ในที่สุดก็ได้รับชมกันเป็นที่เรียบร้อย กับซีรี่ส์ When Life Gives You Tangerines อีกหนึ่งผลงานที่แฟนๆ ต่างตั้งตารอชมกันนับตั้งแต่เผยไลน์อัพนักแสดงนำอย่าง ไอยู กับ พัคโบกอม และนอกจากการโคจรมาร่วมงานกันของสองนักแสดงมากความสามารถแล้ว ซีรี่ส์เรื่องนี้ยังถ่ายทอดเรื่องราวความรักและชีวิตผ่านสี่ฤดูกาลที่ผันเปลี่ยนของพ่อแม่ในวัยเยาว์ ซึ่งแม้ในบางคราวอาจจะไม่หวานเหมือนดังส้ม แต่ก็ยังคงงดงาม และเชื่อว่าจะต้องทำให้หลายคนประทับใจอย่างแน่นอน แอลเลยอยากพาทุกคนมาสำรวจมุมมองต่างๆ ในซีรี่ส์ผ่านบทสัมภาษณ์นี้
Q: พวกคุณเคยผ่านผลงานแนวรักโรแมนติกมาก่อน เรื่องราวความรักระหว่างแอซุนและกวานชิกในเรื่อง When Life Gives You Tangerines แตกต่างกับผลงานเรื่องอื่นอย่างไรบ้าง?
IU: การถ่ายทอดเรื่องราวความรักตั้งแต่สมัยวัยเด็กจนต่อเนื่องไปจนถึงวัยบั้นปลายชีวิต เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าซีรี่ส์เรื่องนี้พิเศษกว่าเรื่องอื่นๆ ค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้แสดงในผลงานที่มีเรื่องราวแบบนี้ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ฉันตัดสินใจรับบทนำในซีรี่ส์เรื่องนี้ด้วยค่ะ
Park Bo Gum: เรื่องราวชีวิตของแอซุนและกวานชิกทั้งน่ารักและน่าเอ็นดูครับ และนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผมอยากร่วมแสดงในเรื่องนี้ให้ได้ครับ

Q: อะไรคือเหตุผลที่คุณตัดสินใจรับบทในซีรีส์ When Life Gives You Tangerines
IU: หลักๆ คือเรื่องราวความรักอันแสนงดงามที่เอาชนะใจฉัน และนี่เป็นครั้งแรกในฐานะนักแสดงที่ฉันจะได้รับบทตัวละครเดียวกันในหลายช่วงอายุ ฉันเลยอยากลองดูค่ะ อีกอย่าง พอได้ยินว่านักแสดงที่จะมารับบทคู่กับฉันคือพัคโบกอม เลยคิดว่าไม่ควรพลาดโอกาสนี้ค่ะ
Park Bo Gum: ผมประทับใจกับเรื่องราวความรักระหว่างแอซุนและกวานชิกที่ถ่ายทอดออกมาในตลอดช่วง 4 ฤดูกาล มันเป็นซีรีส์ที่ในอนาคตผมอยากกลับมานั่งดูกับครอบครัว และอยากแนะนำให้แฟนๆ ได้รับชม นอกจากนี้ การได้ร่วมงานคู่กับไอยูก็เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ผมตัดสินใจเล่นเรื่องนี้ด้วยครับ

Q: ในซีรีส์เรื่องนี้มีการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของตัวละครตามอายุและช่วงเวลา พวกคุณเคยคิดไหมว่าตัวเองมีการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตอย่างไรบ้างในชีวิตจริง
IU: ด้วยความที่ฉันเริ่มทำงานตั้งแต่ช่วงอายุสิบกว่าปี ทุกวันนี้จึงยังมีภาพลักษณ์ในอดีตของฉันให้เห็นเป็นหลักฐานอยู่ ฉันจึงสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนเลยค่ะ เช่น ลักษณะการพูดเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน หรือในตอนนั้นฉันรู้สึกแบบนั้นสินะ ถ้าเทียบกับช่วงที่ฉันอายุสิบกว่า ฉันรู้สึกชิลมากขึ้น มีมุมมองโลกที่กว้างขึ้น และมองเห็นถึงความสุขได้ง่ายขึ้น ตอนเด็กๆ ฉันอาจจะมีมุมที่เย็นชาบ้าง แต่ในตอนนี้ที่วัยเข้าเลข 3 แล้วก็รู้สึกว่าอ่อนโยนขึ้นค่ะ
Park Bo Gum: ผมเองก็เริ่มเข้าวงการแสดงตั้งแต่วัยสิบกว่าปีเช่นกัน ผ่านทั้งช่วงชีวิตวัยเรียน การเกณฑ์หาร ได้เจอผู้คนหลากหลายและสั่งสมประสบการณ์มากมาย ทำให้สามารถมองโลกได้กว้างขึ้นและมีเวลาย้อนกลับมามองตัวเอง เลยคิดว่าน่าจะมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเมื่อก่อนครับ

