Tuesday, January 21, 2025

มองโลกของสตรีผ่าน 10 หนังยอดเยี่ยมจากฝีมือผู้กำกับหญิง

หลายต่อหลายครั้งภาพยนตร์บางเรื่องมักมีฉากชวนอึดอัดใจสำหรับผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นฉากที่จ้องมองด้วยสายตาผู้ชายมากมาย หรือถ่ายให้เห็นเนื้อหนังมังสาของผู้หญิงมากจนเกินไป นั่นคือภาพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นผ่านมุมมองสายตาของผู้ชาย (Male Gaze) แต่ในปัจจุบันที่โลกของเรามีความเท่าเทียมมากขึ้นและผู้หญิงสามารถสร้างสรรค์ผลงานจากมุมมองของพวกเธอ เราจึงได้เห็นภาพยนตร์จากมุมมองของผู้หญิง (Female Gaze) เพิ่มขึ้นบ้างแล้ว และหลายๆ เรื่องก็ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์น้ำดีเลยทีเดียว ดังนั้นเราจึงรวบรวม 10 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่จะพาคุณเข้าไปชมโลกของเหล่าสุภาพสตรีว่ามุมมองเรื่องราวในสายตาของผู้หญิงนั้นเป็นอย่างไร และมันอาจกลายเป็นภาพยนตร์เรื่องโปรดของคุณในอนาคตก็เป็นได้

1.Clueless (1995) by Amy Heckerling

คุณรู้หรือไม่ว่าที่จริงแล้วภาพยนตร์ไฮสคูลสุดคลาสสิกเรื่องนี้มีต้นฉบับมาจากวรรณกรรมเรื่อง Emma ที่เป็นคุณหนูในตระกูลร่ำรวยผู้ชื่นชอบการเป็นแม่สื่อจับคู่ให้คนรักกันของนักเขียนในตำนานอย่าง Jane Austen ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมตัวละคร Cher Horowitz จึงเป็นลูกคุณหนูที่รักความสนุกสนาน เฉลียวฉลาด กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง และไม่เกรงกลัวใครเหมือนกันกับตัวละคร Emma ซึ่งเราจะพบว่าพวกเธอทั้งสองคนเปรียบเป็นภาพตัวแทนของผู้หญิงที่มีความมั่นใจกันทั้งคู่ และสิ่งนี้เองที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กสาวทั่วโลก

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างตัวละครให้มีทั้งความ Sexy & Funny แต่ไม่เป็นวัตถุทางเพศ ซึ่งถือว่ามีความหัวสมัยใหม่เป็นอย่างมากในยุคนั้น มันจึงเป็นต้นฉบับและแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์แนวไฮสคูลยุคหลังที่มีตัวละครเป็นวัยรุ่นสาวที่มีความโดดเด่นในตัวเองด้วยเช่นกัน

2.Marie Antoinette (2006) by Sofia Coppola

ภาพยนตร์ Coming of Age แบบสมัยใหม่ แต่เล่าในแบบฉบับหนังย้อนยุคที่เล่าชีวประวัติพระนางมารีอองตัวแนตต์ ในครั้งนี้ผู้กำกับ Sofia Coppola ต้องการตีความราชินีแห่งฝรั่งเศสด้วยมุมมองใหม่ๆ ด้วยการเล่าเรื่องชีวิตที่มีสีสันในวัยหนุ่มสาวของเธอและกลุ่มเพื่อนไปพร้อมๆ กับการเติบโตของตัวละครที่ไร้เดียงสา เราจึงได้เห็นการเล่าถึงตัวละครราชินีในอีกแบบหนึ่งที่แปลกใหม่ไปจากหน้าเก่าของประวัติศาสตร์

การที่เธอเลือก Marie Antoinette มาเล่าถือว่าเป็นมุมมอง female gaze ในแง่ที่เจ้าหญิงมารีอองตัวแนตต์ถูกระบอบชายเป็นใหญ่บีบบังคับให้เธอต้องแต่งงานทางการเมือง ทั้งๆ ที่เธอไม่ต้องการ ดังนั้นเมื่อเธอเดินทางจากออสเตรียมาสู่ดินแดนใหม่แห่งนี้ เธอย่อมรู้สึกแปลกแยกและไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร ความวุ่นวายในใจของเด็กสาวที่กำลังจะเป็นราชินีในอนาคตกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอต้องพยายามค้นหาตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับโลกใบใหม่ที่เธอไม่เคยรู้จักมันมาก่อนด้วยเช่นเดียวกัน

3.The Beguiled (2017) by Sofia Coppola

ภาพยนตร์แนวพีเรียดจากฝีมือการกำกับของ Sofia Coppola ยังคงเป็นสิ่งที่มั่นใจได้ว่ามันจะคุ้มค่าทุกวินาทีในการรับชม เพราะสำหรับหนังเรื่อง The Beguiled ยังคงเล่าเรื่องโลกของผู้หญิงที่อาศัยอยู่ด้วยกันในโรงเรียนศาสนาและบังเอิญต้องช่วยทหารบาดเจ็บในยุคสงคราม ทว่าเด็กสาววัยรุ่นที่กำลังอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นเรื่องความรักและความปรารถนา ย่อมทำให้เกิดเรื่องราวมากมายกับทหารหนุ่มคนนี้ แต่นี่คือโลกที่ผู้หญิงเป็นคนควบคุม ดังนั้นผู้ชายจึงถือเป็นแค่หมากตัวหนึ่งในเกมเท่านั้น ซึ่งผู้ชมก็ต้องมาติดตามต่อกันว่าเรื่องราวนี้จะจบลงอย่างไร

