ปลดปล่อยตัวเองสู่โลกแห่งอิสรภาพไร้พันธนาการและความกังวล ท่ามกลางแสงแดดและท้องทะเล ล่องลอยไปในคอลเล็กชั่นฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิสุดพิเศษจาก Chanel และไอดอลสาวมากความสามารถ แอลลี่-อชิรญา นิติพน ที่ร่วมกันถ่ายทอดการเดินทางครั้งใหม่นี้ไปพร้อมกันในนิตยสารแอล ประเทศไทย ฉบับเดือนมีนาคม 2025 พร้อมนั่งพูดคุยอัพเดตเรื่องราวชีวิต หมุดหมายในปี 2025 และเรื่องราวต่างๆ ที่จะเผยมุมมองด้านต่างๆ ของเธอให้กับเราได้รู้จักกันอีกครั้ง

ELLE : ปี 2025 ของแอลลี่มีหมุดหมายอะไรที่ตั้งใจไว้บ้าง?
ALLY : ปกติจะไม่ได้ตั้งไว้เลยค่ะว่าอยากจะทำอะไรให้สำเร็จ เพราะเหมือนเวลาตั้งไว้ก็จะกดดันตัวเอง บางทีหากทำไม่สำเร็จในปีนั้นก็จะรู้สึก fail ค่อนข้างจะเป็นคนที่ปล่อยไปตามเวลามากกว่า แต่ที่อยากจะทำในปีนี้คืออยากออกผลงานให้มากขึ้น น่าตื่นเต้นมากขึ้น อยากรักในงานที่ตัวเองทำมากขึ้น
ELLE : อาชีพในฝัน (หากไม่ใช่นักร้อง/นักแสดงในปัจจุบัน)
ALLY : มีหลายอย่างที่อยากเป็น จริงๆ แอลลี่อยากทำงานในค่ายเพลงมากๆ เลยค่ะ รู้สึกว่าอยากเป็น Artist Manager อยากทำมาร์เก็ตติ้ง หรือถ้าไม่ได้ทำในวงการเลยก็ไม่มีที่อยากทำเลยจริงๆ อยากทำในวงการหมด (อมยิ้ม) อ่อ อีกอย่างหนึ่งที่อยากเป็นคือสไตลิสต์ อยากเป็นดีไซเนอร์ตั้งแต่เด็กค่ะ


ELLE : ช่วยเล่าโมเมนต์แรกในการเข้าสู่วงการบันเทิงให้เราฟังหน่อย
ALLY : จำได้ว่าวันแรกที่เดบิวต์ แอลลี่ไม่รู้เลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ซ้อมมาเยอะมากจริงๆ แต่ ณ ตอนที่อยู่บนเวทีคือจำอะไรไม่ได้เลยว่าทำอะไรไปบ้าง ขึ้นไปปุ๊บ รู้ตัวอีกทีคือลงแล้ว พอเสร็จก็กลับไปที่โรงแรมที่แต่งหน้าทำผมใกล้ๆ ไปเปลี่ยนชุดกลับบ้าน ตอนลงเวทีมาก็ร้องไห้กับแม่เลยค่ะ คิดว่าตัวเองมาถูกทางหรือไม่ นี่คือสิ่งที่จะทำจริงๆ ใช่หรือไม่ ความรู้สึกมันท่วมท้นจนบอกไม่ถูก แต่พอหันกลับไปมองก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองที่มาได้ไกลขนาดนี้ จากตอนที่เดบิวต์แล้วอยากกดปุ่ม undo เลย ดีใจที่ผ่านอะไรมาได้จนถึงจุดๆ นี้ค่ะ
ELLE : หากย้อนกลับไปคุยกับตัวเองในอดีตได้
ALLY : อยากบอกว่า ‘รักตัวเองให้มากๆ ภูมิใจในตัวเองให้มากๆ อย่าอายในสิ่งที่ตัวเองเป็น’ เหมือนตอนเด็กๆ จะมีคลิปที่ไปออกรายการ ตาม Youtube บ้างอะไรบ้าง แล้วที่ผ่านมาทั้งชีวิตหลังจากได้คอมเมนต์จากตอนเด็กๆ เลยไม่กลับไปดูรายการพวกนั้นอีกเลย รู้สึกอายมากๆ ที่มีคนว่าเรา ไม่ชอบเรา แต่พอตัดสินใจกลับไปดูก็กลับรู้สึกดีใจที่ได้ใช้ชีวิตตอนเด็กแบบนั้น เราได้เรียนรู้ในการเป็นตัวเองจากตอนนั้นนี่แหละ ถ้าไม่มีตอนนั้นก็คงไม่เป็นตัวเองอย่างทุกวันนี้

ELLE : หากสลับร่างกับคนคนหนึ่งได้จะสลับกับใคร เพราะอะไร?
ALLY : อยากสลับร่างกับหมาของตัวเองค่ะ (อมยิ้ม) เพราะเขาสามารถตื่นสายได้ทุกวัน ตื่นเที่ยงเลย เป็นหมาที่นอนเร็ว ตื่นช้ามาก นอนทั้งวัน คือทั้งครอบครัว ทั้งแม่หรือเพื่อนที่มาบ้านรักหมาตัวนี้มาก เราให้ความรักมากจนอยากรู้ว่ารู้สึกอย่างไรเวลาอยู่กับคนที่รักเขามากขนาดนั้น
ELLE : ถ้าเกิดคุณมีพลังวิเศษขึ้นมา คุณอยากมีพลังแบบไหน เพราะอะไร?
ALLY : อยากหยุดเวลาได้ค่ะ อยากหยุดไว้ก่อนที่นาฬิกาจะปลุก เพราะอยากนอนต่ออีกนิดหนึ่ง แต่จริงๆ อยากเทเลพอร์ตได้เหมือนกัน เพราะเราจะได้เทเลพอร์ตตัวเองไปถึงที่ทำงานเลย ไม่ต้องรถติด ได้นอนต่ออีกหน่อยเหมือนกัน ถ้าให้เลือกอยากหยุดเวลามากกว่า น่าจะคุ้มกว่า (อมยิ้ม)


