Wednesday, January 15, 2025

Cartier and Women ผู้หญิงและอิทธิพลของพวกเธอในโลกแห่งเครื่องประดับอัญมณีของ Cartier

ผู้หญิงและเครื่องประดับย่อมเป็นของคู่กัน จึงไม่ต่างไปจากความหลงใหลอื่นๆ ที่พวกเธอนั้นมักให้ความสนใจ และหลายต่อหลายครั้งยังส่งอิทธิพลสำคัญต่อการสร้างสรรค์สิ่งเหล่านั้นเสมอ ด้วยเหตุนี้ เรื่องราวของผู้หญิง และเหล่าตำนานของเครื่องประดับอัญมณีชิ้นเอก อย่าง Cartier จึงถักทอเป็นดั่งเรื่องราวอันทรงอิทธิพลในหน้าประวัติศาสตร์ ทั้งยังมิอาจแยกออกจากกันได้

เพื่อสะท้อนถึงเรื่องราวความผูกพันเช่นนี้ คาร์เทียร์จึงได้ร่วมกับพิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง (Hong Kong Palace Museum: HKPM) จัดนิทรรศการใหญ่ครั้งแรกของโลกใน Cartier Collection Exhibition: Cartier and Women ด้วยเนื้อหาหลักที่ถ่ายทอดถึงบทบาทและอิทธิพลของผู้หญิงตลอดช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ พร้อมทั้งสะท้อนสุนทรียศาสตร์และวัฒนธรรมแบบจีนที่มีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ของผู้หญิง ตลอดจนวิวัฒนาการของแฟชั่นทั่วโลก

นิทรรศการนี้จึงว่าด้วยบทบาทและอิทธิพลของผู้หญิงในประวัติศาสตร์ของคาร์เทียร์โดยการนำผลงานล้ำค่า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับอัญมณี เรือนเวลา ศิลปวัตถุ หรือของตกแต่ง รวมทั้งบันทึกจากคลังผลงาน นับย้อนกลับไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน มาจัดแสดงให้ผู้ที่สนใจได้ชม ผ่านพื้นที่ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก แต่ละส่วนแสดงถึงแนวคิดแตกต่างกัน นับจากส่วนแรกของ ‘Royal and Aristocratic Women: Elegance and Prestige’ ที่สะท้อนความสง่างามและเกียรติภูมิของเหล่าเชื้อพระวงศ์และสตรีชั้นสูงในยุคแรก ณ ช่วงศตวรรษที่ 19 ของคาร์เทียร์ต่อด้วยส่วนที่ 2 ‘New Women: Breaking with Tradition’ หญิงยุคใหม่ที่ไม่ยึดติดกับม่านประเพณีเดิม แต่พร้อมสำรวจถึงพรมแดนใหม่ๆ ของงานออกแบบจิวเวลรี สะท้อนถึงการปลดแอกสตรีที่ส่งอิทธิพลต่อโลก

ขณะที่ส่วนที่ 3 ‘Inquisitive Women: Cross-cultural Inspirations’ ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้หญิงที่แสวงหาความรู้รอบตัวอยู่เสมอ รวมถึงแรงบันดาลใจข้ามวัฒนธรรม อันเป็นที่มาของอิทธิพลแห่งศิลปะจีนและดินแดนอื่นๆ ต่อผลงานสร้างสรรค์ของคาร์เทียร์ และส่วนสุดท้าย ‘Influential Women: Glamorous Legends’ เชิดชูสตรีผู้ทรงอิทธิพล พร้อมทั้งสำรวจถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างเครื่องประดับ Cartier กับสตรีสมัยใหม่และสตรีร่วมสมัย โดยผลงานชิ้นเด่นส่วนหนึ่งยังมาจากคอลเล็กชั่นส่วนตัวของสตรีระดับบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียง เช่น Grace Kelly หรือเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโก รวมถึงนักแสดงผู้เป็นตำนานแห่งไอคอนที่ทรงอิทธิพลต่ออิสตรี อย่าง Elizabeth Taylor, Brigitte Lin และ Carina Lau

