Wednesday, January 8, 2025

สะท้อนเสน่ห์ใจกลางกรุงเทพมหานครไปกับบรรยากาศสุดร่มรื่นใน CAFÉ DIOR

หากใครมีโอกาสได้ผ่านใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างถนนเพลินจิต ก็จะมองเห็น Dior Gold House ที่ตั้งตระหง่านอยู่อย่างหรูหราและโดดเด่นด้วยสีทองสะดุดตา โดยบูติกเดี่ยวนอกห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มีความพิเศษซ่อนอยู่ภายในอย่าง Café Dior ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยหลากหลายพืชพันธุ์ของไทย ทำให้เราได้เพลิดเพลินตาและรู้สึกผ่อนคลายเพราะมีการตกแต่งที่สะท้อนถึงความรักที่ House of Dior มีต่อศิลปะการดำเนินชีวิต และสร้างความสุขให้กับใครที่ผ่านมาพบเห็น ผ่านการใช้เทคนิค Savior Faire ทางหัตถศิลป์ร่วมกันมรดกทางวัฒนธรรม ที่ออกแบบโดยกรกต อารมย์ดี ดีไซเนอร์ไทยที่ผสมผสานงานออกแบบกับภูมิปัญญาท้องถิ่น

สำหรับ Café Dior ถูกออกแบบสรรค์สร้างศิลปะจัดวางสามมิติอันแสนอ่อนช้อยจากไม้ไผ่ล้วน พร้อมด้วยอาณาจักรพรรณพฤกษ์ ดอกไม้ และนกน้อยในงานพิมพ์ลายชวนฝัน มองแล้วรู้สึกราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตรูปทรงสามมิติจากความสลับซับซ้อนของเทคนิคที่สืบทอดรุ่นสู่รุ่นในชุมชนช่างฝีมือท้องถิ่นต่างๆ ที่ศิลปินร่วมงาน วิจิตรศิลป์กลางกรุงแห่งนี้ และยังโดดเด่นเป็นหนึ่งด้วยบรรดาเฟอร์นิเจอร์จากงานออกแบบโดยศรัณย์ เย็นปัญญา ผู้อานวยการฝ่ายสร้างสรรค์ประจำสตูดิโอ 56 (56th Studio)

นอกจากบรรยากาศสุดร่มรื่นแล้วเราเดินทางมาสู่ส่วนของการเดินทางสู่รสสัมผัส คือความตื่นตาตื่นใจจากงานรังสรรค์โภชนศิลป์โดย Mauro Colagreco ผู้บรรจงออกแบบรายการของหวานเอมโอชโดยเฉพาะสำหรับ Dior Gold House Café Dior พร้อมกับเป็นการสะท้อนถึงมรดกทรงคุณค่าของ House of Dior


การหลอมหลวมปรัชญาและวิสัยทัศน์กว้างไกลของเชฟระดับสามดาวผู้รักและหลงใหลในศิลปะการจัดสวน รวมไปถึงความงดงามของพรรณรุกขชาติเช่นเดียวกับคริสเตียน ดิออร์ แต่ละรายการอาหารที่มีรสชาติเกินฝัน ตราตรึงทันทีที่สัมผัสกับปลายลิ้น ต่างก็ได้รับแรงบันดาลใจทางการออกแบบ และปรุงแต่งมาจากวงจรวัฎจักรธรรมชาติ ที่มีการผัดเปลี่ยนไปมาอย่างหลากหลายน่าอัศจรรย์ เช่นเดียวกับงานสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายภายในห้องเสื้อชั้นสูงของ Dior ควรค่าต่อการเป็น ‘โภชนศิลป์ชั้นสูง’ หรือ Haute-Gastronomie (โอต-กาส์โตรโนมี) อย่างแท้จริง

