อย่างที่รู้กันว่าปีนี้มีการเปลี่ยนมือของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์หลายแบรนด์ ราวกับทุกคนกำลังเล่นเกมเก้าอี้ดนตรี ท่ามกลางสายตาของคนใครหลายคนที่อยากเห็นผลงานคอลเล็กชั่นแรกของเหล่าดีไซเนอร์ไม่ว่าจะเป็น Dior โดย Jonathan Anderson หรือ Versace โดย Dario Vitale และเหมือนว่าพวกเขาจะเริ่มปล่อยสปอยล์ให้เราได้เห็นเรื่อยๆ ล่าสุด Venice Film Festival ปีนี้กลายเป็นสนามทดลองวิสัยทัศน์ของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ ก่อนที่คอลเล็กชั่นเต็มจะเผยโฉม ความตื่นเต้นเริ่มจากลุคบนพรมแดงของคนดัง ซึ่งกลายเป็น ‘ตัวแทน’ ของคอลเล็กชั่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Dior by Jonathan Anderson
สำหรับ Jonathan Anderson การปรากฏตัวของ Dior บนพรมแดง Venice ปีนี้ไม่ใช่โชว์เต็ม แต่เป็นการ ‘ส่งสัญญาณ’ ของคอลเล็กชั่นที่กำลังจะมาถึง ลุคที่คนดังใส่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนของงานคราฟต์และความร่วมสมัย ความพอดีของเส้นสายและสีสันบอกเล่าเรื่องราวที่ชัดเจน Dior ยังคงเคารพประวัติศาสตร์ของแบรนด์ แต่ผสมผสานเข้ากับความเป็นสมัยใหม่
มู้ดของลุคค่อนข้างละมุน แต่ไม่หวานเกินไป มีความเท่ในรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ เช่น เทคนิคการตัดเย็บที่ประณีต หรือการจับคู่วัสดุที่ไม่คาดคิด ทำให้คนดูเริ่มเดาได้ว่า คอลเล็กชั่นเต็มจะเต็มไปด้วยซิกเนเจอร์สไตล์ของ Jonathan Anderson ที่ผสมผสานความสง่างามแบบคลาสสิกและความสดใหม่แบบร่วมสมัย กลยุทธ์การใช้คนดังของ Dior น่าสนใจตรงที่ ลุคเพียงตัวเดียวสามารถสื่อสารคอนเซ็ปต์ของคอลเล็กชั่นได้ทันที แต่อีกด้านหนึ่ง การให้คนดังเป็นตัวแทนลุคอาจทำให้ผู้ชม ‘ตัดสินก่อนเวลา’ และลดความตื่นเต้นของการเปิดตัวเต็ม
Versace by Dario Vitale
Versace ของ Dario Vitale เลือกเสิร์ฟลุคที่คาดไม่ถึงในลุคที่ดูเรียบง่ายและเนี้ยบขึ้นด้วย เดรสยาวทรงเข้ารูปได้รับการตัดเย็บด้วยผ้า Crepe de chine สี Navy ประดับลวดลาย Damier ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตด้วยการปักด้ายไหมสีดำ และยังมีลายเซ็นของความเป็น Versace กับลวดลายตารางที่มีความคลาสิกผสมกลิ่นอายความ ’80s เพราะปกติแล้ว Versace จะเลือกเสิร์ฟ ความจัดจ้านเป็นหลัก มีสีสันและเท็กซ์เจอร์สะดุดตา Dario Vitale อาจจะกำลังทำสิ่งใหม่ๆ ที่ต่างออกไปทุกรายละเอียดเหมือนถูกออกแบบมาให้กลายชิ้นงานที่สร้างความแปลกต่างจากความเป็นขี้เล่น แต่งตัวจัดกลับถูกลดทอนให้เป็นสาวมั่นใจในแบบของตังเอง แค่นี้ก็แทบอดใจที่จะเห็นคอลเล็กชั่นแรกของ Dario Vitale ที่ Versace ไม่ไหวแล้ว
Bottega Veneta by Louise Trotter
Bottega Veneta ของ Louise Trotter เลือกสื่อสารผ่านความเรียบง่าย แต่ละลุคสะท้อนความประณีตและละเอียดอ่อนของแบรนด์ Mood ของชุดสงบและมีโครงสร้าง ชวนให้ผู้ชมเริ่มซึมซับความคิดสร้างสรรค์ทีละขั้น เท็กซ์เจอร์และเส้นสายของชุดบอกเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อน Louise Trotter ใช้ลุคคนดังเป็นการแนะนำแนวทาง แต่ไม่ได้เร่งเร้าแฟนแฟชั่นมากเกินไป ทำให้เกิดความอยากติดตามว่าคอลเล็กชั่นเต็มจะเผยรายละเอียดอย่างไรต่อไป
การใช้คนดังเป็นเครื่องมือสร้างกระแสมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือสร้างความสนใจทันที ลุคใดๆ อาจกลายเป็นไวรัล และทำให้แบรนด์โดนเปิดการมองเห็นมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการเลือก Venice Film Festival ใช้เป็นพื้นที่ในลองเชิงเพราะอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ใกล้จะถึงแฟชั่นวีคในไม่อีกกี่วัน แต่ในทางกลับกันคอลเล็กชั่นเต็มอาจถูกตัดสินก่อนเวลา แฟนแฟชั่นอาจเห็นเพียงลุคเดียวแล้วสรุปว่ารู้ทุกอย่าง ทั้งๆ ที่ดีไซเนอร์ตั้งใจให้คอลเลกชั่นเต็มบอกเรื่องราวที่สมบูรณ์