Friday, October 24, 2025

เมื่อความคลาสสิกผสานกับงานออกแบบอย่างร่วมสมัยใน SIRIVANNAVARI ATELIER Fine Jewelry

SIRIVANNAVARI รังสรรค์ผลงานศิลป์แห่งเครื่องประดับที่นับเป็นดั่งจุดบรรจบระหว่างความคลาสสิกของการเลือกใช้วัสดุล้ำค่า มาผสมผสานกับมุมมองอันทันสมัยในงานออกแบบร่วมสมัย เช่นในตัวแทนแห่งความประณีต สง่างาม และหรูหราของ ATELIER Fine Jewelry คอลเล็กชั่นไฟน์จิวเวลรี่แรก และเป็นผลงานทรงออกแบบในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา รวมถึงคอลเล็กชั่น Hands คอสตูมจิวเวลรี่ที่มีความโดดเด่นของฟังก์ชั่นและรูปแบบอันเป็นอิสระ 

ในคอลเล็กชั่น ATELIER Fine Jewelry นับเป็นการถ่ายทอดถึงงานศิลป์ที่ผสานรวมเข้ากับเสน่ห์ของงานออกแบบได้อย่างกลมกลืน โดยเป็นการนำอัตลักษณ์ของแบรนด์มาสู่ผลงานเครื่องประดับ โดยเฉพาะเอกลักษณ์ของความประณีตและงดงามอันเป็นหัวใจของความเป็นแบรนด์แฟชั่นชั้นสูง ซึ่งถ่ายทอดผ่านดีไซน์และแรงบันดาลใจที่ได้มาจากอุปกรณ์ตัดเย็บและถักร้อยตลอดจนองค์ประกอบของการทำงานภายในห้องตัดเย็บอันเป็นสถานที่รังสรรค์และผลิตผลงานเครื่องแต่งกายสุดวิจิตรตระการตา

พร้อมด้วยพรสวรรค์และไหวพริบขององค์ดีไซเนอร์ คอลเล็กชั่นไฟน์จิวเวลรี่นี้จึงหล่อหลอมไว้ด้วยทุกมิติของสุนทรียะความสวยงามแห่งเครื่องประดับอัญมณีล้ำค่า ทั้งจากการคัดสรรและเลือกใช้โลหะสูงค่า ไม่ว่าจะเป็นพิงก์โกลด์ ไวต์โกลด์ และเยลโลว์โกลด์ ร่วมกับความประณีตในงานฝีมือฝังเพชร โดยผลงานทุกชิ้นล้วนผ่านการรังสรรค์และประดับตกแต่งรายละเอียดเพื่อยกย่องถึงคุณค่าและความสำคัญของอุปกรณ์ต่างๆ อย่างแถบสายวัด และเข็มถัก มอบเป็นความหลากหลายของสไตล์เครื่องประดับ นับจากกำไลข้อมือ วงกำไลแบบปลายเปิด แหวน และตุ้มหู ซึ่งต่างก็มอบอิสระในการเลือกจับคู่สวมใส่ให้เข้ากับแต่ละโอกาสและสไตล์การแต่งกายของแต่ละบุคคล อีกทั้งยังสามารถพลิกแพลงวิธีใช้งานได้ ตามแนวทางการสร้างสรรค์ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI

นอกเหนือจากคอลเล็กชั่นไฟน์จิวเวลรี่ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อการสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้อย่างอิสระแล้วแบรนด์ SIRIVANNAVARI ยังนำเสนออีกหนึ่งผลงานคอสตูมจิวเวลรี่ที่มีทั้งความชิกและทันสมัย เช่นในคอลเล็กชั่น Hands ที่เปรียบดั่งมือของนักสร้างสรรค์ ผู้เนรมิตและออกแบบเครื่องประดับอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเน้นความโดดเด่นของการเลือกนำมาสวมใส่ได้ง่ายและสนุกสนานกับการแมตช์เข้ากับสไตล์ต่างๆ ได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น คอลเล็กชั่นนี้จึงเป็นการตีความมาจากรูปทรงของมือ ตัวแทนของพรสวรรค์และความเชี่ยวชาญในฐานะนักสร้างสรรค์ โดยนำมาออกแบบให้มีทั้งรูปทรงที่ลื่นไหล ไร้กฎเกณฑ์ และเป็นอิสระ ทั้งยังถ่ายทอดผ่านเฉดสีและวัสดุที่ทันสมัย จึงรับกับทุกสไตล์ของการแต่งตัวและในหลากหลายโอกาส นับจากลุคแคชวลจนถึงการสวมใส่คู่กับเดรสสำหรับออกงาน เป็นอีกหนึ่งคอลเล็กชั่นเครื่องประดับที่สะท้อนถึงพรมแดนแห่งความงดงามและงานฝีมือที่มาพบกันได้อย่างไร้ขอบเขต

คอลเล็กชั่นเครื่องประดับทั้ง 2 คอลเล็กชั่นนี้ได้ร่วมแสดงออกถึงมุมมองอันทันสมัยที่ผสมผสานเข้ากับประเพณีการรังสรรค์เครื่องประดับอันประณีตอ่อนช้อยได้อย่างกลมกลืน ทั้งยังนับเป็นบทสรุปแห่งคว ามงดงามวิจิตรและความหรูหราที่สอดคล้องกับความนิยมแห่งยุคสมัยได้อย่างดียิ่ง 

เหมือนเช่นผลงานการรังสรรค์อื่นๆ ที่เอกลักษณ์งานออกแบบขององค์ดีไซเนอร์ยังได้ร่วมถ่ายทอดผ่านลูกเล่นและการตีความอันทันสมัยของเครื่องประดับ เช่นในคอลเล็กชั่น ATELIER Fine Jewelry กับผลงานหลากหลายชิ้นที่ตีความได้อย่างแยบคายถึงสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ อย่าง infinity หรือเลข 8 ซึ่งแฝงความหมายส่วนพระองค์แห่งวันประสูติ หรือรูปดวงดาว และพระจันทร์เสี้ยว ที่เป็นตัวแทนความงามแห่งท้องฟ้ายามราตรี ตลอดจนการผสมผสานโลโก้อักษร S หรือ S Signature เกือกม้า รวมถึงอุ้งเท้าสุนัข อันมีที่มาจากความรักในเหล่าสุนัขทรงเลี้ยงและกีฬาเกี่ยวกับม้าที่ทรงเชี่ยวชาญ

Latest Posts

Don't Miss