จากกุหลาบสู่แมลงผึ้ง รวมถึงคฤหาสน์ชนบท ‘ลา ก็อลล์ นัวร์’ วิมานที่พานักยามว่างสไตล์โพรว็องซ์ของคริสเตียน ดิออร์ ทุกสัญลักษณ์บ่งบอก ‘ความเป็นดิออร์’ ถูกดัดแปลง และถูกนำมาใช้เพื่อเติมเต็มความวิจิตรให้กับบรรดาของหวาน และขนมแป้งพายที่อบจนสมบูรณ์แบบ และจัดสัดส่วนอย่างลงตัว เช่นของหวานที่หอมละมุนเตยหอม พืชยืนต้นเมืองร้อนประจาถิ่นเอเชียอาคเนย์ ปรุงแต่งร่วมกับกลิ่นฝาดเปรี้ยว พืชยืนต้นเมืองร้อนประจาถิ่นเอเชียอาคเนย์ ปรุงแต่งร่วมกับกลิ่นฝาดเปรี้ยว และเติมความสดชื่นเจือไอเครื่องเทศของมะกรูดไทย และมะนาวผลเขียว กรวยน้าแข็งไสนมกุหลาบกับราสพ์เบอร์รี และลิ้นจี่สด ไปจนถึงขนมแป้งพายอบสอดไส้ หรือตกแต่งหน้าด้วยพิสตาชิโอ, วานิลลา หรือเสาวรส นอกจากนี้ยังมีรายการสุดเซอร์ไพรส์จาก Mauro Colagreco เป็นค็อกเทลหลากหลายรา ที่ปรุงสูตรโดยใช้เอสเซนส์สกัดจากดอกไม้ทาน้ำหอมตามแบบฉบับ Dior อย่างดอกส้มซ่าเนโรลิไปจนถึงมะลิ และลาเวนเดอร์ มหากาพย์รสสัมผัส สรรค์สร้างจากภูมิปัญญาแยบคายเพื่อถ่ายทอดความเป็นเลิศแห่ง House of Dior

“ผมยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการอันทรงเอกลักษณ์ครั้งนี้ รวมถึงยังได้ตระหนักถึงวิสัยทัศน์ร่วมอันลึกซึ้งระหว่างผม กับคริสเตียน ดิออร์ นั่นก็คือความรักต่อธรรมชาติ และศิลปะการทำสวน ซึ่งถือเป็นแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจ และสร้างสรรค์ใหม่ได้อย่างไม่มีวันจบสิ้น เป็นอีกหนึ่งวิถีในการหลอมรวมอาณาจักรแห่งการสร้างสรรค์เข้ากับความงดงามของหลากสรรพสิ่งบนผืนโลก เพื่อปลูกฝัง บ่มเพาะ และสืบสานสำนึกในคุณค่าพรรณพฤกษา และรุกขชาติให้ดาเนินต่อไปยังอย่างยั่งยืน”
Mauro Colagreco


“ผมยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมกับการเปิดตัว Café Dior ภายใน Dior Gold House ใจกลางกรุงเทพมหานคร นี่เป็นโอกาสอันหาได้ยากมากสาหรับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมวิสัยระหว่างศิลปะทางการตัดเย็บของห้องเสื้อชั้นสูงกับศาสตร์แห่งการปรุงอาหารตามวิถีโภชนศิลป์ชั้นสูง ถึงแม้จะเป็นสองวิชาชีพต่างสาขา กระนั้น กลับมีบรรทัดฐานร่วมจากการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และความประณีต พิถีพิถันทางงานฝีมือ เพื่อให้ช่างศิลป์แต่ละแขนงได้แสดงออกถึงพรสวรรค์ หรือภูมิปัญญาของตนผ่านกระบวนการอันสลับซับซ้อน ซึ่งต่างต้องอาศัยการใช้เวลาเป็นสาคัญ เหนืออื่นใด ความตระหนักรู้ หรือความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความสาคัญในการสืบสานความต่อเนื่องให้แก่บรรดาทักษะ ความชานาญเหล่านี้ ล้วนเป็นปัจจัยสาคัญอันจะขาดเสียมิได้ในการก้าวสู่จุดสูงสุดของความเป็นเลิศ”
Mauro Colagreco

Latest Posts

Don't Miss