เป็นเรื่องน่าเศร้าทุกครั้งที่เกิดการสูญเสียขึ้นในวงการบันเทิง เพราะทุกคนที่จากไปก็ต่างเป็นที่รักของใครเสมอ และทุกครั้งที่วันครบรอบผ่านมาก็จะทำให้นึกถึงคนที่ไม่อยู่ตรงนี้แล้ว สองวันที่ผ่านมานี้เองก็เป็นวันครบรอบการจากไปของ Amy Winehouse ซึ่งก็เป็นเวลากว่า 12 ปีแล้วที่เราได้สูญเสียศิลปินมากความสามารถคนนี้ไป แต่สิ่งที่เธอทิ้งไว้กลับไม่เคยไปไหนเลย แล้วยังเติบโตขึ้นในทุกวันเสียอีก แอลจึงได้รวบรวม 3 เรื่องราวที่ Amy ทิ้งไว้และยังถูกส่งต่อมาเรื่อยๆ ถึงคนรุ่นหลัง
She, who paved the way
Amy Winehouse เป็นที่รู้จักด้วยเสียงร้องทุ้มต่ำอันเป็นเอกลักษณ์ และแนวเพลงที่ผสมผสานกันระหว่าง Jazz, R&B และ Reggae โดย Amy ได้ประสบความสำเร็จระดับนานาชาติในอัลบั้มที่สอง Back to Black เพราะดนตรีของเธอเข้าสู่สหรัฐอเมริกาด้วยการเปิดตัวที่อันดับ 7 ในชาร์ต Billboard 200 โดย Amy เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งจากเพลง Rehab, Back to Black และ Valerie ที่นำไปสู่รางวัลและการร่วมงานกับศิลปินมากมาย เธอยังได้รับรางวัลแกรมมี่จากอัลบั้มนี้ ทั้งรางวัลใหญ่อย่าง Record of the Year และรางวัลอื่นๆ ที่รวมให้เธอชนะไปถึง 5 รางวัลในคืนเดียว มันทำให้เธอกลายเป็นศิลปินหญิงบริติชคนแรกที่ชนะรางวัลแกรมมี่มากที่สุดในหนึ่งคืน
เธอถูกยกให้เป็นไอดอลจากศิลปินในปัจจุบัน อย่าง Adele อีกหนึ่งนักร้องเสียงทรงพลังจากเกาะอังกฤษ ที่บอกว่า “Amy นั้นได้ปูทางไว้สำหรับศิลปินอย่างเธอ Amy ได้ทำให้อเมริกันและทั่วโลกตื่นเต้นกับดนตรีของบริติชอีกครั้ง” ซึ่ง Adele ยอมรับเลยว่าแนวเพลงแบบแจ๊ซของเธอก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลงของ Amy และมันก็ไปนำไปสู่ความสำเร็จของ Adele ที่ทำให้เธอได้ชนะรางวัลแกรมมี่ไป 6 รางวัลในปี 2012 ซึ่ง Adele ก็ไม่ใช่เพียงศิลปินคนเดียวเท่านั้นที่พูดถึง Amy ว่าได้สร้างแรงบันดาลใจและมีอิทธิพลต่อพวกเขา ยังมี Lady Gaga, Sam Smith, Lana Del Rey, Billie Eilish และอีกมากมาย นี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นเลยว่า Amy Winehouse ได้เป็นตำนานอย่างแท้จริง
Beehive hair, Cleopatra makeup
ไม่เพียงแต่เสียงร้องเท่านั้น เพราะสไตล์ของ Amy Winehouse ก็เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ทำให้เธอเป็นที่จดจำ จากทรงผมที่ถูกเซ็ตขึ้นในทรงรังผึ้ง (beehive) ที่เธอยืมมาจาก the Ronettes เกิร์ลกรุ๊ปในยุคนั้น และสไตล์การแต่งหน้าแบบคลีโอพัตราที่ปากแดง คิ้วเข้ม และอายไลเนอร์เส้นหนา โดย Amy เล่าว่า เธอได้เห็นการแต่งหน้าแบบนี้จากสาวละตินตอนที่เธอไปทำงานที่ไมอามี่ แต่เธอกลับได้รับรางวัลศิลปินที่แต่งตัวแย่ที่สุดจาก NME Awards และยังถูกวิจารณ์ผ่านสื่ออยู่บ่อยครั้งว่าเธอดูเหมือนขี้ยา ไม่ใช่ศิลปิน