Q: นอกจากตัวละคุณแล้ว หากคุณสามารถกล่าวอะไรสักอย่างกับตัวละครในซีรีส์ ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน (When Life Gives You Tangerines) อยากจะบอกอะไรกับใคร?
IU: อยากบอกตัวละครที่ปิ๊งขึ้นมาในหัวตอนนี้ค่ะ “อึนมยอง เธอเก่งที่สุดแล้ว! เธอเองก็เก่งในทุกๆ อย่างเลยนะ!”
Park Bo Gum: ผมอยากบอกกับนักแสดงทุกคนในผลงานเรื่องนี้ตามประโยคที่เป็นชื่อซีรี่ส์ในภาษาเกาหลีเลยครับ “คุณเก่งมาก ขอบคุณสำหรับความทุ่มเทครับ” (*พัคโบกอมได้เล่นคำจากชื่อซีรีส์ที่ว่า 폭싹 속았수다 ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นเชจู ซึ่งใช้เพื่อชื่นชมและขอบคุณหลักจากผ่านความยากลำบากหรือทำงานอย่างหนัก)

Q: แอซุนและกวานชิกต่างเผชิญกับความทุกข์และความยากลำบาก ในฐานะที่รับบทตัวละครเหล่านี้ คุณได้เรียนรู้อะไรจากพวกเขาบ้าง และมีอะไรที่อยากจะบอกผู้ชมบ้าง?
IU: ดังสุภาษิตที่ว่า “เลี้ยงเด็กหนึ่งคนต้องใช้คนทั้งหมู่บ้าน” ในช่วงท้ายของซีรี่ส์มีบทคล้ายๆ กันที่กล่าวว่า “ช่วยคนแค่คนเดียว ก็ต้องใช้คนทั้งหมู่บ้าน” ซึ่งน่าจะเป็นเมสเสจสำคัญที่ซีรี่ส์เรื่องนี้อยากจะบอกทุกคนค่ะ ชีวิตของแต่ละคนย่อมมีความสำคัญ ในขณะเดียวกันฉันคิดว่า ความสามัคคี ความห่วงใย และการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามลำบากก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน และยังช่วยเติมเต็มและยกระดับความเป็นมนุษย์อีกด้วย นี่เป็นสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากการร่วมงานในซีรี่ส์เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องความรักโรแมนติกระหว่างแอซุนและกวานชิกเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และความผูกพันทางจิตใจด้วยค่ะ

Park Bo Gum: ผมเองก็เห็นด้วยกับไอยูครับ นอกจากเรื่องความโรแมนติกแล้วยังมีเรื่องของความผูกพัน ความรักที่กวานชิกมีให้แอซุนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ความซื่อสัตย์และการแสดงความรักต่อแอซุน และ คนรอบตัวนั้นทำให้รู้สึกชื่นชมตัวละครตัวนี้มาก นอกจากนั้นความซื่อสัตย์ของเขายังเป็นแรงจูงใจให้ผมใช้ชีวิตด้วยความซื่อสัตย์ต่อไปในอนาคตด้วยครับ

แล้วแต่ละฤดูกาลที่แปรผันจะพัดพาให้พวกเขาไปพบพานกับเรื่องราวอะไรต่อไปจากนี้อีกบ้าง จะมีเรื่องราวที่เรียกรอยยิ้มหรือชวนให้เสียน้ำตาอีกมากน้อยเพียงใด มาเอาใจช่วยทั้งแอนซุน กวานชิก ตลอดจนผู้คนที่พวกเขารักกันได้แล้วในซีรี่ส์ When Life Gives You Tangerines ทั้ง 8 ตอน ทาง Netflix