4.Lady Bird (2017) by Greta Gerwig

ภาพยนตร์ Coming of Age จากเจ้าแม่ภาพยนตร์แนว Female Gaze อย่างผู้กำกับหญิง Greta Gerwig เล่าเรื่องราวของตัวละครสาวน้อยวัยรุ่นที่กำลังพยายามค้นหาตัวเอง และอยากจะเป็นอิสระจากมาตรฐานหรือกฎเกณฑ์ที่โลกเคยกำหนดไว้ เธอพยายามที่จะหาคำตอบว่าตัวตนที่เธออยากจะเป็นนั้นเป็นแบบไหน เธออยากจะหลีกหนีไปจากสิ่งที่เธอไม่ต้องการ รวมถึงโอบรับผลลัพธ์ทุกอย่างที่ตามมาจากการเลือกและตัดสินใจของเธอ ซึ่งเราเชื่อว่าผู้ชมน่าจะตกหลุมรักสาวน้อยผู้หลงใหลในอิสระอย่าง ‘Lady Bird’ อย่างแน่นอน

5.Little Women (2019) by Greta Gerwig

ภาพยนตร์เรื่อง สี่ดรุณี หรือ Little Women ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนชื่อดังก้องโลกของ Louisa May Alcott ซึ่งการที่เธอเป็นนักเขียนหญิงผู้กล้าที่จะเขียนหนังสือในยุคที่มีแค่เพียงผู้ชายเป็นนักเขียนได้ย่อมทำให้เนื้อเรื่องของ Little Women เกิดขึ้นจากมุมมองของผู้หญิงที่ต่อสู้กับระบบปิตาธิปไตยมาตั้งแต่ต้น

ส่วนเนื้อเรื่องในหนังนั้นเล่าปัญหาที่ผู้หญิงต้องเจอในอดีต อย่างตัวละครแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกทั้งสี่คน น้องสาวที่ต้องแต่งงานกับผู้ชายที่มีฐานะเพื่อให้ครอบครัวสบายขึ้น หรือพี่สาวที่พยายามส่งงานเขียนในชื่อของผู้ชายเพื่อหาเงินส่งครอบครัว ต่างก็เป็นการต่อสู้กับโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่กันทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ผู้กำกับ Greta Gerwig สามารถเล่าเรื่องราวนี้ออกมาให้เข้าใจง่าย ซาบซึ้งกินใจ และเห็นภาพตัวละครหญิงทั้งสี่คนที่มีความแข็งแกร่งแตกต่างกันไปในแบบของตนเองได้เป็นอย่างดี เราจึงเชื่อว่าหากคุณได้ชม Little Women คุณก็น่าจะประทับใจหนังเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

6.Portrait of A Lady on Fire (2019) by Céline Sciamma

นี่คือเรื่องราวรักต้องห้ามระหว่างผู้หญิงสองคนภายใต้โลกชายเป็นใหญ่ ฝ่ายหนึ่งคือจิตรกรที่ต้องเป็นคนวาดรูปผู้หญิงอีกคนเพื่อนำไปใช้ในการดูตัวสำหรับแต่งงาน และอีกคนเป็นแบบวาดรูปที่กำลังจะถูกจับคลุมถุงชน ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงพยายามฉายภาพโลกที่มีแต่ผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน และแทบไม่มีตัวละครชายให้ปรากฏเห็นในเรื่องเลยแม้แต่น้อย กระนั้นแล้ว สิ่งที่เพศชายทำในเรื่องนี้ก็ยังส่งผลกระทบกับชีวิตพวกเธออย่างมหาศาลอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณเห็นภาพชีวิตและความสัมพันธ์ของตัวละครที่ซาบซึ้งกินใจ รวมไปถึงองค์ประกอบทางศิลปะที่งดงามไม่แพ้กันอีกด้วย

7.Harley Quinn: Birds of Prey (2020) by Cathy Yan

หลังจากที่มีการวิจารณ์ในหมู่แฟนคลับหญิงต่อฉากของ Harley Quinn เปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าผู้ชายนับร้อยในภาคก่อนหน้า ในภาคต่อของภาพยนตร์ Anti-Hero เรื่องนี้คือหนังเพื่อนหญิงพลังหญิงอย่างแท้จริง เพราะผู้กำกับหญิงชาวเอเชียอย่าง Cathy Yan สร้างสรรค์เรื่องราวของการช่วยเหลือกันระหว่างผู้หญิงที่มีความแตกต่างกัน แม้ว่าพวกเขาจะเคยเป็นศัตรูกันมาก่อน แต่ตัวละครทุกตัวก็ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจนสำเร็จเสร็จสิ้น เราจึงได้เห็นการทำงานเป็นทีมเวิร์กและการต่อสู้ที่สนุกไม่แพ้กับตัวละครฮีโร่ชาย

