ณ เวลานี้ หากพูดถึงแฟชั่นที่นำพาคนเข้าสู่โลกศิลปะ ก็ต้องพูดถึง MSCHF กลุ่มสตาร์ตอัพด้านศิลปะและดีไซน์จอมป่วน ที่เป็นเหมือนโรงงานสร้างสรรค์ไอเดียแหวกแนว พร้อมจะเสียดสีโลกใบนี้ในเชิงความแปลกใหม่ผ่านผลงานดีไซน์หลุดโลก จนกลายเป็นไวรัลในโลกอินเตอร์เน็ตอย่างสม่ำเสมอ อย่าง Big Red Boots, Birkinstock หรือ Satan Shoes วันนี้แอลจึงอยากจะชวนมาทำความรู้จักกับพวกเขา และผลงานที่หลายๆ คนคงจะคุ้นตาแต่อาจจะไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มนี้
MSCHF อ่านว่า มิส-ชีฟ เป็นชื่อเรียกของกลุ่มสตาร์ตอัพที่รวมตัวของเหล่าคนสร้างสรรค์สายปั่นจากนิวยอร์ก ริเริ่มโดย Gabriel Whaley อดีตพนักงานบริษัท BuzzFeed ที่ผันตัวมาทำโปรเจกต์ศิลปะ แฟชั่นและการออกแบบ เพื่อเสียดสี ก๊อปปี้ รวมถึงดัดแปลงสินค้าจากแบรนด์ดัง จนเป็นที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
โปรเจ็กต์แรกๆ ของพวกเขาเริ่มต้นด้วยการนำเสนอผลงานเสียดสีสังคม หลังจากนั้นก็เริ่มลามเข้ามาสู่โลกของแฟชั่น ด้วยการนำโปรดักส์ของแบรนด์ต่างๆ มาดีไซน์ล้อเลียน ผสมผสานศิลปะ มีม หรือคอนเซ็ปต์ร่วมสมัยลงไป ซึ่งผลงานที่ออกมานั้นโดนใจแบรนด์และศิลปินเบอร์ใหญ่หลาย ๆ คนถึงขั้นชวนมาร่วมคอลแลบ และไม่ถูกจนถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลยทีเดียว ฉะนั้นแอลจะพาคุณย้อนกลับไปทำความรู้จัก 5 ผลงานสุดไวรัลที่สร้างชื่อเสียงให้กับพวกเขาไม่น้อยกันเลย
Red Big Boots

รองเท้าบู๊ตสีแดงคู่ยักษ์ ผลงานชิ้นโบว์แดงของพวกเขา ที่ใครหลายๆ คนเห็นครั้งแรกก็อาจจะนึกถึงรองเท้าของเจ้าหนูอะตอมหรือ Astro Boy แต่จริงแล้วๆ รองเท้าคู่นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าของตัวการ์ตูนบูตส์ เพื่อนรักของดอร่าในเรื่อง Dora the Explorer ด้วยดีไซน์ที่แหวกแนวและกลยุทธ์การตลาดสุดปัง ทำให้รองเท้าเป็นที่ถูกใจของสายแฟหลายๆ คน และเกิดเป็นไวรัลสุดฮิตไปทั่วโลกออนไลน์ นอกจากนี้ความฮอตของรองเท้าคู่นี้ยังทำให้แบรนด์รังสรรค์ผลงานในลักษณ์ออกมาอีกมากมายและมีโอกาสร่วมคอลแลบกับแบรนด์สนีกเกอร์แถวหน้าของวงการอีกด้วย
Severed Spots

