Friday, March 28, 2025

ย้อนประวัติศาสตร์โลโก้ GG สุดไอคอนิกของ Gucci สู่กระเป๋า Blondie ดาวเด่นของซีซั่น

Aldo Gucci หนึ่งในทายาทของ Guccio Gucci เป็นผู้ออกแบบโลโก้ GG แบบตัวจีสองตัววางเหลื่อมกันเล็กน้อยในยุค 60s จนกลายเป็นหนึ่งในโลโก้แบรนด์อันเป็นที่จดจำได้มากที่สุดไปทั่วโลก และเป็นรากฐานของดีไซน์ต่างๆ ของแบรนด์ได้อย่างไม่รู้จบ กระทั่งในปี 1971 Gucci ยื่นจดสิทธิบัตรโลโก้ GG แบบประกบกันเป็นวงกลมที่ไม่เหมือนกับดีไซน์ใดๆ ของแบรนด์ตราบจนถึงปัจจุบัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นดีไซน์ไร้กาลเวลาในทันทีของ ‘Gucci Blondie’

ดีไซน์โค้งกลมของ Gucci Blondie สะท้อนอิสระไร้กฎเกณฑ์ปิดกั้นอันเป็นจิตวิญญาณของยุค 70s ที่ขับเคลื่อนด้วยคนหนุ่มสาวชาวบุปผาชน กระเป๋าใบแรกที่ประดับโลโก้สไตล์นี้จึงทำจากหนังกลับ หนึ่งในวัสดุสุดฮิตของยุคนั้นที่ Gucci เองก็นิยมใช้ ด้วยผิวสัมผัสนุ่มมือแต่แข็งแรงทนทาน จึงให้ทั้งความหรูหราและประโยชน์ใช้สอยตรงกับปรัชญาการออกแบบของแบรนด์

และแล้วในคอลเล็กชั่น Fall/Winter 2003/2004 เป็นครั้งแรกที่โลโก้ GG วงกลมสุดไอคอนิกได้มีไลน์กระเป๋าของตนเองในชื่อ ‘Blondie’ อย่างเป็นทางการ ซึ่งกลิ่นอายเรโทรแฝงความโก้ทำให้กระเป๋า Blondie กลายเป็นกระเป๋าคู่ใจของคนรักกระเป๋าทั่วโลกได้ในทันที

จากกระเป๋าใบแรกในยุค 70s มาถึงยุคปัจจุบัน ‘Blondie’ ยังมอบประโยชน์ใช้สอยควบคู่สไตล์หลากหลายที่เข้าได้กับทุกลุค ไม่ว่าจะอยู่ในมือของ Debbie Harris นักร้องนำ Blondie วงร็อกในตำนานจากยุค 70s, มาในสี Gucci Rosso Ancora ในลุคของดาวิกา โฮร์เน่และ Kelsey Lu, ทำจาก Cuoio Toscano หนังเกรนธรรมชาติ สุดยอดงานคราฟต์ของช่างฟอกหนังในทัสคานีที่ Hannah Dodd ถือมาชมโชว์ หรือไซซ์มินิพร้อมสายโซ่สะพายไหล่สไตล์ Tian Xiwei

Sabato De Sarno ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์คนใหม่นอกจากพา Gucci กลับไปสู่ความโก้เฉียบแล้ว ยังผูกโยงแบรนด์เข้ากับจุดกำเนิดที่กุชชิโอ กุชชี ได้ไอเดียทำแบรนด์กระเป๋าเดินทางสมัยทำงานเป็นพนักงานกดลิฟต์ในโรงแรมที่ลอนดอน แคมเปญโฆษณาล่าสุดของ Gucci แบรนด์แฟชั่นเก่าแก่ของอิตาลีจึงตั้งชื่อสดุดีรากเหง้าว่า We Will Always Have London และสำแดงสปิริตเสรีไร้กรอบผ่านเด็บบี้ แฮร์ริสแห่งวง Blondie ที่นั่งแท็กซี่ลอนดอนพร้อมกับกระเป๋าคู่ใจ เป็นภาพถ่ายฝีมือ Nan Goldin ที่เผยเสน่ห์ของกระเป๋า Blondie ที่ยังเก๋ เท่ คูลเสมอ แม้เวลาจะผ่านมากว่าครึ่งศตวรรษ

แฮร์ริสแห่งวง Blondie

ลักชัวรีที่แท้จริงหมายถึงการมีตัวเลือก Gucci จึงเติมความหรูหราขั้นสุดให้กับ Blondie bag ด้วยสายที่ถอดออกและปรับความยาวให้เลือกวิธีการแคร์รี่กระเป๋าคู่ใจได้ไม่ว่าจะสะพายไหล่ คาดลำตัวหรือถือหูหิ้ว เช่นเดียวกับขนาดที่มีให้เลือกทั้ง mini, small, medium และ maxi ที่แม้ชื่อจะดูใหญ่จุใจ แต่ออกแบบให้เคลื่อนไหวไปพร้อมเจ้าของกระเป๋า จึงเป็นความจุใจที่ไม่ขัดขวางความสง่างาม นอกจากนี้ยังมีหลากสีสัน ตั้งแต่สีคลาสสิกอย่างสีดำ, cuoio สีแทนซิกเนเจอร์,  Gucci Rosso สีแดงไอคอนิก ไปจนถึงสีจิวเวลรี่สดใส รวมทั้งตัวเลือกวัสดุโดนใจ ไม่ว่าจะเป็น Cuoio Toscano หนังเกรนธรรมชาติ, ผ้าแคนวาส, ผ้าพิมพ์ลายโมโนแกรม GG Monogram Canvas ไปจนถึงหนังกลับเนื้อนุ่มชวนให้นึกถึงยุค 70s

ELLE SAYS

1. Blondie bag ทำจาก Cuoio Toscano หนังเกรนธรรมชาติที่เคลือบแวกซ์ถึง 4 ชั้นจนเนียนนุ่มเป็นพิเศษ

2. Blondie bag แบบ GG Monogram Canvas ขับเน้นโลโก้ GG ให้โดดเด่น เย็บขอบด้วยหนัง Cuoio Toscano

3. Blondie bag ในหนังกลับเนื้อนุ่มแต่คงทน ประดับโลโก้ GG ทรงกลมทำจากหนังกลับสไตล์ 70s ทุกอณู

4. โลโก้ GG ทรงกลมงานทองเหลืองเคลือบอีนาเมลสไตล์จิวเวลรี่ยุค 70s ของช่างฝีมือ Gucci

5. โลโก้ GG ทรงกลมแบบหนังเย็บบุนวมเพิ่มมิติ

TEXT: SUPHAKDIPA POOLSAP

Latest Posts

Don't Miss