แน่นอนว่านาฬิกานั้นเป็นไอเท็มสุดคลาสสิกที่ไม่ว่าใครก็ต้องนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ สำหรับการหยิบมาเป็นแอ็กเซสเซอรี่ส์คู่ใจ และหนึ่งในคอลเล็กชั่นในตำนานท่ามกลางวงการนี้คงหนีไม่พ้น OMEGA Speedmaster กับประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ทางแบรนด์ได้รังสรรค์นาฬิกาเรือนนี้มาให้เป็นที่ถูกใจทั้งสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน และยังมีคุณค่าในด้านการสะสม ซึ่งในปี 2024 นี้ OMEGA ได้เปิดตัวคอลเล็กชั่น Speedmaster 38 mm เพื่อมาเติมเต็มไลน์เรือนเวลาอันเป็นที่จดจำนี้ให้ลงตัวยิ่งขึ้น และแอลก็ไม่พลาดทีจะพาคุณไปท่องโลกแห่ง Speedmaster ที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจผ่าน 5 เรื่องราวที่คุณควรรู้เกี่ยวกับนาฬิกาเรือนนี้กัน
The Background
หากพูดถึงเรือนเวลารุ่น Speedmaster หลายคนน่าจะจดจำในฐานะนาฬิกาเรือนแรกที่นักบินอวกาศสวมใส่ระหว่างท่องอวกาศ โดย Buzz Aldrin นักบินอวกาศได้พาไอเท็มนี้ติดตัวไปในการปฏิบัติภารกิจ Apollo 11 ที่มนุษย์สามารถไปเหยียบดวงจันทร์ได้เป็นครั้งแรก ในปี 1969 ซึ่งได้รับการรับรองจาก NASA สำหรับภารกิจในอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุมทั้งหมด และไม่ว่าจะโครงสร้างของตัวเรือนที่แข็งแกร่ง ตลอดจนความสามารถในการบอกเวลาที่แม่นยำในสภาพแวดล้อมแบบสุดขั้ว เรือนเวลานี้จึงได้รับฉายาว่า ‘Moonwatch’
The Inspiration
สำหรับเรือนเวลารุ่น Speedmaster 38 mm ทางแบรนด์ได้วางเป้าหมายการออกแบบคือ อยากให้ทุกคนต้องเหลียวมองสัมผัสแห่งความหรูหรา ไม่ว่าจะด้วยตัวเรือนที่ขัดเงาและขอบตัวเรือนที่ส่องประกายด้วยเพชรประมาณ 1.5 กะรัต ในส่วนหน้าปัดนั้น นักออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาของแบรนด์อันเป็นที่เลื่องชื่อในอดีต เช่น หน้าปัดสีเขียวบนนาฬิกา Moonwatch ขนาด 42 มม. และหน้าปัดสีน้ำตาลของรุ่น De Ville Chocolate มาผสมผสานและตีความใหม่แต่ยังคงดีเทลความไอคอนิกไว้เช่นเดิม
“Speedmaster เป็นนาฬิกาที่มีคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจน ทั้งความสปอร์ต ความทันสมัย แต่ไม่ทิ้งในเรื่องของดีไซน์ที่มีการพัฒนาให้เป็นหนึ่งในโครโนกราฟสำหรับผู้หญิง และถือเป็นอีกหนึ่งโครโนกราฟสปอร์ตที่น่าสนใจมากที่สุดอันหนึ่งในอุตสาหกรรมนาฬิกา”
Raynald Aeschlimann CEO & President of Omega
The OMEGA’s Milan event
เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวเครื่องบอกเวลา Speedmaster รุ่นใหม่ที่จะมาเติมเต็มคอลเล็กชั่นสุดไอคอนิก OMEGA ปักหมุดหมายจัดงานในกรุงมิลาน พร้อมนำอินสไปเรชั่นจากตัวเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการแต่งกายอย่างสง่างาม มานำเสนอเป็นธีมงานรันเวย์แฟชั่น โดยมีเหล่าคนดังมาเข้าร่วมมากมาย อาทิ Naomie Harris แบรนด์แอมบาสซาเดอร์, Alessandra Ambrosio, Alisha Boe, Jonathan Bailey และ Barry Keoghan
The Design & Materials
มาถึงสิ่งที่ทุกคนรอคอย สำหรับ 8 เรือนเวลาในรุ่น Speedmaster ที่เปิดตัวในปีนี้ ถูกออกแบบมาในขนาด 38 มม. โดยมีวัสดุตัวเรือนถึง 3 แบบ เริ่มจากวัสดุทองคำ Sedna™ 18K ที่ถือว่าเป็นวัสดุที่พัฒนาโดย Omega ซึ่งจะเป็นการเลือกใช้ทองคำ ทองแดง และแพลเลเดียม โดยฟินิชชิ่งจะให้อารมณ์ของโรสโกลด์ที่ไม่ซ้ำใคร ถัดไปด้วยวัสดุทอง Moonshine™ 18K ที่เป็นอีกหนึ่งเอกสิทธิ์ของแบรนด์เช่นกัน โดยจะเป็นการผสมผสานทองคำ ทองแดง เงิน และแพลเลเดียม ที่จะช่วยให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและมีความคงตัวของสี ปิดท้ายด้วย วัสดุสแตนเลสสตีลสุดคลาสสิก โดยทั้งหมดนี้สามารถเลือกสายนาฬิกาทอง/สแตนเลสสตีล ที่มาพร้อมระบบ comfort release หรือ สายหนังที่มีทั้งสีน้ำตาลและสีเขียว ให้เหล่าคนรักนาฬิกาได้เลือกแมตช์ตามสไตล์ของตัวเองในแต่ละวัน
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีความพิเศษที่การประดับเพชร 52 เม็ด ทั้งบริเวณตัวเรือนและเม็ดมะยมที่เพิ่มความโดดเด่นให้กับข้อมือ ซึ่งสามารถสื่อสารได้ทั้งคาแรกเตอร์ความสปอร์ต หรูหรา ทันสมัย และกลิ่นอายความเฟมินีนในขณะเดียวกัน
The Campaign
สุดท้ายกับสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการถ่ายทอดความสวยงามของดีไซน์อันยอดเยี่ยม โดย OMEGA ได้เผยแคมเปญของคอลเล็กชั่นนี้ผ่าน 3 แอมบาสซาเดอร์สาว Han So Hee, Liu Shishi และ Kaia Gerber ด้วยเซ็ตภาพที่มีทั้งความหรูหรา สง่างาม สะท้อนตัวตนของเรือนเวลารุ่นนี้และเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
โดยเรายังได้นำไอเดียการมิกซ์แอนด์แมตช์ไอเท็มนี้จากนักแสดงสุดฮอต ‘ฮันโซฮี’ มาเผื่อให้สาวๆ ได้ไปลองสไตลิ่งตามกันอีกด้วย “ฉันชอบหน้าปัดสีเขียวเป็นพิเศษ เพราะดูมีเอกลักษณ์และทันสมัย และฉันคิดว่ามันเข้ากันได้ทั้งกับลุคลำลองหรือเป็นทางการในตอนเย็น และเนื่องจากนาฬิกาเรือนนี้มีความทันสมัยมาก ฉันคิดว่ามันจะเหมาะมากเมื่อสไตล์ให้เป็นเลเยอร์กับเครื่องประดับหลากหลายชิ้น ยกตัวอย่างเช่นการจับคู่กับไข่มุกและสร้อยคอโซ่ยาว”