ELLE : สัตว์ประจำตัวของคุณคืออะไร เพราะอะไร?
ALLY : จริงๆ แล้วแอลลี่มีอิโมจิที่ใช้แทนตัวเองค่ะ มีใช้อยู่ 2 อิโมจิแทนชื่อตัวเองในโซเชียลมีเดีย ก็จะมีรูปนกฮูกกับหัวใจสีฟ้าอ่อน ที่เป็นนกฮูกเพราะว่านอนดึกมาก ชอบนอนดึก เพราะรู้สึกว่าสมองจะทำงานได้ดีที่สุดช่วงนั้น ไม่รู้ทำไม รู้สึก productive มากกว่า เวลาถ่ายซีรี่ส์แล้วกองนัด 5 โมงเย็นถึงตี 5 คือจะมีความสุขมากกว่าช่วง 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นมากๆ ค่ะ สามารถทำอะไรก็ได้ตอนกลางคืนโดยที่ไม่ง่วงเลย
ELLE : ลิสต์ 1 เพลงโปรด 1 หนังสือเล่มโปรด และ 1 ภาพยนตร์/ซีรี่ส์เรื่องโปรดของคุณในตอนนี้
ALLY : ‘Make It Hot’ ค่ะ คือปกติไม่ค่อยฟังเพลงของตัวเองเลย นานมากๆ ที่จะมานั่งฟังแบบจริงๆ จังๆ เพราะด้วยความที่ต้องทำงานทุกวัน ต้องอยู่กับเพลงตัวเองทุกวันก็คงไม่ได้มีฟีลมานั่งฟัง แต่ว่าชอบเพลงนี้มากจนสามารถฟังได้ตลอดจริงๆ ไม่ได้รู้สึกว่าอื้อหือนี่เพลงเราเองนะ เขิน อะไรแบบนั้น (อมยิ้ม) ส่วนหนังสือคือ ‘The Silent Patient’ โดย Alex Michaelides มันเป็นแนวทริลเลอร์ น่ากลัวมาก อ่านแบบวันเดียวจบเลยค่ะ ว้าวมากจริงๆ ส่วนซีรี่ส์เรื่องโปรดคือ ‘สาธุ’ ค่ะ ต้องกลับไปดูเพราะว่ากำลังถ่ายซีซั่น 2 กันอยู่ค่ะ ดูว่าทำอะไรไปบ้าง เกิดอะไรขึ้นบ้าง คาแร็กเตอร์เป็นอย่างไร เพื่อรือฟื้นความทรงจำ พอไม่ได้ดูนานแล้วเลยต้องดูให้จบเพื่อให้เข้าใจ


ELLE : แอลลี่ 100% ในเวอร์ชั่นปี 2025 มีส่วนประกอบของใคร/อะไรอยู่ในตัวบ้าง?
ALLY : ครอบครัว (รวมน้องหมา) 40%, เพื่อน 25%, การท่องเที่ยว 5%, งาน/การเติบโตด้านการงาน 30%
ELLE : ความรู้สึกกับการมาเป็นคัฟเวอร์เกิร์ลของ ELLE และการร่วมงานกับ Chanel ครั้งนี้
รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ เลยค่ะ แอลลี่ทำงานกับ ELLE มาตั้งแต่เดบิวต์ เลยรู้สึกดีใจทุกครั้งที่ติดต่อมา ชอบถ่ายแบบและสัมภาษณ์กับ ELLE มาก อยากร่วมงานกันไปเรื่อยๆ ค่ะ ส่วนการมาเป็นคัฟเวอร์เกิร์ลก็เขินๆ หน่อยค่ะ ไม่ค่อยออกโลเกชั่นแบบนี้เท่าไร ปกติจะถ่ายแต่ในสตูดิโอ รอบนี้ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ค่ะ เจอบรรยากาศใหม่ ได้อยู่กับธรรมชาติ สนุกมากๆ เลยค่ะ
ELLE : ฝากผลงานของตัวเองในช่วงนี้
ALLY : แอลลี่จะมีโปรเจ็กต์พิเศษที่ออกมาเร็วๆ นี้ จะมีเพลงออกมาด้วยค่ะ ปีนี้ยังมีเรื่อง ‘สาธุ 2’ ด้วยค่ะ ฝากทุกคนติดตามผลงานกันเยอะๆ นะคะ
Photographer : Montis Songsombat
Fashion Director : Sarunrat Panchiracharoen
Fashion Editor : Preuksapak Chorsakul
Make up : Kwankhao Sumalee
Hair : Sarawut Lapa
Assistant Photographer : Anop chapakdee, Yuranan Bunpeng
Assistant Stylist : Chatchawan Kanmo, Chanidapha Swatdirurk
Asisstant Hair Stylist : Pornthip Supunno