Friday, February 7, 2025

5 จุดน่าสนใจในโชว์ LE SALON คอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ที่จะพาทุกคนหวนสู่รากฐานของ Valentino

ไปต่อกับปารีสกูตูร์วีกกันที่แบรนด์หรูสัญชาติอิตาลีอย่าง Valentino ที่จัดโชว์ครั้งนี้ภายใต้ชื่อ LE SALON เพื่อนำเสนอคอลเล็กชั่น Haute Couture ประจำฤดูกาล Spring/Summer 2024 ซึ่งผลงานนี้ Pierpaolo Piccioli ได้พาเราหวนคืนสู่รากฐานเดิมของวาเลนติโน่อยู่หลายส่วน ตามแบบฉบับของผู้ก่อตั้งอย่าง Valentino Garavani ซึ่งเราก็อยากจะพาทุกไปซูมดูทุกลุคจากรันเวย์นี้กันว่ามีดีเทลอะไรที่น่าสนใจอยู่บ้าง

The shape

เริ่มต้นกันที่โครงร่างของเสื้อผ้า สิ่งที่โดดเด่นออกมาจากคอลเล็กชั่นนี้คือ การที่แบรนด์ได้ผสมผสานทั้งการเทเลอริ่งที่มีความเนี้ยบ เฉียบคม อันเป็นเอกลักษณ์ และงานดีไซน์ที่มีวอลลุ่มเสมือนว่ามันกำลังพลิ้วไหวในแต่ละลุค โดยแม้จะไม่ได้เป็นซิลลูเอ็ตที่ดูหวือหวาหรือแปลกตาจนน่าตกใจ แต่มันก็ยังสร้างความน่าสนใจและสะท้อนถึงทักษะการตัดเย็บของช่างฝีมือชั้นสูงได้เป็นอย่างดี

โดยที่มาของแรงบันดาลใจในการออกแบบนั้นมาจากที่ดีไซเนอร์ได้ตั้งคำถามถึงสิ่งที่คนต้องการจากงานโอตกูตูร์ในยุคปัจจุบัน ซึ่ง Pierpaolo กล่าวว่า “นักมายากลจะยังคงเป็นนักมายากลได้จนกว่าเขาจะเผยความลับของเขาเท่านั้น” ซึ่งความลับในที่นี้ก็หมายถึงเทคนิคการตัดเย็บ และนักมายากลก็คือเหล่าช่างฝีมือนั่นเอง

The color

สำหรับคอลเล็กชั่นโอตกูตูร์จาก Valentino ในฤดูกาลนี้ Pierpaolo Piccioli ได้นำสีสันกลับมาแต่งแต้มผลงานของแบรนด์อีกครั้ง โดยมีการจับสีคู่ตรงข้ามแบบ Color Blocking อย่างสีม่วงและสีเขียว รวมทั้งการใช้สีโทนใกล้เคียงกันอย่างสีแดงและสีส้ม ซึ่งเป็นการแมตช์ให้แต่ละลุคมีลูกเล่นฉูดฉาดเหมาะกับช่วงฤดูกาลและเชื่อว่าใครที่ได้ดูโชว์ครั้งนี้ก็ต้องสะดุดตากับเรื่องการเลือกสีเช่นกัน

The Florals and Feather

อย่างที่เหล่าสายแฟรู้กันว่าผลงานจากเมซงแห่งนี้มักมีดีเทลดอกไม้และขนนก องค์ประกอบของความเฟมินีนที่ Valentino Garavani ชื่นชอบมาตลอด ซึ่งในคอลเล็กชั่นนี้ก็ยังปรากฏเทคนิคการจับผ้าเป็นรูปทรงดอกกุหลาบ และเสื้อปักดีเทลขนนกที่นับเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเด่น

“สำหรับวาเลนติโน ดอกกุหลาบไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของศิลปะกูตูร์เท่านั้น แต่ยังหมายถึงความอมตะ การบ่มเพาะ และความงามที่ไม่มีวันจางหาย”

Valentino Garavani Museum

The Craftsmanship

อีกหนึ่งดีเทลที่ขาดไปไม่ได้คือเรื่องงานฝีมือ อย่างลุคที่เสื้อคลุมยาวสีชมพูที่มีลักษณะเป็นเส้นๆ เบื้องหลังนั้นคือการนำเอาผ้าออร์แกนซ่ามาตัดเย็บและปักมือซึ่งใช้เวลากว่า 415 ชั่วโมงในการรังสรรค์เลยทีเดียว และนอกจากนี้ก็ยังมีเสื้อผ้าที่ถูกทำขึ้นจากวัสดุต่างๆ ในหลายรูปทรงที่ทำให้เกิดเป็นพื้นผิวที่แตกต่างกันไปในแต่ละลุค ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นงานคราฟต์ทั้งสิ้น

The Lace

ท่ามกลางผลงานที่เต็มไปด้วยงานเทเลอริ่งสุดเนี้ยบ ในบางลุคของคอลเล็กชั้นนี้กลับมีงานที่โชว์ความเป็นหญิงสาวผู้ร้ายกาจแบบ Femme Fatale ออกมาอย่างเด่นชัดด้วยการตัดเย็บผ้าลูกไม้มาเป็นส่วนหนึ่งในผลงาน ซึ่งลูกไม้ที่มีความโปร่งบางสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของความเซ็กซี่ เย้ายวน และลึกลับไว้ได้อย่างน่าสนใจ

นอกจากดีเทลทั้ง 5 ข้อที่เราได้รวบรวมมานี้ เรายังนำภาพของทั้ง 63 ลุคมาให้ได้ชมกันด้วย ไปดูกันดีกว่าว่าจะมีอะไรในคอลเล็กชั่นนี้ที่ทุกคนชื่นชอบกันบ้าง

Latest Posts

Don't Miss