แอลพาทำความรู้จัก คุณมิ้ง-กนกรัตน์ ตันตระเสนีย์, คุณบิงโก-รุ่งนภา วิเศษ และ คุณเคียว-ธนวัฒน์ สังข์วิเศษ เจ้าของ Bunny Clinic ที่ตอบทุกโจทย์ความกังวลเรื่องผิวพรรณพร้อมออกแบบโปรแกรมความงามตามต้องการ เติมเต็มความมั่นใจให้ทุกคนได้สวยครบทุกมิติด้วยและ คุณหมอหยก-นพ.ปกฉัตร เลิศคชาธาร แพทย์ผู้ให้คำปรึกษาด้านการทำหัตการของ Bunny Clinic

ELLE: อะไรคือจุดเริ่มต้นของการก่อตั้ง Bunny Clinic
คุณมิ้ง: เกิดจากความรักสวยรักงามของตัวเอง เลยอยากสร้างคลินิกที่ตอบโจทย์ความต้องการเรื่องการปรับรูปหน้า แก้จุดบกพร่อง เสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองและผู้หญิงทุกๆ คน จึงเป็นที่มาของ Bunny Clinic ค่ะ
ELLE: ในแง่ของด้านหัตถการความรวมถึงศัลยกรรมทางคลินิกมีวิสัยทัศน์ในการให้บริการอย่างไรบ้าง
คุณบิงโก: Bunny Clinic ใส่ใจปัญหาของลูกค้าที่เข้ามาปรึกษาปัญหาของใบหน้า โดยเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ดังนั้นหัตถการที่เราเลือกจะต้องตอบโจทย์ความต้องการแก้ปัญหาของลูกค้าเป็นสิ่งแรกและทาง Bunny Clinic เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ผ่าน อย. และเป็นผลิตภัณฑ์ที่อัพเดทนวัตกรรมใหม่ในการดูแลผิวแต่ละชั้นให้มีประสิทธิภาพ แพทย์ประจำคลินิกจะแนะนำและอธิบาย ปัญหาของผิวชั้นต่างๆ ให้คนไข้เข้าใจก่อนทำหัตถการเพื่อให้คนไข้สบายใจและไม่ลำบากใจ เนื่องจากเรามีนโยบายในการที่จะแนะนำคอร์สหัตถการให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนโดยไม่มีการยัดเยียดคอร์สหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกอึดอัดและไม่อยากกลับมาใช้บริการอีก
ELLE: ประสบการณ์การเข้ารับบริการ ในมุมมองของ Bunny Clinic อยากให้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการได้สัมผัสถึงมิติไหนบ้าง
คุณบิงโก: สำหรับผู้ที่เข้ามาใช้บริการคลินิกจะสัมผัสได้ถึงความเป็นกันเองและความใส่ใจตั้งแต่พนักงานหน้าร้านจนถึงแพทย์ประจำคลินิกที่แนะนำเรื่องหัตถการให้เหมาะสมกับใบหน้าของคนไข้ในงบประมาณที่สามารถเข้าถึงได้ โดยเริ่มต้นจะมีการคิดวิเคราะห์หัตถการที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล เป็น Individual procedures ค่ะ เราจะแนะนำและรักษาจากผิวชั้นในจนถึงผิวชั้นนอก เพื่อผลลัพธ์ผิวที่ดีแบบองค์รวม พร้อมสร้างความประทับใจแก่ผู้ที่มาใช้บริการค่ะ


