Saturday, October 11, 2025

Fred Soleil d’Or Sunrise เครื่องประดับชั้นสูงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแสงแห่งดวงตะวัน

นับตั้งแต่ปี 1936 เมซงนักรังสรรค์เครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงจากฝรั่งเศสอย่าง Fred ได้ปรากฏโฉมขึ้นพร้อมด้วยผลงานสร้างสรรค์จิวเวลรี่ชิ้นเอกที่ทรงคุณค่า ทั้งทางด้านงานออกแบบ การคัดสรรอัญมณี และการถ่ายทอดเรื่องราวอันชวนให้หลงใหล โดยเฉพาะเบื้องหลังของแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ชิ้นงานต่างๆ ที่ต่างก็นำเสนอและผ่านการตีความได้อย่างวิจิตร จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวภายในคอลเล็กชั่นต่างๆ ของเมซง

เหมือนเช่นใน 2 เรื่องราวที่นำมาสู่การสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นไฮจิวเวลรี่ 1936 และ Soleil d’Or Sunrise ที่เมซงได้ร่วมเฉลิมฉลองให้กับปีแห่งการเริ่มต้นและแสงแรกที่นับเป็นรากฐานสำคัญของแบรนด์มาจวบจนถึงทุกวันนี้ โดยในคอลเล็กชั่น 1936 นั้นนำเสนอด้วยชิ้นงานเครื่องประดับชั้นสูงที่ถ่ายทอดถึงจิตวิญญาณอันกล้าหาญและความเป็นนักบุกเบิกในวัยเพียง 28 ปีของ Fred Samuel ผู้ก่อตั้งเมซงขึ้น ณ ถนน Rue Royale ของกรุงปารีส ผ่านชิ้นงานต่างๆ ของคอลเล็กชั่นที่เต็มไปด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ด้านความสามารถในการปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ รวมถึงกลิ่นอายแห่งอารมณ์ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุข ผ่านความน่าหลงใหลของการผสมผสานด้วยอัญมณีสีสันสดใส ซึ่งมอบทั้งสุนทรียะความสวยงามอันร่วมสมัยและมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ยังชูความโดดเด่นภายใต้โครงสร้างของเครื่องประดับที่เน้นการเคลื่อนไหวและปรับเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างอิสระ ขณะเดียวกันก็สวมใส่ได้จริงในทุกโอกาสและทุกๆ วัน

ในคอลเล็กชั่น 1936 จึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของแสงแรกแห่งการเริ่มต้น ที่ก่อเกิดจากความหลงใหลในอัญมณีของเฟร็ด ซามูเอล ตลอดจนแรงบันดาลใจจากท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและเฟรนช์ริเวียร่าอันเป็นสถานที่ที่เฟร็ดมีความผูกพันเป็นพิเศษ เอกลักษณ์ของคอลเล็กชั่นนี้จึงมีความเชื่อมโยงกันระหว่างการออกแบบโครงร่างซุ้มโค้ง เส้นสายแบบอาร์ตเดโค และความพลิ้วไหวของรูปทรงเรขาคณิตที่ได้ต้นแบบมาจากซุ้มโค้งแบบอาร์เคดของบูติกแห่งแรก รวมถึงที่เห็นได้ภายในสำนักงานเฟร็ดเอง ในคอลเล็กชั่นยังประกอบด้วยผลงาน 10 ชิ้น ซึ่งถ่ายทอดถึงรายละเอียดของเส้นสาย ความไม่สมมาตรอย่างมีชั้นเชิง รวมถึงเรียงร้อยด้วยรูปแบบกราฟิกอันดึงดูดสายตา ทั้งยังประดับไว้ด้วยอัญมณีหลากสีสัน โดยเฉพาะ 3 เฉดสีหลัก อย่างสีเขียวของมรกต สีน้ำเงินของแซปไฟร์ และสีแดงของทับทิม รวมถึงบางชิ้นยังจับคู่กับไข่มุกอะโกย่า ถ่ายทอดความสวยงามและความกลมกลืนระหว่างรูปทรง ความโค้งมน และสีสันที่สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับและอัญมณีของเมซงได้อย่างดี

สอดคล้องกับอีกหนึ่งสไตล์ของคอลเล็กชั่นไฮจิวเวลรี่ซึ่งเปิดตัวพร้อมๆ กันอย่าง Soleil d’Or Sunrise กับการถ่ายทอดถึงแสง โดยเฉพาะแสงแห่งดวงตะวัน อีกหนึ่งมิวส์ประจำเมซง โดยใน Soleil d’Or Sunrise นอกจากจะมีจุดเด่นของการตีความมาจากแสงอันเปล่งประกายของดวงอาทิตย์แล้ว คอลเล็กชั่นนี้ยังเผยให้เห็นถึงอีกด้านของความสวยงามภายใต้เครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง ตลอดจนอัญมณีหายากชิ้นเด่นๆ อย่างเพชรสีเหลืองล้ำค่า หรือเพชรสีขาวเม็ดเดี่ยวที่ชูความสวยงามบริสุทธิ์ได้อย่างไร้ที่ติ

ขณะเดียวกัน Soleil d’Or Sunrise ก็ยังมีองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์แฝงไว้ในแต่ละรายละเอียดของการสร้างสรรค์ด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดถึงแสงอุ่นละมุนของยามรุ่งอรุณด้วยการประดับเพชรสีเหลืองฝังแบบเกรนสลับกับเพชรสีขาวฝังแบบหนามเตย ซึ่งช่วยให้สามารถทอประกายแสงสีเหลืองอ่อนและสีขาวสลับคั่นกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผสมผสานลงตัวกับเส้นสายอ่อนละมุนของตัวเรือนเครื่องประดับ อย่างบนสร้อยคอและตุ้มหูที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบสำหรับสวมใส่ได้อย่างหลากหลาย เช่นเดียวกับแหวนประดับด้วยเพชรแบบพาเว่ ทอแสงประกายระยิบระยับของเพชรได้อย่างพลิ้วไหวและดูราวกับไร้ที่สิ้นสุด คอลเล็กชั่นนี้ยังเน้นนำเสนอชิ้นงานที่ออกแบบมาเพื่อให้สวมใส่ได้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต ซึ่งตรงกับแนวคิดของ Fred ในการรังสรรค์เครื่องประดับชั้นสูงที่เหมาะสำหรับการสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย 

ELLE Says :

จุดเด่นที่ชวนให้หลงใหลสำหรับใน 2 คอลเล็กชั่นนี้คือเรื่องราวของแรงบันดาลใจและเอกลักษณ์ต่างๆ ที่แฝงไว้ในแต่ละชิ้นงาน อย่าง 1936 ก็เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นของจุดเริ่มต้นสำหรับเมซง ที่ต้องการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดเสมอให้กับผู้ที่หลงใหลในเครื่องประดับ ส่วนใน Soleil d’Or Sunrise นั้นมีเสน่ห์ของทั้งวิวัฒนาการ งานฝีมือ และการต่อยอดจากแรงบันดาลใจซึ่งนำมาสู่การตีความใหม่ได้อย่างน่าชม เช่นการรังสรรค์โครงร่างของชิ้นงานเครื่องประดับที่เปล่งประกาย เคียงคู่ไปกับเทคนิคการตกแต่งลวดลายและการประดับอัญมณีได้อย่างกลมกลืน ทั้งยังมอบสัมผัสแห่งความเป็นธรรมชาติและความสดใสมีชีวิตชีวา  

Latest Posts

Don't Miss