู้คนผ่านของหวานนี้ไปเรื่อยๆ ผมอยากจะจัดนิทรรศการที่ใหญ่กว่านี้ไปทั่วโลกเท่าที่ผมจะทำได้ อยากลองโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นกว่านี้ อาจจะในประเทศไทย อินโดนีเซีย หรือร่วมมือกับผู้จัดงานในแถบเอเชีย ไปพร้อมๆ กับการทำงานเป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยของเกาหลีไปเรื่อยๆ เพราะผมน่าจะยังสนุกกับมันอยู่ แต่อีกสัก 10 ปีผมอาจจะเกษียณในประเทศไทย เคยวาดฝันว่าถ้าอยู่ท่ามกลางของอร่อย อยู่ติดทะเลก็น่าจะดีครับ