ELLE: เอกลักษณ์เฉพาะหรือ ‘รูปแบบทรีตเมนต์ที่เป็นซิกเนเจอร์’ ที่ทำให้ Bunny Clinic โดดเด่นมีอะไรบ้าง
คุณมิ้ง: ความจริงทรีตเมนต์และหัตถการที่ Bunny Clinic มีหลากหลายมากเลยนะคะ แต่ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ตอนนี้จะเป็น Biostimulator กลุ่มหัตถการที่เน้นปรับปรุง Skin Quality โดยตรง ชื่อว่าโปรแกรม GOURI ซึ่งเป็นการปรับปรุงผิวหน้าโดยใช้สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง ดูกระชับ อ่อนเยาว์ขึ้น โดยไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนและยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ ตอบโจทย์กระแสเทรนด์งานผิวในตอนนี้มาก ที่เน้นผิวสวยใสสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก แล้วก็สอดคล้องกับการรักษาของเราเองด้วยที่เน้นการรักษาจากผิวชั้นในให้ดีขึ้นจนส่งผลมาถึงผิวชั้นนอกค่ะ
ELLE: หนึ่งในเทรนด์หัตถการมาแรงต้องยกให้ผลลัพธ์ที่ทำแล้วดูเป็นธรรมชาติหรือ ‘ทำเหมือนไม่ได้ทำ’ ทาง Bunny Clinic ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมหรือเทรนด์ความงามในปัจจุบันอย่างไรบ้าง
คุณหมอหยก: อย่างที่บอกไป ปัจจุบันหัตถการที่กำลังได้รับความนิยมและเป็นที่พูดถึงจะเป็นกลุ่มสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว หรือที่เรียก Biostimulator ทาง Bunny Clinic จึงได้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่าน อย. ตัวแรกของประเทศไทย ชื่อโปรแกรม GOURI และเป็น Biostimulator ตัวเดียวในปัจจุบันที่เป็น Fully Liquid PCL คือ ตัวยาเป็นของเหลวพร้อมใช้ที่ไม่ต้องผสมตัวทำละลายอื่นเพิ่มเติม จึงไม่มีตะกอนหรือสารแขวนลอย ดังนั้นจึงค่อนข้างมั่นใจเรื่องความปลอดภัย เพราะจะช่วยลดโอกาสการอุดตันเส้นเลือด และในปัจจุบันยังไม่มีรายงานการอักเสบเรื้อรังใต้ชั้นผิวหลังทำ อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติให้กับผู้ที่เข้ารับบริการ เพราะตัวยาจะกระจายตัวได้ดี แล้วค่อย ๆ ส่งผลลัพธ์ผิวที่ดีขึ้นโดยไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยน หลังทำแล้วรูปหน้ายังคงมีความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนอยู่ แต่ผิวจะดูมีสุขภาพดีและใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งลูกค้าที่มาทำจะประทับใจมากเพราะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวไปในทางที่ดีขึ้นหลังจากทำไป 1-2 สัปดาห์

ซึ่งก่อนที่เราจะนำโปรแกรม GOURI มาบรรจุเป็น 1 ในหัตถการที่ Bunny Clinic ทางแพทย์ก็จะต้องเข้ารับการฝึกอบรมเทคนิคการฉีดที่ถูกต้องจากบริษัท Edencolors ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นี้อย่างถูกต้องเพียงผู้เดียวในประเทศไทย ดังนั้นผู้เข้ารับบริการถ้ามาทำหัตการโปรแกรม GOURI ที่คลินิกเรา จะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและมีความปลอดภัย
ELLE: ในมุมมองของคุณหมอ คิดว่าอะไรคือหัวใจของการให้บริการของ Bunny Clinic ที่ช่วยให้ผู้เข้ามารับริการรู้สึกอุ่นใจและอยากกลับเข้ามาเสริมความมั่นใจกันอย่างต่อเนื่อง
คุณหมอหยก: หัวใจสำคัญของการให้บริการคือการอธิบายและให้ข้อมูลปัญหาของผิวและวิธีแก้ไขอย่างตรงไปตรงมา ตรงจุดและนำเสนอวิธีแก้ไขของปัญหาแต่ละชั้นผิวให้ผู้เข้ารับบริการเข้าใจอย่างชัดเจน โดยไม่รู้สึกมีความกังวลหรือถูกบังคับที่จะต้องรับการรักษา ทำให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกสบายใจอยากเข้ามาใช้บริการเพราะเราดูแลใส่ใจเหมือนคนในครอบครัว
ELLE: ช่วงหลายปีที่ผ่านมาทาง Bunny Clinic สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในแง่ของมาตรฐานความงามในสังคมไทยและมองว่าในอนาคตน่าจะพัฒนาไปในทิศทางในบ้าง
คุณหมอหยก: ในปัจจุบันธุรกิจความงามมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ดังนั้น Bunny Clinic จึงต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์อยู่ตลอดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการ หัวใจสำคัญของงานบริการคือความใส่ใจและติดตามผลลัพธ์ความพึงพอใจ Bunny Clinic จึงมีการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างมาตรฐานให้เทียบเท่าคลินิกชั้นนำของประเทศไทย ทั้งการเลือกผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้จะต้องมีประสิทธิภาพและความปลอดภัย ผ่านมาตรฐาน อย. ประเทศไทย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการรักษา ส่งผลให้คนไข้ประทับใจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลรักษาคนไข้ของเรา
คุณมิ้ง: และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ Bunny Clinic จะไม่หยุดพัฒนาด้านบริการและด้านความรู้ของแพทย์ผู้ให้การรักษา ที่จะต้องมีการอัพเดทเทคนิคใหม่ใหม่ตลอดเวลา ดังนั้นผู้ที่เข้ารับบริการกับบันนี่คลินิกจึงมั่นใจได้ว่าคุณหมอจะแก้ไขปัญหาได้ตรงตามความต้องการของแต่ละคนจริงๆ
หากทุกคลินิกมีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและมีการอัพเดทความรู้ของแพทย์ผู้ให้บริการและเจ้าหน้าที่ในคลินิกอยู่เสมอ จะทำให้ลดปัญหาลดความผิดพลาดที่เกิดจากการได้รับบริการในคลินิกความงามได้ค่ะ