กับอีกหนึ่งในไฮไลต์ของนิทรรศการ ย่อมเป็นเรื่องราวของ Jeanne Toussaint สตรีผู้บุกเบิกในสังคมชายเป็นใหญ่สมัยต้นศตวรรษที่ 20 และเป็นหนึ่งในสตรีที่ปฏิวัติวงการจิวเวลรีสมัยใหม่ หลังจากที่เธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสร้างสรรค์สตรีคนแรกของ คาร์เทียร์ในปี 1933 Jeanne Toussaint ออกแบบเข็มกลัด Panthère ขึ้นในปี 1949 และ Duchess of Windsor ได้ซื้อไปครอบครอง ซึ่งนั่นนับเป็นผลงานที่กำหนดนิยามใหม่ของจิวเวลรีที่มีความหมายต่อผู้หญิง และนี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของมรดกที่ Jeanne Toussaint ได้สร้างไว้

คลิปเข็มกลัด Panthère ปี 1949 ทำจากแพลทินัม ไวต์โกลด์ ประดับเพชรและแซปไฟร์ จากคอลเล็กชั่นส่วนตัวของ Duchess of Windsor

ความประทับใจของนิทรรศการครั้งนี้ ยังรวมไปถึงการจัดแสดงชิ้นงานจิวเวลรีที่หาชมได้ยาก โดยเฉพาะบรรดาเทียร่าในยุคแรกๆ ของคาร์เทียร์ซึ่งสะท้อนถึงความหลงใหลในเครื่องประดับของสตรี และความกล้าหาญที่จะเผยความชื่นชอบของพวกเธอเอง แม้ท่ามกลางสังคมที่ไม่ได้เปิดกว้างให้กับการแสดงออกของผู้หญิงมากนัก นอกจากนี้ ยังมีอีกหลากหลายเรื่องราวที่เชื่อมโยงคาร์เทียร์และผู้หญิงอย่างที่เราไม่เคยได้รับรู้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น ในเชิงอิทธิพลของสไตล์การสร้างสรรค์ การก่อกำเนิดของเทคนิคการตกแต่ง ตลอดจนการค้นพบระหว่างวัสดุและอัญมณีล้ำค่าที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว และที่ขาดไม่ได้คือสุนทรียะแห่งวิจิตรศิลป์ที่ถ่ายทอดจากวัฒนธรรมและศิลปะแบบจีนอันมีอิทธิพลต่อผู้หญิงไม่เพียงเฉพาะในจีน แต่ยังรวมถึงต่อผู้หญิงทั่วโลกอย่างไม่รู้ตัว

นอกเหนือจากมรดกของผลงานสร้างสรรค์จากประวัติศาสตร์ที่สะท้อนศิลปะวัฒนธรรมอันทรงอิทธิพลแล้ว ยังมีการจัดแสดงผลงานของคอลเล็กชั่นคาร์เทียร์ที่ถ่ายทอดถึงจุดบรรจบของวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก การเปลี่ยนแปลงเชิงสังคม รวมทั้งเทรนด์แฟชั่นในยุคสมัยต่างๆ ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา คอลเล็กชั่นของคาร์เทียร์ได้นำไปจัดแสดง ณ สถาบันวัฒนธรรมอันทรงเกียรติสูงสุดของโลกกว่า 30 สถาบัน รวมทั้งพิพิธภัณฑ์พระราชวัง ซึ่งจัดแสดงมาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 2009 และ 2019 ขณะที่ทางพิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกงจะจัดรายการด้านการศึกษาหลายรายการขึ้นควบคู่ไปกับนิทรรศการ ไม่ว่าจะเป็นการบรรยายทางวิชาการ การฉายภาพยนตร์ การแสดงดนตรีนาฏศิลป์ และเวิร์กช็อปงานศิลปะ พร้อมทั้งสนับสนุนบัตรเข้าชมนิทรรศการแก่ผู้ด้อยโอกาสจำนวน 5,000 ใบ

นิทรรศการครั้งนี้เปิดแสดงภายใน Gallery 8 ณ พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน – 14 สิงหาคม 2023 และจำหน่ายบัตรสำหรับผู้ที่สนใจ ที่เรามองว่าหากคุณเองมีความหลงใหลในศิลปะ วัฒนธรรม และสุนทรียศาสตร์ที่ถ่ายทอดผ่านเครื่องประดับอัญมณีอันเปี่ยมด้วยความหมายเชิงประวัติศาสตร์แล้ว นิทรรศการครั้งนี้จะเป็นหมุดหมายหนึ่งที่ผู้หญิงไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชม

Latest Posts

Don't Miss