นอกจากนี้ทางทีมคอสตูมยังมีการปรับเสื้อผ้าของตัวละคร Harley Quinn ให้ดูปลอดภัยมากขึ้นกว่าภาคก่อนหน้า ด้วยการทำให้เสื้อผ้าไม่เปิดเผยเนื้อหนังของนักแสดงมากจนเกินไป เพราะก่อนหน้านี้นักแสดงสาวอย่าง Margot Robbie เปิดเผยว่าเธอไม่ค่อยชอบเสื้อผ้าของภาคแรกเท่าไรนัก เราจึงได้เห็นมุมมองของทีมงานหญิงต่อการทำหนังที่ทำให้นักแสดงหญิงรู้สึกสะดวกใจในการทำงานมากขึ้นด้วยเช่นกัน

8. Hustlers (2019) by Lorene Scafaria

ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสาวอาชีพนักเปลื้องผ้าที่รวมตัวกันหลอกล่อเอาเงินจากนักธุรกิจชายหน้าเลือดในมหานครนิวยอร์ก ผู้ชมจะเห็นภาพเพื่อนหญิงพลังหญิงที่ร่วมมือกันทำงานเป็นทีมในหนังเรื่องนี้ พวกเธอช่วยเหลือกันตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนถึงเรื่องใหญ่ นอกจากนี้เรื่องราวก็แสดงให้เห็นถึงโลกของผู้หญิงที่พวกเธอรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้พูดคุยแลกเปลี่ยนอย่างหมดเปลือกเกี่ยวกับเรื่องร่างกายหรือแม้แต่เรื่องความสุขทางเพศของพวกเธอก็ตาม

หากใครที่กำลังมองหาภาพยนตร์ผู้หญิงสวยแกร่งใส่ส้นสูงแก้แค้นผู้ชายที่นิสัยไม่ดีล่ะก็ บอกเลยว่าเรื่องนี้คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด

9.Fleabag (2016) by Phoebe Waller-Bridge

Fleabag ไม่ได้เป็นภาพยนตร์เหมือนกับเรื่องราวอื่นๆ แต่เราอยากจะยกมาพูดถึง เพราะมันถือเป็นซีรี่ส์ตลกร้ายที่นำเสนอเรื่องผู้หญิงจากผู้หญิงที่มีพล็อตเรื่องน่าสนใจ โดยตัวละครในเรื่องที่ชื่อว่า Fleabag เป็นผู้หญิงมีชีวิตค่อนข้างวุ่นวายและมีปัญหารายวัน แต่เธอยังคงพยายามเอาชีวิตรอดในโลกที่เธอต้องต่อสู้อยู่ทุกวัน ทว่าเธอไม่เคยยอมแพ้และพยายามใช้ชีวิตให้ดีที่สุด และเธอยังยิงมุกด้วยการหันมาคุยกับผู้ชมผ่านกล้องด้วยเรื่องตลกร้ายที่ฟังแล้วไม่รู้จะขำหรือสะเทือนใจกันแน่ ดังนั้นเราเชื่อว่าบทของเรื่องนี้จะเฉียบคมบาดใจผู้ชมแน่นอน

นอกจากนี้นักแสดงหญิงในเรื่องอย่าง Phoebe Waller-Bridge ยังเป็นทั้งผู้กำกับ คนเขียนบท และในเวอร์ชั่นละครเวทีเธอก็เป็นคนแสดงเองทั้งหมด เรียกได้ว่าเป็น ‘One Woman Show’ ที่แท้จริงเลยล่ะ

10.Magic Mike XXL (2015) by Gregory Jacobs

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่อง Magic Mike XXL จะเป็นหนังที่ไม่ได้กำกับโดยผู้หญิงเหมือนกับเรื่องอื่นๆ แถมยังเต็มไปด้วยนักเต้นเปลื้องผ้าชาย แต่ใครจะเชื่อเมื่อได้ยินครั้งแรกล่ะว่าหนังเรื่องนี้ยังถือเป็นการเล่าในมุมมองของผู้หญิง เพราะตัวละครผู้หญิงที่ไปคลับชมผู้ชายเปลื้องผ้านั้นเป็นภาพตัวแทนความต้องการด้านเพศของสตรี มากไปกว่านั้นแล้วมันยังถือเป็นกิจกรรมสนุกๆ ที่ผู้หญิงอยากจะลองทำหรือสำรวจตามใจปรารถนา ฉะนั้นมันจึงไม่ต่างอะไรกับการแสดงออกถึงรสนิยมทางเพศเฉกเช่นเดียวกันกับผู้ชายที่ไปชมคลับผู้หญิง ภาพและมุมมองที่เกิดขึ้นจึงมีลักษณะคล้ายกับ Female Gaze ในโลกภาพยนตร์นั่นเอง

Latest Posts

Don't Miss