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งทรงผมที่เคยถูกล้อว่าเป็นเหมือนรังนกบนหัวเธอ และอายไลเนอร์ที่ไม่ได้สวยคมแบบที่ทุกคนคาดหวังให้มันเป็น ก็ถูกจดจำในฐานะทรงผมและเมคอัพของ Amy Winehouse ไปแล้ว จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีใครที่จะสามารถทำผมและแต่งหน้าในแบบเดียวกันแล้วไม่ถูกเข้าใจว่าเป็นกล่าวถึง Amy ได้ ทางเดียวที่ทำได้คงเป็นการแต่งเป็นเธอเลยในวันฮาโลวีน อย่างนักร้องนักแต่งเพลง Alessia Cara ก็เคยแต่งเป็น Amy ในปี 2021 ซึ่งก็ต้องยอมรับเลยว่า เหมือน Amy มากจริงๆ
Remind people of what matters
จริงอยู่ว่า Amy Winehouse เสียชีวิตด้วยภาวะแอลกอฮอลล์เป็นพิษ แต่เพราะการจากไปของเธอก็ทำให้ปัญหาสุขภาพจิตถูกพูดถึงมากขึ้น เพราะคนทั่วไปต่างเข้าใจกันดีว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นสามารถโยงไปถึงปัญหาสุขภาพจิตได้อย่างแน่นอน Amy เคยให้สัมภาษณ์อยู่หลายครั้งว่าเธอเคยทำร้ายร่างกายตัวเอง มีอาการซึมเศร้า และมีปัญหาด้านการกิน (eating disorders) ซึ่งทางครอบครัวของ Amy เองก็สันนิษฐานว่าคงเป็นผลจากการเสียชีวิตของย่าเธอในปี 2006 ที่ทำให้เธอต้องหันไปพึ่งสารเสพติด
และจากการที่ Amy มีชื่อเสียงและถูกจับตาดูอยู่เสมอก็ยิ่งทำให้อาการแย่ลงจนต้องใช้สารเสพติดมากขึ้น เธอถูกพูดถึงในทางเสียๆ หายๆ จากคนแปลกหน้า และเจอความกดดันในฐานะที่เป็นคนมีชื่อเสียงอยู่เสมอ แม้ว่าสุดท้ายเธอจะพยายามเลิกใช้สารเสพติด ทั้งเข้ารับการบำบัดและเข้าพบจิตแพทย์ แต่ก็สายไปเสียแล้ว ซึ่งภายหลังจากที่เธอเสียชีวิตจนมาถึงตอนนี้ คนก็ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้นอย่างล้นหลาม
คลิปการแสดงสุดท้ายของเธอยังคงถูกแชร์อยู่ซ้ำๆ ด้วยแคปชั่นและคอมเมนต์ในเชิงว่า “ในตอนนั้นพวกเราดูไม่ออกกันได้อย่างไรนะว่าเธอไม่ไหวแล้ว” หรือ “พวกเราควรจะช่วยเธอได้สิ” และอีกมากมายเผื่อตอกย้ำให้ทุกคนใส่ใจคนรอบข้าง คิดก่อนที่จะพูดหรือพิมพ์อะไรออกมา และตระหนักไว้เสมอว่าปัญหาสุขภาพจิตนั้นต้องได้รับการใส่ใจให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียแบบนี้อีก
@rnb.vibe She is so talented and her songs are fire #amywinehouse #lastconcert #loveyou #backtoblack #4upage #fup #foryoupage ♬ Iced Coffee – Arthur Hill
หลังจากที่ได้รู้เรื่องราวของ Amy ทุกครั้งที่ฟังเพลงของเธอก็คงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โดยเฉพาะเพลง ‘Rehab’ ที่เล่าประสบการณ์ของ Amy ว่าเธอจะไม่ยอมไปเข้าสถานบำบัดยาเสพติดหรอก ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามสักเท่าไหร่ เธอก็จะบอกว่า No no no…
Text: PRYFHA WANNAMAETHANGKOON