ก้าวขึ้นแท่นเศรษฐินีที่อายุน้อยที่สุดไปอีกหนึ่งคนแล้ว สำหรับ Selena Gomez ที่มีสื่อรายงานว่า เธอได้ครอบครองทรัพย์สินมูลค่าสูงถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 4.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งกว่าจะมีวันนี้ นักร้องนักแสดงสาวคนนี้ก็ได้ลงทุนในธุรกิจอย่างหลากหลายเลยทีเดียว

หนึ่งในเหตุผลสำคัญซึ่งอยู่เบื้องหลังมูลค่าอันมหาศาลของเธอคงหนีไม่พ้น Rare Beauty แบรนด์เครื่องสำอางที่เธอก่อตั้งเมื่อปี 2019 ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างถล่มทลายในทันทีที่เปิดตัว และยังคงได้รับรีวิวการันตีคุณภาพอย่างต่อเนื่องจนขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องสำอางในดวงใจของสาว ๆ ทั่วโลก
ย้อนดูความสำเร็จภายในระยะเวลาอันรวดเร็วเพียง 5 ปี ของแบรนด์ Rare Beauty เราจะพบว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีรายงานเผยว่า กิจการความงามของเธอนี้ตีเป็นเงินได้ราว ๆ กว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 72,030 ล้านบาท ตอกย้ำด้วยยอดขายจากบลัชออนเพียงอย่างเดียวที่ได้ถึง 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2023 และยังรับการยอมรับว่าเป็นเครื่องสำอางที่เติบโตเร็วที่สุดบนโซเชียลมีเดียอย่าง Instagram และ TikTok ในปี 2022 อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์เครื่องสำอางที่มีอนาคตสดใสเลยทีเดียว


ไม่เพียงแต่ธุรกิจเครื่องสำอางเท่านั้น เพราะในด้านการเป็นศิลปิน เธอก็ยังคงโลดเล่นอยู่ในวงการบันเทิงอย่างไม่มีขาดหาย ไม่ว่าจะด้วยผลงานเพลงที่มาพร้อมฐานแฟนเพลงสุดเหนียวแน่น อย่างล่าสุดกับซิงเกิล Love On ที่ปล่อยมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมถึงงานแสดงอย่างภาพยนตร์มิวสิคัลอาชญากรรมคอเมดี้ Emilia Pérez ที่พาเธอคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ร่วมกับเพื่อนนักแสดงหญิงอย่าง Zoe Saldaña, Karla Sofía Gascón และ Adriana Paz ทั้งยังสะกดผู้ชมให้ตกหลุมรักผ่านบทบาท Mabel Mora จากซีรี่ส์คอมเมดี้ลึกลับ Only Murders in the Building จนทำให้ชื่อของเธอนั้นได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในงานประกาศรางวัล Emmy Awards สาขานักแสดงนำซีรี่ส์คอเมดี้หญิงยอดเยี่ยมอีกด้วย
ด้วยเส้นทางการเป็นศิลปินของเธอที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2002 ก็ได้สั่งสมให้ชื่อเสียงของเธอนั้นเติบโตจนกลายเป็นบุคคลที่มียอดผู้ติดตามบน Instagram สูงสุดในโลกเป็นอันดับ 3 ด้วยยอดที่สูงถึง 424 ล้านคน ทำให้แบรนด์ดังอย่าง Puma และ Couch ต่างก็ยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อให้ได้จับมือร่วมงานกับเธอทั้งนั้น


นอกจากนี้ แพลตฟอร์มเพื่อสุขภาพจิตอย่าง Wondermind ที่ Selena Gomez ได้ลงทุนร่วมกับแม่ของเธอ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเชื่อมต่อกับผู้คนพร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตและเยียวยาความเจ็บปวดทางใจต่าง ๆ ก็ยังเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เสริมสร้างมูลค่าให้กับเธออีกเช่นกัน จึงไม่แปลกใจที่เธอจะได้ก้าวสู่ทำเนียบเศรษฐินีสาวที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่ง