Severed Spots
โปรเจ็กต์ Severed Spots ที่ต้องการให้งานศิลปะไม่ใช่เรื่องของคนรวย แต่เป็นของทุกคน เพื่อเสียดสีกลุ่มนักสะสมและนักลงที่มักเก็บผลงานของเหล่าศิลปินที่มีชื่อเสียงไว้เชยชมกันเอง โดยพวกเขาซื้อภาพพิมพ์จุดสี L-Isoleucine T-Butyl Ester (2018) ของ Damien Hirst มาในราคา 30,485 เหรียญสหรัฐ แล้วนำมาตัดแบ่งออกทีละจุดทั้งสิ้น 88 จุด พร้อมกับเซ็นชื่อกลุ่มลงไปและวางขายทางออนไลน์ชิ้นละ 480 เหรียญสหรัฐ นอกจากนี้พวกเขายังนำกระดาษภาพพิมพ์ที่ถูกตัดจุดสีออกไปจนหมดมาประมูลขายได้ในราคา 261,400 เหรียญสหรัฐ
Birkenstock

รองเท้าแตะที่มีราคาแพงที่สุดในโลกกับการนำรองเท้า Birkenstock ที่ใครๆ ก็รู้จักมาปรับเปลี่ยนวัสดุให้กลายเป็นสินค้าลักซูรี่ จากการนำกระเป๋า Hermès Birkin มาแยกออกเป็นชิ้นๆ พร้อมกับสลักโลโก้ Hermès สีทอง ก่อนจะนำมาตัดเย็บเป็นสายพาดรองเท้า และประกอบเข้ากับตัวพื้นไม้ก๊อก ซึ่งราคารองเท้าคู่นี้มีมูลค่าถึง 34,000-76,000 เหรียญสหรัฐ เหตุผลในการเลือกใช้กระเป๋า Birkin มาทำเป็นวัสดุเพราะกระเป๋าใบนี้เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่แสดงออกถึงความร่ำรวย และเพื่อตั้งคำถามต่อวัฒนธรรมบริโภคนิยมในสังคมปัจจุบัน
Microscopic Louis Vuitton Bag

พวกเขายังไม่หยุดนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ขั้นสุดให้กับโลกแฟชั่น ด้วยการนำเสนอกระเป๋าใบจิ๋วเฉดสีนีออน ขนาด 657 x 222 x 700 ไมโครเมตร ที่เล็กจนเกือบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ผลงานชิ้นนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่องานประมูล Just Phriends โดยบริษัทประมูล Joopiter ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นโดย Pharrell Williams หัวเรือใหญ่คนใหม่ล่าสุดของ Louis Vuitton ฝั่งเสื้อผ้าผู้ชาย นอกจากนี้กระเป๋าใบนี้ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากลายโมโนแกรม LV ที่เป็นลวดลายสุดไอคอนิกของแบรนด์โดยได้รับความยินยอมจากทางแบรนด์เรียบร้อยแล้ว
Satan Shoes with Lil Nas X

ผลงานการดัดแปลงส่วนใหญ่ของพวกเขาจะไม่ค่อยถูกฟ้องร้อง แต่ไม่ใช่กับ Satan Shoes ผลงานการคอลแลบร่วมกับ Lil Nas X จำนวนจำกัด 666 คู่เท่านั้น ที่ผลิตจากโมเดลรองเท้า Nike Air Max 97 พร้อมกับมีการนำเลือดมนุษย์จริงผสมกับหมึกสีแดงใส่เข้าไปบริเวณส้นรองเท้า ซึ่งคู่นี้ถูกวิพากษ์อย่างหนักจากการเสียดสีเรื่องความเชื่อส่วนบุคคลเกี่ยวกับศาสนา แถมยังตกเป็นข่าวจน Nike ต้องออกมาฟ้องร้องเรื่องการละเมิดเครื่องหมายการค้าและทำให้เสียชื่อเสียง แต่ข่าวฉาวที่เกิดขึ้นกลับทำให้ชื่อเสียงของ MSCHF เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ซึ่งผลสุดท้ายไนกี้ชนะคดีและทำให้พวกเขาต้องยกเลิกการขายรองเท้าทั้งหมด
Text: NATITON CHINNABHAD
Cover Photo Courtesy: MSCHF